คำนวนสินเชื่อบ้าน
คำนวนสินเชื่อบ้าน ระยะนี้คนไหนกันเงินไม่คล่องมือ กู้สินเชื่อจากแบงค์เป็นอีกตัวช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋า ซึ่งจำต้องบอกก่อนว่าก่อนจะไปกู้สินเชื่อนั้นควรจะคำนวณสินเชื่อกันก่อนครับ โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้ใดกันแน่ที่กำลังจะซื้อบ้านมือชั้นยอดหรือบ้านมือสองราคาไม่แพงหัวใจ ทำเดี๋ยวนี้มีลดแล้วก็จัดโปรโมชันพิเศษกันอยู่ โครงการภูวิลล่า ภูเก็ต การคำนวณสินเชื่อพื้นฐานเพื่อประเมินวงเงินสินเชื่อ ประเมินความรู้ความเข้าใจสำหรับในการกู้เกิดเรื่องที่ไม่สมควรละเลยครับ วันนี้ผมนำวัสดุคำนวณสินเชื่อพื้นฐานทั้งยังแบบสำเร็จรูปแล้วก็คำนวณด้วยตัวเองมาชี้แนะกัน
แนวทางคำนวณสินเชื่อด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป
เดี๋ยวนี้แต่ละแบงค์ก็จะมีอุปกรณ์คำนวณสินเชื่อให้พวกเราอย่างอัตโนมัติอยู่แล้ว แค่เพียงพวกเรากรอกข้อมูลพื้นฐานลงไประบบก็จะคำนวณสินเชื่อมาให้อย่างเป็นระเบียบ ผมขอยกตัวอย่างจากธนาคารอาคารสงเคราะห์หรือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ มาให้มองกันครับผม ธนาคารอาคารสงเคราะห์หรือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ คลิกตรงนี้ จะมีความเห็นว่าพวกเราสามารถคิดค่าผ่อนส่งโดยประมาณเพื่อประเมินรวมทั้งกำหนดแผนการใช้จ่ายของพวกเราได้ เพียงแค่กรอกจำนวนเงินที่ขอกู้ ช่วงเวลาที่ขอกู้ รวมทั้งอัตราค่าดอกเบี้ยตามประกาศ Phuket Villas
ธนาคารอาคารสงเคราะห์
แบงค์กรุงศรีอยุธยา คำนวณวงเงินกู้ คลิกตรงนี้ จะมีความเห็นว่าพวกเราสามารถคิดวงเงินกู้ที่กำลังจะได้โดยประมาณได้ เพียงแค่กรอกรายได้ต่อเดือน ภาระหน้าที่หนี้สินที่มี แล้วก็ช่วงเวลาที่ขอกู้ แล้วคลิกปุ่มเริ่มคำนวณ เพียงเท่านี้พวกเราก็จะได้คำตอบแล้วครับผม แบงค์กรุงศรีอยุธยา เหมือนกับ Baania ที่มีครื่องคำนวณดอก & สินเชื่อทุกเดือนให้ เพียงแต่พวกเราเลือกแผนการที่อยากแล้งเลื่อนลงมาด้านล่างบางส่วน แล้วกรอกข้อมูลพื้นฐานบางส่วน เท่านี้ก็ได้ค่าผ่อนบ้านที่ปรารถนาแล้วนะครับ
คำนวณสินเชื่อบ้าน
แนวทางคำนวณสินเชื่อด้วยตัวเอง เว้นเสียแต่ระบบคำนวณสินเชื่ออัตโนมัติแล้ว พวกเรายังสามารถคำนวณสินเชื่อด้วยตัวเองได้อีกด้วย มาเริ่มกันที่การคำนวณวงเงินสินเชื่อกันก่อนขอรับ Phuket Villas แนวทางคำนวณวงเงินสินเชื่อที่กำลังจะได้ คนไหนที่ใคร่รู้วงเงินสินเชื่อที่กำลังจะได้แบบอย่างคร่าวๆแบบสำเร็จรูป เพื่อคาดการณ์เฉยๆสามารถอ่านพอดีบทความค่าตอบแทนที่ได้บอกวงเงินกู้รวมทั้งราคาคอนโดได้แม้กระนั้นหากต้องการเจาะลึกด้วยตัวเอง ผมมีสูตรคำนวณมาให้กันขอรับ พวกเราต้องหาความรู้ความเข้าใจสำหรับในการใช้หนี้ใช้สินก่อนโดยใช้สูตร
ผ่อนค่าผ่อนส่ง แบบอย่าง
นายต้องการมีบ้านมีรายได้ต่อเดือน 50,000 บาท แบงค์ A แบกภาระหนี้สินของผู้กู้ 70% (จำนวนในส่วนนี้จำเป็นต้องซักถามจากทางแบงค์) และก็มีภาระหน้าที่หนี้สินเป็นค่าผ่อนรถยนต์และก็ค่าบัตรเครดิต 10,000 บาท
เพราะฉะนั้นจะพอๆกับว่าจำเป็นต้องนำ (50,000 x 70%) -10,000 = 25,000
แปลว่านายต้องการมีบ้านมีความเข้าใจสำหรับในการจ่ายค่าผ่อนต่อเดือนสูงสุดที่ 25,000 บาท
หาวงเงินกู้ยืมสินเชื่อ ภายหลังที่รู้เรื่องสามารถสำหรับการจ่ายหนี้มาแล้ว พวกเรามาคำนวณวงเงินสินเชื่อที่กำลังจะได้กันขอรับ โดยใช้สูตร วงเงินกู้สินเชื่อ แบบอย่าง นายต้องการมีบ้านมีความรู้สำหรับในการจ่ายค่าผ่อนต่อเดือนสูงสุดที่ 25,000 บาท โดยเหตุนั้นจะพอๆกับว่าจำต้องนำ 25,000 x 1,000,000 ÷ 7,000 = 3,571,428 ล้านบาท แปลว่านายต้องการมีบ้านจะได้วงเงินกู้สูงสุดราว 3,571,428 ล้านบาทนั้นเองครับผม
แนวทางคำนวณค่าผ่อนต่อเดือน แนวทางคำนวณค่าผ่อนต่อเดือนเป็นการคำนวณว่าพวกเราต้องจ่ายต่อเดือนมากแค่ไหนแม้ได้จ่ายเงินกู้เท่านี้ ในช่วงเวลาที่ขอกู้ที่ระบุ โดยมีแนวทางดังต่อไปนี้นำยอดเงินต้นเหลืออยู่ X ดอกต่อปี X ปริมาณวันในงวด ÷ ปริมาณวันในปี ก็จะได้ยอดดอกที่จำเป็นต้องจ่ายในแต่ละเดือน นำยอดดอกที่จำเป็นต้องจ่ายในแต่ละเดือน + เงินต้นที่จำเป็นต้องจ่ายในแต่ละเดือน(ยอดวงเงินสินเชื่อ ÷ ปริมาณเดือน) คำตอบที่ได้เป็นยอดผ่อนในแต่ละเดือนครับผม
แบบอย่าง นายหาบ้านเก่งกู้หนี้ยืมสินมา 2,000,000 บาท
ช่วงเวลาสำหรับเพื่อการผ่อน 48 เดือน โครงการภูวิลล่า ภูเก็ต
อัตราค่าดอกเบี้ย 5% ต่อปี
อนุมัติวงเงินเมื่อ วันท่ี 1 ม.ค. 2563
เงินต้นที่จะต้องจ่ายในแต่ละเดีอน 41,666 บาท
โดยนายหาบ้านเก่งจำเป็นที่จะต้องจ่ายค่าผ่อนส่งในมกราคม (มี 324 ชั่วโมง) โดยเหตุนั้นแนวทางคิดก็คือหาดทรายอกเบี้ยแต่ละเดือน เป็นนำ 2,000,000 x 5%(5 ÷ 100) x 31 ÷ 366 = 8,469.94 บาท คำนวณยอดค่าผ่อนส่งทุกเดือนเป็น8,469.94 + 41,666 = 50,135.94 บาท มีความหมายว่า นายหาบ้านเก่งควรต้องจ่ายค่าผ่อนส่ง 50,135.94 บาท ต่อเดือนนั้นเอง
จำต้องเน้นกันก่อนครับการคำนวณกลุ่มนี้เป็นการคำนวณสินเชื่อพื้นฐานเพียงแค่นั้น เพื่อที่จะได้ให้พวกเราจับตัวได้เลขกลมๆโดยประมาณไปประเมินและก็วางแผนเงินของตนก่อน เนื่องจากว่าถ้าเกิดจะกู้จริงแล้วต้องมีเอกสารรวมทั้งระบุเพิ่มอีก ซึ่งผมชี้แนะว่าควรขอความเห็นกับแต่ละแบงค์จะดีเยี่ยมที่สุดครับผม
เมื่อก่อนที่จะไปขอคำแนะนำกับแบงค์ ผมชี้แนะว่าให้อ่านเนื้อหาเกี่ยวกับการเลือกและก็เทียบสินเชื่อให้รู้เรื่องก่อนครับ ทั้งยังควรจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับดอกกันให้ดีก่อนด้วย สำหรับการคำนวณจะบวกอัตราค่าดอกเบี้ย 1% จากอัตราค่าดอกเบี้ยที่กำหนด เพื่อลูกค้าสามารถปิดบัญชีได้ตามช่วงเวลาที่ระบุ คำตอบจากการคำนวณ เป็นเพียงแค่ผลของการคำนวณพื้นฐานเพียงแค่นั้น แล้วก็คำตอบจะปัดตัวกลมเป็นหลักร้อยบาท
ผลของการประเมินจากเครื่องคำนวณสินเชื่อเป็นเพียงแต่การคาดการณ์วงเงินกู้ในพื้นฐาน บ้านสองชั้น แล้วก็พินิจพิจารณาพื้นฐานจากข้อมูลที่ได้มาเพียงแค่นั้น เนื่องจากว่าในทางปฏิบัติ แบงค์จะไตร่ตรองสาเหตุอื่นๆยกตัวอย่างเช่น อายุผู้กู้ รายได้ผู้กู้ อายุงาน ภาระหน้าที่หนี้สินอื่นๆความเป็นมาทางด้านการเงิน รวมทั้งภาวะหลักประกัน ฯลฯ ข้อจำกัดการอนุญาตสินเชื่อเป็นไปตามที่แบงค์ระบุ
“บ้าน”หมายถึงหนึ่งในปัจจัยสี่ เป็นปัจจัยเบื้องต้นสำหรับทุกชีวิต ทุกคนต้องการจะมีที่อยู่ที่อาศัยเป็นของตนเอง แต่ว่าการได้มาซึ่งการมีไว้ในครอบครองบ้านนั้นบางทีอาจตามมาด้วยหนี้สินก้อนโต ซึ่งคำว่า “หนี้สินก้อนโต” สามารถสะท้อนแง่คิดได้มากมาย สำหรับเพื่อการตระหนักถึงการมีบ้าน
ด้วยเหตุนี้ มาทำความรู้จักกับขั้นตอนการได้มาซึ่งสินทรัพย์ ในที่นี้ก็คือ บ้าน ซึ่งจำนวนมากหนีไม่พ้นการขอสินเชื่อผ่านแบงค์ โดยสิ่งที่จำต้องศึกษาเล่าเรียนเป็นลำดับแรกของการขอสินเชื่อหมายถึงดอกบ้าน เนื่องจากแบงค์แต่ละที่จะมีวิธีการพรีเซนเทชั่นสินเชื่อบ้านที่ไม่เหมือนกัน โดยแบ่งประเภทได้เป็น 2 แบบ ดังต่อไปนี้ home
แบบที่ 1 เสนออัตราค่าดอกเบี้ยแบบคงเดิมในตอน 3 ปีแรก ต่อไปเป็นอัตราค่าดอกเบี้ยแบบลอยตัว อ้างอิงกับอัตราค่าดอกเบี้ย MLR (อัตราค่าดอกเบี้ยเงินกู้ยืมอย่างน้อยที่แบงค์เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่คุณภาพดีจำพวกเงินกู้ยืมแบบระบุช่วงเวลา) หรือ MRR (อัตราค่าดอกเบี้ยเงินกู้ยืมอย่างน้อยที่แบงค์เรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นหนึ่ง) ดังที่แต่ละแบงค์ระบุ อยากโปะบ้าน ระหว่างการผ่อนคลายจ่าย
แนวทางลักษณะนี้มีผลดีทำให้เงินต้นลดอย่างเร็ว โดยแนวทางที่สามารถจะช่วยมัธยัสถ์ดอกเป็นเลือกอัตราค่าดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ที่ต่ำที่สุด โดยเลือกจ่ายดอกเป็นแบบขั้นบันไดได้ รวมทั้งให้เลือกเวลาสำหรับเพื่อการโปะเงิน ในตอนที่แบงค์คิดอัตราค่าดอกเบี้ยต่ำ ดังเช่นว่า กรณีเลือกจ่ายดอกเป็นแบบขั้นบันได ปีที่ 1 ดอกคงเดิม 1.25% ใน 6 เดือนแรก แล้วก็ดอกคงเดิม 1.5% ใน 6 เดือนข้างหลัง, ปีที่ 2 MRR -1.75% รวมทั้ง ปีที่ 3 MRR – 1.35%
โดยผู้กู้ควรที่จะทำการเลือกโปะหนี้สินบ้านในตอนปีแรกให้ได้มากที่สุด เพื่อยอดกู้บ้านเหลือลดลง เมื่อผ่านเข้าปีที่ 2 แล้วก็ 3 ยอดดอกที่แบงค์คิดจากเงินต้นยังเหลือก็จะลดน้อยลง ทำให้ผู้กู้ที่จ่ายค่าผ่อนส่งทุกเดือนในปีที่ 2 แล้วก็ 3 จะตัดเงินต้นได้มากกว่าตัดดอก ทำให้หนี้สินบ้านต่ำลงได้อีก ต่อไปเมื่อจ่ายครบ 3 ปี ก็ให้ใช้กรรมวิธีการราวกับในกรณีที่ 1 สิ่งจำเป็นซึ่งสามารถทำประกอบกับการโปะหนี้สินบ้านก้อนใหญ่เป็นการจ่ายเงินค่าผ่อนส่งมากยิ่งกว่ายอดจ่ายอย่างน้อยที่แบงค์ระบุ เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยลดจำนวนเงินต้นรวมทั้งช่วยอดออมดอกจ่ายลงได้
ไม่อยากโปะบ้าน ปรารถนาผ่อนแบบระยะยาว ผู้กู้ควรจะไตร่ตรอง เลือกอัตราค่าดอกเบี้ยเฉลี่ยใน 3 ปีแรก ที่ต่ำที่สุด โดยถ้าเกิดผ่อนส่งครบ 3 ปีแล้ว ให้จัดการทำเรื่องขอปรับลดดอกกับสถาบันการเงินเดิมที่ผ่อนบ้านอยู่ ซึ่งผู้กู้จะได้สิทธิ์ 1 ครั้งจากสถาบันการเงินเดิมและก็สามารถยืดอายุดอกแบบคงเดิมไปได้อีก 3 ปี
ภายหลังผ่อนส่งหนี้สินบ้านครบ 6 ปี ด้วยอัตราค่าดอกเบี้ยแบบคงเดิมแล้ว ให้ทำงานรีไฟแนนซ์เพื่อขออัตราค่าดอกเบี้ยผ่อนหนี้แบบคงเดิมถัดไป แม้กระนั้นจุดบกพร่องที่จำเป็นต้องพิจารณาถึงสำหรับการรีไฟแนนซ์หมายถึงค่าครองชีพที่ตามมา ยกตัวอย่างเช่น ค่าธรรมเนียมการเขียนจำนำ (จ่ายกรมที่ดิน) 1% ของวงเงินกู้ใหม่, ค่าอากรเเสโคลนตมป์ 0.05% ของวงเงินกู้ใหม่ รวมทั้งค่าประเมินหลักประกัน (ขึ้นกับเเต่ละแบงค์) บ้าน
โดยผู้กู้ควรต้องคำนวณเพื่อเปรียบระหว่างค่าใช้สอยสำหรับในการรีไฟแนนซ์กับค่าดอกจ่ายแบบลอยตัว ถ้าเกิดปรารถนาอยู่กับสถาบันการเงินเดิมถัดไปพบว่าอัตราค่าดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกของอีกทั้ง 3 แบงค์ ไม่เหมือนกันอย่างชัดเจน แต่ว่าสิ่งถัดมาที่จำเป็นต้องพิจารณาเป็นอัตราค่าดอกเบี้ยภายหลังจากปีที่ 3 เป็นต้นไป ซึ่งขึ้นกับอัตราค่าดอกเบี้ย MRR จากที่แต่ละแบงค์ระบุ และก็ส่งผลต่อการจ่ายดอกในระยะยาวในกรณีที่อยากดอกบ้านแบบคงเดิม เพื่อคิดแผนช่วงเวลาสำหรับการผ่อนหนี้นั้น สิ่งที่จำเป็นต้องพิจารณาอีกหัวข้อหมายถึงอัตราค่าดอกเบี้ยภายหลังปีที่ 3 เป็นต้นไป การคิดอัตราค่าดอกเบี้ยจะแตกต่างกัน ขึ้นกับอัตราค่าดอกเบี้ยเงินกู้ยืมแบบลอยตัว โดยธรรมดา อัตราค่าดอกเบี้ย MLR จะน้อยกว่าอัตราค่าดอกเบี้ย MRR เสมอ
อ่านเพิ่มเติม Luxury Villas for sale