สีย้อมไม้ กับ สีทาไม้ ต่างกันอย่างไร

สีย้อมไม้ กับ สีทาไม้ ต่างกันอย่างไร
สีย้อมไม้ กับ สีทาไม้ ต่างกันอย่างไร

สีย้อมไม้ กับ สีทาไม้ ต่างกันอย่างไร

สีย้อมไม้ กับ สีทาไม้ ต่างกันอย่างไร หากคุณกำลังสงสัย หรือมองหาความแตกต่างระหว่าง สีย้อมไม้ และ สีทาไม้ เพื่อการใช้งานที่ตรงจุดมากขึ้นแล้วละก็ วันนี้ น้องตี้ มีข้อแตกต่างและคุณสมบัติมาจำแนกให้เห็นกันอย่างละเอียด มาดูกันว่า หากจะเลือกใช้สีสำหรับงานไม้ ต้องเลือกซื้อสีประเภทใด ใช้กับงานแบบใด จึงจะตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด  ก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักกับสีทั้งสองประเภทนี้กันครับ

คุณสมบัติสีย้อมไม้ กับ สีทาไม้

สีย้อมไม้คืออะไร

ในวงการก่อสร้างและตกแต่ง “สีย้อมไม้” มักจะหมายถึง “สีย้อมไม้วูดสเตน (Wood Stain) ที่มีฟิล์มสีโปร่งใส (ใสและมีสี : Transparent) ใช้สำหรับทาไม้ เพื่อรักษาสภาพเนื้อไม้ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น หรือ ทาเพื่อซ่อมแซมให้งานไม้ที่ดูเก่า และทรุดโทรม กลับมามีสีสันสดใสเหมือนใหม่อีกครั้ง โดยเมื่อทาทับลงไปบนเนื้อไม้แล้ว ยังคงเห็นเนื้อไม้และลวดลายเดิมอยู่ โครงการภูวิลล่า ภูเก็ต

สีย้อมไม้ นิยมใช้กับงานภายนอก หากนำไปใช้กับงานพื้นไม้ จะใช้ “สีย้อมพื้นไม้” หรือที่เรียกกันว่า Decking Stain HOME IN PHUKET

คุณสมบัติเด่นของสีย้อมไม้
1. ไม่ต้องทาซ้ำบ่อยๆ ทนทานต่อสภาพอากาศ
2. ใช้ปกป้องพื้นผิวของไม้ให้มีความสวยงาม ยืดอายุของไม้ให้ยาวนานขึ้น
3. กันน้ำซึมเข้าสู่เนื้อไม้ แต่ปล่อยให้น้ำระเหยออกจากเนื้อไม้ด้วย (สีทาไม้กันน้ำทั้งเข้าและออก แต่น้ำจะเข้าทางปลายไม้ ทำให้ไม้ผุอยู่ข้างในโดยสังเกตได้ยาก) ภูเก็ตวิลล่า
4. สีย้อมไม้มีความยืดหยุ่น เหมาะกับเนื้อไม้ที่ไม่ว่าจะยืด หรือหดตัว สีย้อมไม้ก็สามารถแทรกซึมเข้าไปได้

สีย้อมไม้มีสูตรอะไรบ้าง

  • สีย้อมไม้สูตรน้ำ เป็นสีย้อมไม้ที่ไม่ต้องผสมอะไรเพิ่มก็สามารถนำไปใช้งานได้เลย หรืออาจผสมน้ำเพิ่มเติมบ้างเล็กน้อย เมื่อทาลงไปบนงานไม้แล้วเนื้อฟิล์มจะมีความคงทนยึดเกาะกับไม้ได้ดี แห้งเร็ว และไม่มีกลิ่นฉุน เป็นสีที่มีความปลอดภัยสูง
  • สีย้อมไม้สูตรน้ำมัน โดยทั่วไปเป็นสีที่ต้องนำมาผสมกับทินเนอร์ก่อนใช้งาน ส่วนใหญ่แล้วจะผสมด้วยอัตราทินเนอร์ประมาณ 10% ต่อปริมาณสีที่ใช้  แต่สำหรับผลิตภัณฑ์สีย้อมไม้ (สูตรน้ำมัน) ของ “Solignum Timbertone” จะแตกต่างจากสูตรทั่วไป เพราะเป็นสูตรพร้อมใช้ในขั้นตอนเดียว โดยไม่ต้องผสมกับสารใดๆ อีก ทำให้ใช้งานได้สะดวก เมื่อทาทับลงบนงานไม้แล้วจะซึมลึกเข้าสู่เนื้อไม้ จึงเหมาะกับทั้งงานภายในและภายนอก เนื่องจากมีความทนทานต่อแสงแดด ลม และฝนได้ดีกว่า ซึ่งสีที่ได้หลังทาทับลงบนเนื้อไม้ จะค่อนข้างตรงกับสีที่เลือกไว้ ทับเพียง 2 ครั้งก็จะได้สีไม้ที่สวยตามต้องการ

วิธีการเลือกสีย้อมไม้นอกจากจะต้องเลือกระหว่างสูตรน้ำกับสูตรน้ำมันแล้ว เรายังต้องเลือกความเงา-ด้านของสีที่จะใช้ด้วย เพื่อให้เห็นลายไม้เดิมซึ่งสวยงามตามต้องการ ภูเก็ต วิลล่า

ประเภทของสีย้อมไม้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้

  • สีย้อมไม้แบบใส (สีย้อมไม้แบบโปร่งแสง)
  • สีย้อมไม้แบบเงา (สีย้อมไม้แบบกึ่งโปร่งแสง)
  • สีย้อมไม้แบบกึ่งเงา (สีย้อมไม้แบบกึ่งเงากึ่งด้าน) บ้านหรู

ข้อควรรู้เกี่ยวกับสีย้อมไม้ 

  • การทาสีประเภทนี้ต้องใช้ช่างที่มีประสบการณ์เพราะต้องทาอย่างต่อเนื่อง (มิฉะนั้นจะเห็นรอยทาบต่อOverlap)  โดยต้องทารีดสีไปตามลายไม้และหมั่นกวนสีในกระป๋องอยู่เสมอและควรทาทั้ง 6 ด้านของชิ้นงานด้วย
  • ทาโดยไม่ต้องรองพื้นใดๆ และห้ามใช้สีประเภทอื่นทับหน้าด้วย ภูเก็ตวิลล่า
  • เฉดสีที่ได้อาจจะไม่ตรงกับใน Catalog เพราะขึ้นอยู่กับสีของเนื้อไม้และจำนวนครั้งที่ทา (หากทาซ้ำบ่อยๆ สีก็จะเข้มขึ้นทีละน้อย)
  • สีประเภทนี้หากอยู่กลางแจ้งจะมีอายุการใช้งานประมาณ 2-4 ปี (สีเข้มจะมีอายุนานกว่าสีอ่อน) โดยเมื่อเริ่มเห็นฟิล์มสีชั้นบนเริ่มเสื่อมสภาพควรทำการปรับปรุงทาซ่อมแซมโดยใช้กระดาษทรายละเอียดขัดลูบแล้วทาทับหน้าใหม่สามารถทำเช่นนี้ได้ 2 – 3 ครั้ง

สีทาไม้คืออะไร

เป็นสีสำหรับเคลือบเงาทาไม้ และโลหะ เป็นสีประเภทอัลขีตเรซิน (Alkyd Resin Enamel) มีฟิล์มสีแบบทึบแสง (Opque) ที่จะปกปิดเนื้อไม้ และลายไม้ มีฟิล์มสีเงามัน (บางยี่ห้อมีชนิดกึ่งเงาให้เลือก) สีประเภทนี้โดยทั่วไปจะมีกลิ่นฉุนทั้งขณะที่ทา และทิ้งกลิ่นตกค้างอีกหลายวัน  ฟิล์มสีจะแห้งช้า ประมาณ 6-8 ชม. ภูเก็ต วิลล่า

คุณสมบัติเด่นของสีทาไม้
1. เหมาะสำหรับผิวไม้และโลหะต่างๆ 
2. ปกปิดพื้นผิวเดิม ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก ทนทานต่อสภาพลมฟ้าอากาศได้ดีเยี่ยม
3. รักษาความเงางามและคงความสวยสดของสีได้ยาวนาน ช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราและตะไคร่น้ำ

สีทาไม้มีสูตรอะไรบ้าง
โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสูตรน้ำมัน แม้ว่าจะมีสูตรน้ำอยู่บ้าง ก็จะเป็น Acrylic Resin กลิ่นอ่อน แห้งเร็ว ฟิล์มสีไม่เหลืองตัวเหมือนสีทาไม้สูตรน้ำมัน ภูเก็ตวิลล่า

ข้อควรรู้เกี่ยวกับสีทาไม้

  • สีทาไม้สูตรน้ำมันจะมีอาการฟิล์มสีเหลืองตัว (สังเกตได้ง่ายหากเป็นสีขาว หรือสีโทนอ่อนๆ) 
  • การใช้กับงานไม้ภายนอก เมื่อถูกแดดและฝนจะมีอายุการใช้งานไม่ยาวนัก ด้วยไม้มีการยืดหดตัว และฟิล์มสีแบบทึบไม่สามารถยืดหดตัวตามได้
  • ก่อนทาสีทาไม้ ควรจะต้องทาสีรองพื้นไม้กันเชื้อราเสียก่อน

สรุปความแตกต่างระหว่าง สีย้อมไม้ vs สีทาไม้

  • สีย้อมไม้เป็นสีที่มีฟิล์มสีโปร่งใส (ใสและมีสี) ส่วนสีทาไม้เป็นสีที่มีฟิล์มสีทึบ
  • สีย้อมไม้มีประสิทธิภาพในการแทรกซึมเข้าไปในเนื้อไม้ได้ดีกว่าสีทาไม้ เพราะเมื่อไม้มีการยืดหรือหดตัวจะไม่ทำให้ฟิล์มสีเสียหาย ส่วนสีทาไม้ฟิล์มสีจะไม่สามารถยืดหดตัวไปตามเนื้อไม้ได้
  • สีย้อมไม้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการโชว์ลายไม้ เพราะสามารถย้อมสีให้ใกล้เคียงสีไม้ธรรมชาติได้มากที่สุด ส่วนสีทาไม้สูตรน้ำมัน เป็นการลงสีเพื่อปกปิดพื้นผิวไม้ ภูเก็ต วิลล่า

สรุปการเลือกใช้งานระหว่าง สีย้อมไม้ vs สีทาไม้

จากข้อมูลคุณสมบัติของสีทั้งสองชนิดข้างต้น คงจะทำให้ได้คำตอบกันไปไม่มากก็น้อยแล้วว่างานของเรานั้นน่าจะเหมาะกับสีชนิดใด ทั้งนี้ หลักๆ ก็คงขึ้นอยู่กับว่าต้องการให้ไม้ที่ทาเป็นอย่างไร บ้านหรู หากต้องการให้เห็นลายไม้ชัดเจนแบบฟิล์มสีใส โชว์ลายไม้ ก็เหมาะสมกับสีย้อมไม้ แต่หากต้องการให้ไม้มีสีสันตามต้องการ หรือต้องการปกปิดลายไม้ ให้เลือกใช้สีทาไม้ โดยสีทั้งสองชนิดนี้สามารถปกป้องเนื้อไม้ได้ทั้งคู่ แต่จะมีคุณสมบัติเด่น-ด้อย แตกต่างกันไปตามที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งหมด Phuket Villas

เทคนิคการทาสีบ้านไม้

ไม้เก่านั้น หลักๆเลยจะมีการทาสีไม้เก่าอยู่เเล้ว 2 ชนิด คือ เเบบทึบเเสง เเละ โปร่งเเสง จะสังเกตุอย่างไรว่า อันไหนทึบเเสงหรือโปร่งเเสง หลักการก็คือ ภูเก็ต วิลล่า

สีทึบเเสง : คือ ทาสีเเล้ว เราจะไม่เห็นความเป็นเนื้อไม้อยู่เลย ไม่เห็นลายไม้ เเต่อาจจะเห็นเทกเจอร์ของลายไม้นั้นอยู่

สีโปร่งเเสง : คือ สีที่ทาเเล้วมีเป็นใสๆ เเต่ก็มีอยู่ด้วยกันหลายสีนะ คือ เห็นว่าเป็นสีๆใสๆ ยังคงเห็นเนื้อไม้อยู่ สีประเภทนี้ยิ่งทาจะยิ่งเข้ม เพราะฉะนั้น หากเราชอบเฉดสี เข้มอ่อน ประมาณไหนเเล้ว ก็ให้หยุดทาเลย

สำหรับไม้เก่า หากของเดิมเป็นเเบบทึบเเสงอยู่ เเอดมินเเนะนำให้ทาสีทึบเเสงทับต่อไป เเต่ถ้าหากไม้เก่าเป็นสีโปร่งเเสงจะสามารถทาได้ทั้งสีทึบเเสงเเละโปร่งเเสง เเต่ถ้าเลือกเป็นสีโปร่งเเสง เฉดสีที่ได้จะไม่เหมือนเดิมเเล้ว เพราะยิ่งทาจะยิ่งเข้มขึ้น จะไม่ได้สีเดิมเเล้ว เลเ้วยิ่งไม้เก่าเริ่มออกดำ การทาสีโปร่งเเสงให้เป็นสีอ่อน ก็ยากเช่นกัน จะทาได้เฉพาะเเต่สีเข้มๆ เท่านั้น ภูเก็ตวิลล่า

สีย้อมไม้ กับ สีทาไม้ ต่างกันอย่างไร

ขั้นตอนการทาสีไม้เก่า

1.ขั้นตอนการเตรียมพื้นผิว

เช่นเดิมครับ การทาสีทุกประเภท จะต้องมีการเตรียมพื้นผิวซะก่อน หากไม้เก่าของท่าน เริ่มเสื่อมสภาพลอกล่อน ก็ควรใช้เกรียงขูดเเซะ เเละใช้กระดาษทรายขัดพื้นผิวเดิมให้หยาบ เพื่อเสริมสร้างการยึดเกาะต่อไป เเต่ถ้าพื้นผิวไม้เดิม มีรอยเเตกร้าวก็ควร อุดโป๊วให้เรียบร้อย ก่อนที่จะทาสีต่อไป บ้าน

2.ขั้นตอนการทาสีรองพื้น

หากไม้เก่าเดิม เป็นสีโปร่งเเสง ก็เเค่ขัดทำความสะอาดพื้นผิว จากนั้น ทาน้ำยารักษาเนื้อไม้ เพื่อป้องกัน พวกมอด ปลวก ที่จะมากัดเเทะไม้ของคุณ เเต่ถ้าหากเป็นสีทึบลาย ก็ควรที่จะทาสีรองพื้นไม้กันเชื้อรา ( ลักษณะจะเป็นสีขาวๆ ) ทาไป 1 เที่ยว ถามว่าไม่ทาได้ไหม ขอเเนะนำให้ทาจะดีกว่า เพราะเราคงไม่อยากเเค่ ปีสองปี เเล้วมาทาสีใหม่หรอก ต้นทุนมันสูงในการทาสี เพราะฉะนั้นควรที่จะทาสีให้ครบตามระบบสี ภูเก็ต วิลล่า

3.ขั้นตอนการทาสีจริง

การทาสีจริงนั้นก็ไม่ยากอย่างที่คิด หากเป็นสีโปร่งเเสง ก็เลือกใช้ สีจำพวก Woodstain หรือ decking stain เเล้ว เเต่ ตามลักษณะการใช้งาน เเล้วถ้าอยากทาสีทึบเเสงละ ก็เลือกสีจำพวก สีน้ำมัน ทั่วไปที่ใช้ทาไม้ทาเหล็ก เเต่ข้อควรระวังก็คือ การทิ้งให้สีแห้งในแต่ละเที่ยวนั้น ควรทิ้งให้เเห้ง 6-8 ชั่วโมง ก่อนถึงจะทาสีเที่ยวต่อไปได้ HOME IN PHUKET

อ่านเพิ่มเติม ไม้ประดับที่นิยมปลูก