แบบบ้านน็อคดาวน์ บ้านน็อคดาวน์ คือ บ้านสำเร็จรูป (Finished Home) ที่สร้างโดยไม่มีเสาและคาน แต่จะใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักแทน โดยยึดหลักโครงสร้างผนังรับน้ำหนัก (Wall Bearing System) ใช้วิธีการนำชิ้นส่วนมาประกอบกันให้เป็นตัวบ้าน นอกจากนี้ยังสามารถถอดชิ้นส่วนต่าง ๆ ออก เพื่อให้สะดวกเวลาเคลื่อนย้ายอีก
พร้อมทั้งยังมีการวางระบบน้ำและระบบไฟฟ้า รวมถึงการตกแต่งภายในเรียบร้อยแล้ว เมื่อติดตั้งเสร็จก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย และตอนนี้ก็มีการพัฒนาวัสดุก่อสร้างให้มีความแข็งแรงทนทาน มีอายุการใช้งานได้นานอีกด้วย
แบบบ้านน็อคดาวน์
แบบที่1 บ้านน็อคดาวน์ สำเร็จรูป โมเดิร์นทันสมัย
ดีไซน์ บ้านสำเร็จรูป ทรงโมเดิร์น รูปแบบการอยู่อาศัยยุคใหม่ กับบ้านสำเร็จรูปหรือบ้านน็อคดาวน์ ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง อาจเนื่องด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจ ประจวบกับราคาบ้านน็อคดาวน์นั้น สามารถเข้าถึงได้ง่าย ทำให้เทคโนโลยีการพัฒนารูปแบบบ้านสำเร็จรูป เป็นไปอย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น
สำหรับวันนี้นำไอเดียของ Multipod Studio กับการออกแบบที่อยู่อาศัย สามารถนำไปประยุกต์ได้ทั้ง บ้าน และ Office กับการออกแบบรูปทรงทันสมัย โมเดิร์นสไตล์ ใช้เวลาในการติดตั้งเพียงไม่กี่วัน ก็สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ทันที
ดีไซน์ภายนอกทรงกล่องสี่เหลี่ยม ใช้ระแนงไม้มาปกปิดในส่วนต่าง ๆ ทำให้บ้านที่มีเหลี่ยมมีมุมดูกลมกลืนกับสวนสีเขียวได้อย่างน่ามอง ตัวบ้านยกพื้นสูงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ดูแบนราบกับพื้นจนเกินไป ชานระเบียงด้านหน้ายื่นมาออกพร้อมหลังคาเล็กน้อย หลบแดดหลบฝน ตอนไขกุญแจเข้าบ้านได้
โทนสีเทาเข้มตัดกับสีน้ำตาลอ่อน ๆ ของไม้ จึงมีทั้งความเท่ และความอ่อนโยนอยู่ในตัว ภายในบ้านตกแต่งแบบ Open Plan ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องทานอาหารอยู่ รวมกันเช่นเดียวกับบ้านยุคใหม่ เติมมิติและลวดลายบนฝ้าเพดานด้วยงานไม้ซี่เล็ก ๆ ที่เว้นช่องพอเหมาะพอดี พื้นที่ห้องครัวเปิดช่อง กระจกบนเพดานด้านบน เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามา ลดความอับชื้น และฆ่าเชื้อโรค ทำให้การทำอาหารถูกอนามัยมากขึ้น
แบบที่2 บ้านน๊อคดาวน์ บ้านไม้ขนาดเล็ก
บ้านเล็กในป่าใหญ่ ความสุขใจที่มีได้หากพอเพียง หากเราได้สังเกตกันดูจริงๆแล้ว ว่าแต่ละวันนั้น เราใช้พื้นที่ในบ้านมากน้อยแค่ไหน จะทำให้เรารู้ได้เลยว่าที่ที่เราใช้จริงๆ ไม่ใช่พื้นที่มากมายอะไรเลย ตัวอย่างเช่น ตัวของแอดมินเอง ตื่นเช้าขึ้นมาที่ประจำการตลอด ทั้งวันก็จะอยู่ที่โต๊ะทำงานทรงกลมเล็กๆ กับเก้าอี้พนักพิงหนึ่งตัวเพียงแค่นั้นเอง เมื่อสังเกตลึกลงไปอีกว่า
หากใช้พื้นที่เพียงแค่โต๊ะทำงานนี้ ความสุขในการทำงานเราจะลดลงไปไหม และหากพื้นที่ที่ใช้ ทำงานมากขึ้นกว่าเดิมความสุขในการทำงาน จะเพิ่มขึ้นหรือเปล่า คำตอบที่แอดมินได้คือ ขนาดของพื้นที่ไม่เกี่ยว กับปริมาณความสุขของการทำงานเลย เพราะสุขแท้จริงอยู่ที่ใจ แค่ใจตัวเดียวเท่านั้นเอง
บ้านไม้หลังเล็กๆในสวนหลังนี้ ขนาดพื้นที่ที่น้อยแต่สื่อออกมา ถึงความพอเพียง ความเรียบง่ายที่แสนจะยั่งยืน เป็นบ้านหลังน้อยที่มีเพื่อนบ้านเป็นป่า เป็นต้นไม้ อากาศที่บริสุทธิ์และความสดชื่นจากธรรมชาติ รอบบ้านเปรียบเหมือนรางวัลที่เจ้าของบ้านหลังนี้ได้รับ สนามหญ้าสีเขียวไว้นอนเล่น นั่งเล่น เดินเล่น การได้สัมผัสกับพื้นดิน พื้นหญ้าเป็นการช่วยปรับสมดุลในร่างกายอีกทางหนึ่ง
ภายในบ้านมีเตียงนอนเล็กๆ โต๊ะเก้าอี้ไม้ไว้นั่งทานข้าว นั่งทำงาน ครัวเล็กๆไว้สำหรับทำอาหาร อยู่แบบง่ายๆนอนแบบง่ายๆและกินแบบง่ายๆ แล้วชึวิตก็จะมีความสุขอย่างง่ายๆเช่นกัน
แบบที่3 บ้านน๊อคดาวน์ สไตล์โมเดิร์นทรงกล่องสีขาว
โดยธรรมชาติแล้ว ความสม่ำเสมอนั้นหายาก แต่ถ้ามีก็ทำให้การสร้างบ้านง่ายขึ้น ไม่ต้องปรับหน้าดินให้เสียเวลาและเปลืองเงิน หลายคนจึงมองหาแต่ที่ดินเรียบๆ เมินพื้นที่เนินต่างระดับ ซึ่งจริงๆ แล้วความไม่สม่ำเสมอนี้ไม่ได้เป็นจุดด้อยเสมอไปในบางกรณีก็กลาย เป็นจุดเด่นได้เหมือนกัน อย่างเช่นบ้านหลังนี้ที่สร้าง ท่ามกลางเนินเขาที่คดเคี้ยว หน้าผาสูงชัน ทำให้ ‘House in Villamaria’ ดูโดดเด่นตัดกับภูมิทัศน์ธรรมชาติ ได้อย่างชัดเจน ความเป็นเอกลักษณ์นี้บ้านหาไม่ได้ในบ้านพื้นที่ราบธรรมดาทั่วๆ ไป
บ้านพักตากอากาศขนาดพื้นที่ 174 ตารางเมตรนี้ ตั้งอยู่บนเนินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากลางทิวเขาและทุ่งดอกดอกไม้ของวิลลามาเรีย ประเทศโคลอมเบีย ซึ่งห่างจากเขตเทศบาล Villamaria ในภูมิภาค Alto Arroyo เพียง 20 นาที ด้วยข้อจำกัดของที่ตั้งทำให้การขนส่งและการก่อสร้างเป็นไปได้ยากลำบาก จึงต้องเลือกเป็นอาคารสำเร็จรูปแบบโมเดิร์นทรงกล่องชั้นเดียวที่มีโครงสร้างเหล็กเป็นหลักสลับกระจกและวัสดุผนัง หลังคา ที่สามารถประกอบหน้างานได้ง่ายๆ
สถาปัตยกรรมปรากฏขึ้นควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาทางเทคนิค ซึ่งทำให้สุนทรียศาสตร์ของบ้านแสดงออกถึงโครงสร้างอย่างสร้างสรรค์ อาทิ ใช้โครงสร้างเหล็กทาสีขาวที่มีความสูง 3.75 เมตร ล้อมรอบด้วยกำแพงอิฐ “petaca” ที่ใช้สำหรับบ้านระบบโมดูลาร์และหน้าต่างบานใหญ่ติดกระจกใสที่รับประกันความต่อเนื่องของพื้นที่ระหว่างการตกแต่งภายในและภูมิทัศน์
ตัวอาคารจะถูกขึ้นเหนือพื้นดินเล็กน้อยเพื่อให้ลมไหลผ่านได้สะดวก ช่วยลดความชื้นใต้อาคารที่อาจทำให้โครงสร้างเสียหายได้ง่าย น้ำสามารถไหลลงทางลาดในช่วงเวลาฝนตก และยังเป็นการเพิ่มวิสัยทัศน์ของบ้านให้ได้รับมุมมองที่สูงขึ้นอีกนิด
ลักษณะเฉพาะของภูมิประเทศและเงื่อนไขที่กำหนดโดยภูมิประเทศ อย่างภูเขาที่สูงตระหง่านและมุมมองที่กว้างไกลไปทางทิศตะวันตกของ Caldas ซึ่งเป็นที่รู้จักว่ามีวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดเป็นสัญลักษณ์ของ Manizales เลยทีเดียว
สถาปนิกจึงพยายามดีไซน์บ้านให้มีช่องทางจับวิวเหล่านั้นให้ได้มากที่สุดผ่านช่องว่างภายนอก ผนังกระจกรอบด้าน ในขณะที่บางมุมที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หลีกเลี่ยงแสงที่เพิ่มความร้อนให้บ้านในช่วงกลางวันจะเปลี่ยนไปใช้วัสดุผนังที่มีความทึบแทน บ้านน็อคดาวน์
จุดมุ่งหมายหนึ่งของการสร้างบ้านนี้ เพื่อเน้นความเชื่อมโยงระหว่างการดำรงอยู่ของมนุษย์ บ้าน และธรรมชาติภายใน ตัวบ้านนอกจากจะมีผนังกระจกที่ดึงภูมิทัศน์ภายนอกเข้าสู่ภายในแล้ว ยังสร้างพื้นที่ธรรมชาติลงในตัวอาคารด้วย
โดยในใจกลางของบ้านจะมีลานกลางแจ้งเล็กๆ เป็นที่ว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้า (open Space) รูปร่างสี่เหลี่ยมจัตุรัส ปลูกมีต้นไม้สายพันธุ์ท้องถิ่นโดดเด่นอยู่หนึ่งต้น ดูเหมือนเป็นการล้อธรรมชาติที่เต็มไปด้วยต้นไม้อยู่รอบ ๆ อย่างน่ารัก
นอกจากจะกำหนดมุมมองสำหรับภูมิทัศน์ภายนอกแล้ว ยังควบคุมการมองเห็นกิจกรรมทั้งหมดภายในบ้านไปพร้อมๆ กันด้วย สถาปนิกเน้นไปที่การเปิดเชื่อมพื้นที่ให้ดูโปร่งโล่งลื่นไหลด้วยสเปซกว้าง ๆ เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นมีเท่าที่จำเป็น เพดานและผนังสีขาวสะอาดตาพื้นคอนกรีตเรียบเป็นผืนเดียวเหมือนไม่มีรอยต่อ สร้างความรู้สึกว่าบ้านกว้าง โปร่ง สามารถมองเห็นกันได้แบบไม่มีอุปสรรค บ้านเดี่ยว
ลองนึกภาพยามเช้าที่พระอาทิตย์ค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาเหนือทิวเขา สายลมที่เอื่อยมาปะทะตัวเบา ๆ ยามทานอาหารมื้อแรกของวันเคล้าเสียงนกร้อง ช่วงเย็นย่ำเริ่มค่ำเมื่อแสงอาทิตย์ ๆ ค่อย ๆ ลับตาเกิดการกระเจิงในแนวราบตามแนวลำแสง ทำให้เรามองเห็นดวงอาทิตย์และท้องฟ้าในบริเวณใกล้เคียงเป็นสีแดง จากนั้นแสงดาวระยิบระยับและแสงจันทร์นวล ๆ ก็มาแทนที่ พร้อมบอกลาวันเข้านอน คงเป็นความสุขที่อยากให้เกิดซ้ำ ๆ ในทุก ๆ วัน
MODULAR HOUSE คือ บ้านสำเร็จรูป หรือที่เราคุ้นเคยเรียกกันว่าบ้านน็อคดาวน์ เป็นบ้านที่สร้างขึ้นจากชิ้นส่วนสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงงานแบบมีมาตรฐาน วัสดุอาจจะเป็น เหล็ก ไฟเบอร์กลาส ไม้ OSB เน้นที่ขนย้ายได้ง่าย น้ำหนักเบา ประหยัดฐานราก แล้วนำมาประกอบกันหน้างานด้วยการใช้น็อตและสกรูแทนการฉาบด้วยอิฐ หรือปูน
ซึ่งจะทำให้งานก่อสร้างบ้านประเภทนี้มีความรวดเร็ว แข็งแรง ประหยัดค่าใช้จ่าย มีความสะอาดภายในพื้นที่ไซต์ และไม่ทำลายหน้าดิน ทั้งนี้หลายคนอาจจะรู้สึกว่าบ้านสำเร็จรูปไม่แข็งแรง แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาทั้งเรื่องวัสดุและเทคโนดลยีการก่อสร้างมากขึ้น บ้านจึงทนทานใช้งานได้นับสิบปี