บ้านโมเดิร์น มินิมอล
บ้านโมเดิร์น มินิมอล บ้านคือสิ่งที่แสดงออกถึงตัวตนผู้เป็นเจ้าของ และเป็นศูนย์กลางของครอบครัว ที่มักจะเลือกใส่ทุกกิจกรรมที่ชื่นชอบเข้าไปข้างใน ในบ้านที่มีเด็ก ๆ ก็ควรจะมีสเปซที่รองรับพลังงานอันล้นเหลือ ลองนึกภาพในบ้านมีพื้นที่วิ่งเล่นในสนามหญ้า มีสระว่ายน้ำคลายร้อนในช่วง summer คงทำให้รู้สึกว่าการได้อยู่บ้านนาน ๆ ช่วงปิดเทอม หรือช่วงที่มีสถานการณ์โรคระบาดไม่น่าเบื่อเท่าที่คิด เนื้อหานี้ “ จะพาไปแวะชมบ้านโมเดิร์นมิมอลที่สดชื่นกับสนามหญ้า ความโปร่งโล่งของที่ว่างในบ้าน ที่จะชวนให้ผ่อนคลายจนอยากเอนกายลงนอนกันครับ
บ้านโมเดิร์นมินิมอล สนามกว้างชวนวิ่งเล่น
บ้านในควีนส์แลนด์หลังนี้ออกแบบโดยบริษัทท้องถิ่นชื่อ Hogg & Lamb ซึ่งรู้จักกันในชื่อ B & B Residence ได้รับการต่อเติมอย่างพิถีพิถัน ด้วยส่วนหน้าอาคารใหม่เส้นสายที่คมชัด ภายในจัดทำพื้นที่ส่วนกลางที่เน้นการเชื่อมต่อกับสภาพแวดล้อมกึ่งเขตร้อนได้ดียิ่งขึ้น แม้ว่าบ้านที่มีอยู่จะตั้งอยู่ริมถนนของพื้นที่ลาดชัน
แต่การออกแบบพื้นที่ใหม่ให้ระนาบพื้นดินยกสูงขึ้น จะทำให้มั่นใจได้ถึงถึงความเป็นส่วนตัว ให้สมาชิกในบ้านใช้งานได้ผ่อนคลายซึ่งมีปฏิสัมพันธ์กับภูมิทัศน์อย่างราบรื่นและสนุกสนาน จึงกลายเป็นสวรรค์ในร่มและกลางแจ้งสำหรับครอบครัวที่จะเลี้ยงลูกเล็ก ๆ พร้อมสุนัขและไก่ของพวกเขา
สิ่งที่สำคัญของบ้านแต่ละหลังวางไว้ต่าง ๆ กัน สำหรับบ้านนี้เลือกเน้นพื้นที่กลางแจ้งกว้างๆ เพื่อรับบรรยากาศกึ่งเขตร้อนของบริสเบน แล้วจึงออกแบบตัวอาคารที่เปิดกว้างรับแสงและเงาอันคมชัด มองเห็นท้องฟ้าสีฟ้าสดใส และภูมิทัศน์สีเขียวชอุ่มได้เต็มที่ สนามเด็กเล่นที่โปร่งสบายและเป็นพื้นที่อาบแดด เป็นการจัดสเปซสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่ซ้อนทับกันอยู่ จึงใช้งานได้หลากหลายรูปแบบสำหรับทุกคน อ่านเพิ่มเติม : assetdata.land
ผนังแบบใบมีดความสูงสองเท่าถูกรวมเข้ากับที่อยู่อาศัยใหม่ เพื่อให้ร่มเงาจากแสงดวงอาทิตย์ที่จะสาดส่องเข้าสู่ตัวบ้านทางทิศตะวันตกพื้นที่ใช้งานสาธารณะใหม่ที่รวมเอาฟังก์ชันให้งานหลัก ๆ ร่วมกันไว้ในจุดเดียว อาทิ ห้องนั่งเล่นที่เปิดออกแบบกึ่งกลางแจ้ง ครัว และโต๊ะทานอาหาร Tara Villa
ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในธีมสีขาวผสมไม้โชว์เส้นสายเรขาคณิตทั้งเส้นตรงและเส้นโค้ง รวมทั้งรูปทรงต่างๆ สำหรับบ้านสไตล์มินิมอลที่สงบและเรียบง่ายแบบนี้ สิ่งสำคัญคือต้องกำจัดวัสดุ คุณลักษณะ และสิ่งรบกวนที่ไม่จำเป็นออกไป การตกแต่งทั่วไปของค็อทเทจในควีนส์แลนเดอร์ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอ่อนช้อยเช่น คิ้วและบัว เหล็กดัดถูกลบออก เพื่อให้ธรรมชาติกลายเป็นจุดสนใจของภาพ
ในห้องครัวซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวใจของบ้าน ดูโล่งโปร่งขาวสะอาดตาน่าใช้งาน เราจะเห็นว่าผนังบ้านเปิดกว้างได้กว้างจนดูเหมือนไม่มีผนัง ซึ่งการเชื่อมต่อโดยตรงจากภายในสู่ลานบ้าน ช่วยให้ผู้ปกครองสามารถดูแลลูก ๆ ของพวกเขาในขณะกำลังง่วนเตรียมอาหาร และยังสังเกตเห็นเวลาเด็ก ๆ เล่นน้ำในสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่อยู่ถัดไปด้านหลังแบบไม่คลาดสายตา
การจัดแสงสว่างในบ้าน เน้นรับแสงธรรมชาติเป็นหลักในช่วงกลางวัน ซึ่งจะเดินทางผ่านช่องเปิดรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประตู หน้าต่างบานเกล็ด ซึ่งจะให้มิติของแสงเงาตกกระทบที่สวยงาม เป็นของตกแต่งที่ไม่หรูหราไม่ต้องลงทุน แต่กลับทำให้บ้านน่าสนใจ นอกจากนี้ยังอิ่มตากับการกลับมาอีกครั้งของเส้นสายแบบ Arch โค้งและรูปทรงเรขาคณิตของทุกองค์ประกอบบ้าน ที่รวมกันแล้วรู้ว่าได้ถึงคำว่า “น้อยแต่มาก”
อย่างพอดีในบ้านโซนซีกโลกตะวันตกที่อากาศค่อนข้างหนาวเย็น จะต้องการพื้นที่รับแสงค่อนข้างมาก บวกกับความนิยมในการออกแบบบ้านที่เน้นความโล่งโปร่งเปิดกว้าง ทำให้เราพบว่าบ้านไม่น้อยเลือกติดตั้งประตูบานเลื่อน ประตูบานเฟี้ยมที่สามารถเปิดออกเก็บเข้าด้านข้างได้หมด ซึ่งมีข้อดีในแง่ของการระบายอากาศ รับลม และรับแสง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องระวังปัญหาเรื่องยุง แมลง ปละความไม่เป็นส่ววนตัวที่จะตามมาด้วย
บ้านโมเดิร์นมินิมอล ทึบครึ่งโปร่งที่ให้ความสุขทุกด้าน
บ้านไม่ใช่แค่สิ่งก่อสร้างที่ใช้หลบแดดฝนเท่านั้น แต่เป็นเสมือนพื้นที่ห่อหุ้มชีวิตและกิจกรรมของทุกคนในครอบครัวเอาไว้ ลองนึกภาพเด็ก ๆ เล่นอย่างมีความสุขรอบ ๆ ลานดิน ในขณะที่ผู้ใหญ่กำลังพูดคุยกันบนเฉลียงในร่ม เจ้าแมวตัวอ้วนกำลังงีบหลับบนบันได สิ่งแวดล้อมอันเป็นเอกลักษณ์ของผืนดินสร้างประสบการณดี ๆ ที่หล่อเลี้ยงความทรงจำของผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่น ทำให้บ้านเป็นสิ่งไม่มีชีวิตที่เต็มไปด้วยพลังงานของชีวิตอยู่ในนั้น การเลือกออกแบบบ้านจึงต้องเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการอยู่อาศัย
บ้านหลังนี้ที่ตั้งอยู่ในเมืองมิชิมะ จังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น พื้นที่ทั้งหมด 103.08 ตารางเมตร ออกแบบให้เป็นสไตล์โมเดิร์นหลังคาจั่วเรียบ ๆ ดูเหมือนบ้านชั้นเดียว แต่จริงๆ แล้วมี 2 ชั้นพร้อมหลังคาขนาดใหญ่ หน้าบ้านแบ่งเป็นผนังทึบฉาบเรียบครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งซีกเป็นกระจกเต็มพื้นที่ เพื่อให้แสงภายนอกเข้ามาภายในได้เท่าที่บ้านต้องการ รอบ ๆ เต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาที่ทอดยาวออกไป พร้อมรับสายลมที่น่ารื่นรมย์จากหุบเขา ทางเข้าปูด้วยหินกรวดเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับรูปลักษณ์ของบ้าน ภาพรวมดูน่าประทับใจแม้ไม่ได้มีรายละเอียดการตกแต่งมากมาย
ห้แงทานข้าวริมหน้าต่างผนังกระจก ที่ติดสูงจากพื้นเฉียงขึ้นไปตามแนวหลังคา ทำให้บ้านได้รับแสงสว่างและวิวที่สูงขึ้นมองเห็นยอดไม้เอนไหวตามแรงลม และท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีไปตลอดทั้งวัน ในช่วงที่รู้สึกว่าแดดแรงก็มีผ้าม่านฝ้ายสีขาวโปร่ง ๆ เป็นตัวช่วยกรองแสงจ้าที่ดูเป็นธรรมชาติและโรแมนติก ทุกครั้งที่นั่งทานข้าวก็จะได้ซึมซับบรรยากาศดี ๆ ที่เต็มไปด้วยความสงบสุข
ส่วนใช้งานชั้นล่างประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น ห้องทานข้าว ที่เชื่อมต่อกันเป็นห้องโถงเดียวขนาดใหญ่ มองเห็นทะลุจากด้านหน้าไปด้านหลัง ด้านข้างโต๊ะทานข้าวซุกซ่อนครัวแบบเปิดเล็ก ๆ เอาไว้ เพื่อแยกให้เป็นสัดส่วนไม่ให้กลิ่นและควันรบกวนการใช้ชีวิต แต่ยังสามารถมองเห็นและเชื่อมต่อกันได้
เพดานสูงทำให้ดูโปร่งโล่งและตกแต่งในสไตล์เรียบง่าย งานไม้ญี่ปุ่นบนผนังแบบบิวท์อินที่เชื่อมต่อโครงสร้างหลังคา เป็นผนังที่สามารถใช้งานในแนวตั้งได้ ไม่ต้องมีตู้อะไรมาวางเพิ่ม และยังให้บรรยากาศคลาสสิกที่ดูอบอุ่นและน่าอยู่ด้วยความสูงจากพื้นที่ถึงเพดานที่เท่า ๆ กับบ้านสองชั้น จึงมีพื้นที่มากพอจะแบ่งเป็นพื้นที่เก็บน้ำ ห้องเก็บของ และห้องนอน อยู่ที่ชั้นบน โดยมีบันไดที่โอบล้อมผนังนำขึ้นไป ภาพเพดานแหลม ๆ และบันไดที่วนอยู่บนผนังสร้างภูมิประเทศที่เหมือนหุบเขาเอามาเก็บไว้ภายในอาคาร
บ้านหลังคาแหลมเฉียบคม ภายในแปลนแบบเปิดที่ซึ่งผู้อยู่อาศัยสามารถเปลี่ยนตำแหน่งการใช้ได้อย่างอิสระ ความสูงของโครงการและผนังกระจกที่กินปริมาตรของชั้น 1 และชั้น 2 ทำให้เจ้าของบ้านได้ดึ่มด่ำกับความเปลี่ยนแปลงของวิวและแสงที่ส่องเข้ามาในแต่ละฤดูกาล ภายในชายคาใหญ่ที่มีลมหุบเขาพัดมาโอบล้อมบ้านอย่างอ่อนโยน หล่อเลี้ยงชีวิตที่เต็มไปด้วยสุขในทุกๆ วัน
การปิดฝ้าเพดานทำให้บ้านเรียบร้อย ซึ่งวิธีการติดตั้งก็มีหลายแบบ เช่น หลายคนชอบติดฝ้าเพดานเอียงตามรูปร่างหลังคา เพราะทำให้บ้านดูโปร่งขึ้นและระบายอากาศร้อนได้ดี ในขณะที่อยากติดฉนวนกันความร้อนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนจากหลังคา ก็มักมีคำถามว่าสามารถทำได้ไหม คำตอบคือสามารถทำได้เช่นกัน แต่ต้องตรวจดูระยะเหนือฝ้าเพดาน หรือช่องว่างระหว่างฝ้าเพดานกับหลังคา ควรมีระยะไม่ต่ำกว่า 1 เมตร เพื่อให้ช่างสามารถขึ้นไปติดตั้งฉนวนกันความร้อนได้ง่าย
บ้านโมเดิร์นมินิมอล ทุกอย่างน้อยแต่สเปซและแสงมาก
มินิมอลก็คือน้อย น้อยก็คือไม่มาก ซึ่งเป็นหัวใจของบ้านแบบญี่ปุ่นยุคใหม่ที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดี ความน้อยที่ว่านี้ส่วนใหญ่จะหนักไปตรงที่ดีไซน์เรียบ คม ง่าย ภายในไม่มีรายละเอียดของการตกแต่งมาก เฟอร์นิเจอร์ก็เป็นอีกสิ่งที่เรียกว่านับชิ้นได้ (จนบางครั้งก็อยากจะถามว่าน้อยไปไหม) แต่กลับมีบางอย่างที่ได้รับการอนุญาตให้มากได้ เช่น แสง สเปซ หรือต้นไม้ ที่ใส่ได้เต็มอัตรา บ้านหลังนี้ในญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกันครับ
สถาปนิกได้จัดการปล่อยให้แสงธรรมชาติและความเขียวขจีเข้ามาภายในตัวบ้านอย่างช้าๆ ผ่านการจัดลำดับของเฉลียงด้านหน้าที่โล่งเหมือนกรอบศาลาขนาดใหญ่สูงสองชั้น บนหลังคาใส่วัสดุโปร่งใสช่วยให้แดดส่องเข้ามาตรงลานที่ปลูกต้นไม้ท้องถิ่นญี่ปุ่นเป็นจุด ๆ ทำให้มองดูเผิน ๆ พื้นที่ตรงนี้เป็นลานสวนกลางแจ้งเปิดออกสู่ท้องฟ้า (open spcae) ทั้งที่จริง ๆ แล้วยังคงอยู่ใต้ชายคาบ้าน
ลานปลูกต้นไม้ไม่ได้มีเพียงเฉลียงหน้าบ้านเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายจุดรวม 4 แห่ง อาทิ พื้นที่ถัดจากเฉลียงเข้ามาเป็นพื้นที่นั่งเล่นด้านในยาว 5 เมตร ที่มีช่องเปิดและประตูกระจก ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสภูมิทัศน์ภายนอกโดยรอบได้ชัดแม้ว่าจะนั่งอยู่ข้างในก็ตาม ราวกับเก็บสวนกลางแจ้งมาไว้ในตัวบ้านแบบ Outside In, Inside Out ในเวลาเดียวกันการเปิดประตูบานเลื่อนที่สูงถึง 5 เมตร จะช่วยละลายขอบเขตระหว่างด้านนอกและด้านใน ปล่อยให้ลมผ่านอาคารได้อย่างอิสระ
เข้าสู่ตัวบ้านทุกองค์ประกอบเน้นความเรียบง่ายเหมือนที่เห็นจากบ้านหน้า ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่มีหลัก ๆ แค่ไม้ คอนกรีต และเหล็ก โทนสีธรรมชาติจากวัสดุและสีขาวทำให้สะอาดตาทั่วทั้งหลัง เจาะเพดานสูง 2 ชั้น แบบ Double volume ในโซนนั่งเล่นที่หุ้มด้วยไม้ เป็นการเชื่อมพื้นที่ใช้งานในแนวตั้งและทำให้รู้เหมือนเหมือนกำลังถูกโอบอุ้มโดยธรรมชาติ
บ้านแบ่งออกเป็นสองชั้น ชั้นล่างเป็นส่วนที่มีความเคลื่อนไหวมากและใช้งานส่วนรวม มีห้องนั่งเล่น พื้นที่ต้อนรับแขก ห้องทานข้าว จัดแปลนแบบ open plan ไม่มีผนังแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นห้อง ๆ เชื่อมต่อพื้นที่ในแนวนอน ส่วนชั้นสองจะเห็นไม่ชัดเจน เพราะห้องจะถูกเก็บไว้ตรงส่วนผนังที่คลุมด้วยไม้ สถาปนิกใช้วิธีเพิ่มโครงทางเดินเป็นชั้นลอยสีขาวพาดผ่านกลางบ้าน ซึ่งเดินขึ้นทางบันไดเหล็กสีขาวหน้าบ้านเป็นตัวเชื่อม ใส่แผงกันตกกระจกใส ช่วยให้มองเห็นพื้นที่ระหว่างชั้นบนและชั้นล่างได้แบบไม่มีอุปสรรค