แบบผ้าม่าน
แบบผ้าม่าน ม่าน คือวัสดุที่ใช้สำหรับสำหรับป้องกันหรือบดบังแสงหรือลมโดยมากมักหมายถึงวัสดุที่ทำจากผ้า ผ้าม่านจะแขวนเหนือประตู หรือเรียกว่าม่านประตู (portière) ม่านมักแขวนภายในอาคารเหนือหน้าต่างเพื่อกันแสง หรือในตอนกลางคืนเพื่อความเป็นส่วนตัวในการนอนหลับ หรือป้องกันแสงออกนอกอาคาร
ผ้าม่านมีความหลากหลายทั้งรูปร่าง วัสดุ ขนาด สีสันและลวดลาย โดยส่วนมากจะมีแผนกที่จำหน่ายผ้าม่านโดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้า ขณะที่ในบางร้านก็ขายผ้าม่านโดยเฉพาะ ผ้าม่านในบางประเทศอาจทึบในประเทศเขตร้อนอย่างเช่น สเปน ที่บานเกล็ดไม้ที่ยึดไว้ภายนอกอาคารเพื่อความส่วนตัวและเก็บความเย็นภายในอาคารได้ ม่านยังเป็นส่วนหนึ่งของหน้าต่างและเป็นรูปลักษณ์หน้าตาภายนอกของ บ้าน และยังช่วยควบคุมสภาพแวดล้อมและแสงจากธรรมชาติสู่ภายในห้อง การทำงานของม่านจะเห็นได้อย่างชัดเจนโดยเฉพาะจากแสดงธรรมชาติ ถ้าผนวกกับตำแหน่งแสงภายในที่เหมาะสม จะทำให้ดูน่าสนใจรวมถึงในเวลากลางคืนด้วย
ผ้าม่านมีหลายรูปแบบ ผ้าม่านจีบ ผ้าม่านตาไก่ ผ้าม่านคอกระเช้า (ผ้าม่านกระเช้า) ผ้าม่านพับ ผ้าม่านหลุยส์ ผ้าม่านลอน เป็นต้น ผ้าม่านจีบเป็นแบบผ้าม่านที่มีการรีดอัดจีบให้แหล่มเพื่อให้รักษารูปทรงอันสวยงาม ผ้าม่านจีบที่นิยมใช้มากที่สุดจะเป็นผ้าม่านสามจีบ (Triple Pinch Pleated Curtains) สมัยนี้ ผ้าม่านตาไก่ (Grommet Curtains)
ซึ่งเป็นแบบผ้าม่านที่ใช้ห่วงในการแขวนผ้าม่าน โดยการตอกรูในผ้าด้านบน (หัวผ้าม่าน) เพื่อใส่ห่วง”ตาไก่” ผ้าม่านสไตล์นี้ได้รับความนิยมมากขึ้น และถือว่าเป็นสไตล์ผ้าม่านที่ออกแนวร่วมสมัย “โมเดิร์น” มากที่สุด ผ้าที่ใช้ทำม่านมีหลายชนิด มีผ้าแจ็คการ์ด (Jacquard) ผ้าฝ้าย (Cotton) ผ้าใยสังเคราะห์ (Polyester) ผ้าซาติน (Satin) ผ้ากำมะหยี่ (Velvet) ผ้าไหม (Silk) เป็นต้น
ภูเก็ต วิลล่า สมัยนี้จะนิยมใช้ผ้าม่านกันรังสี Ultraviolet (UV) หรือที่เรียกกันว่าผ้าม่าน “Blackout” ซึ่งเป็นชนิดผ้าม่านที่ทำด้วยผ้าสามชั้น ผ้าม่าน Blackout จะมีเส้นด้ายสีดำเป็นวัสดุกัน UV ทออยู่ระหว่างกลาง เวลาเย็บสำเร็จ เส้นด้ายสีดำนี้จะซ่อนอยู่ข้างในเนื้อผ้า ทำให้ผ้าม่านดูสวยเพราะมองไม่เห็นเส้นด้ายนี้ ผ้าม่าน Blackout เป็นชนิดผ้าม่านที่กันแสงและความร้อนได้ดีกว่าผ้าม่านปกติ จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหลายๆประเทศ รีโนเวทห้องนอน (bedroom)
ประเภท
รูปแบบม่านที่ทำจากผ้ามีหลายประเภท อาทิ
- ม่านจีบ
- ม่านลอน
- ม่านพับ
- ม่านตาไก่
ม่านที่ทำจากวัสดุที่ไม่ใช้ผ้า เช่น
- ม่านปรับแสง
- ม่านม้วน (ผลิตจากใยสังเคราะห์)
- มู่ลี่
ม่านที่ทำจากวัสดุที่ผลิตจากธรรมชาติ เช่น
- ม่านมู่ลี่ไม้ไผ่
แนะนำแบบผ้าม่าน
นอกจากจะต้องเลือก เนื้อผ้า สีสัน และลวดลายผ้าม่านแล้ว ยังต้องเลือกรูปแบบม่านอีก เพื่อให้ม่านที่เลือกนั้นเหมาะสมกับการใช้งาน และเข้ากันกับสไตล์ในแต่ละพื้นที่ภายในบ้าน น้องตี้ ภูเก็ตวิลล่า ชวนคุณมาทำความรู้จักกับม่านแต่ละรูปแบบก่อนที่จะเลือกม่านไปติดในบ้านกันครับ Phuket Villas
1. ม่านจีบ – คลาสสิค ร่วมสมัย สวยหรู
เป็นม่านรูปแบบมาตรฐานที่ทุกบ้าน บ้านหรู นิยมเลือกใช้กันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะม่านรูปแบบนี้สามารถเข้ากันได้กับห้องทั่ว ๆ ไปได้แทบจะทุกสไตล์ ลักษณะของม่านจีบ จะมีการจับจีบที่ผ้าม่านด้านบน เป็นจีบ 3 จีบ ทำให้ผ้าม่านมีลอนสวยงาม และสามารถติดผ้าได้ 2 ชั้นคือม่านโปร่งและม่านทึบ หากบานหน้าต่างหรือประตูยิ่งเป็นบานใหญ่และสูง แล้วเลือกติดม่านจีบจะยิ่งทำให้ห้องนั้นดูสวยหรู อลังการ หรือหากต้องการให้ห้องนั้นมีอารมณ์ร่วมสมัย เรียบหรู และดูเรียบร้อย ให้ทำรางม่านซ่อนบนฝ้าเพดานได้
2. ม่านตาไก่ – โดดเด่น ดีไซน์สวย ไม่ตกยุค
สำหรับคนที่เน้นความทันสมัย ไม่ตกเทรนด์ ออกแบบ บ้าน สไตล์โมเดิร์น แนะนำให้เลือกติดม่านตาไก่ ลักษณะของม่านรูปแบบนี้ จะโชว์รางม่านชัดเจน โดยสามารถเลือกแบบรางม่าน และหัวรางให้เข้ากับสไตล์ของห้องได้ ภูเก็ต วิลล่า ส่วนผ้าม่านที่ได้จากการสอดผ่านห่วงตาไก่ จะได้ลอนที่ดูพริ้วไหว สวยงาม เพิ่มมิติให้ห้องดูมีเสน่ห์มากขึ้น
3. ม่านหูกระเช้า – ดูเก๋ มีเสน่ห์ เป็นกันเอง
ม่านรูปแบบนี้จะให้อารมณ์เก๋ ๆ สนุกสนาน เป็นกันเอง จึงเหมาะกับห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน แต่ไม่เหมาะที่จะเลือกใช้กับห้องหรือสถานที่ที่เป็นทางการ จุดเด่นของม่านหูกระเช้า คือ หูแขวนรางม่าน จะให้อารมณ์น่ารัก และเก๋ ม่านหูกระเช้าเป็นม่านรูปแบบเดียวที่ใช้ผ้าเป็นตัวคล้องรางแทนห่วงม่าน เวลารูดเปิด-ปิดผ้าม่านอาจไม่ค่อยคล่องเหมือนรางชนิดอื่น เพราะผ้าที่เป็นหูแขวนสัมผัสกับรางม่านโดยตรง จะทำให้มีความฝืด แต่ก็ถอดซักได้ง่าย
4. ม่านลอน – เรียบง่าย ดูดี ไม่หรูจนเกินไป
ลักษณะของม่านลอน ผสมผสานระหว่างม่านตาไก่ และม่านจีบเข้าไว้ด้วยกัน โดยลักษณะของผ้าจะเป็นลอนพับไปมา คล้ายม่านตาไก่ แต่ไม่มีการเจาะห่วงที่ด้านบนผ้าม่าน จะถูกล็อคผ้าม่านให้เป็นลอนคล้ายม่านจีบแทน ม่านรูปแบบนี้เหมาะกับการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล การจัดบ้านแบบเรียบง่าย สบาย ๆ แต่ยังคงเรียบหรูและดูดี ไม่เบื่อง่าย เนื่องจากบริเวณหัวผ้าม่านจะไม่มีการจับจีบ และปล่อยหัวผ้าม่านให้เป็นลอนโค้งอิสระไปจนสุดปลายผ้า จึงดูเป็นระเบียบเรียบร้อย สบายตา และทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
5. ม่านม้วน – โมเดิร์น เหมาะกับคนรุ่นใหม่
ด้วยความที่ม่านม้วนมีรูปแบบที่ทันสมัย และลักษณะพิเศษของม่านคือ เป็นผ้าผืนใหญ่ที่สามารถม้วนเก็บได้อย่างมิดชิดเรียบร้อย ทำให้ประหยัดพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นม่านที่ไม่เก็บฝุ่น ทำความสะอาดได้ง่าย จึงอยากแนะนำให้คนที่ตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น บ้านหรู ออฟฟิตสำนักงาน หรือร้านค้าที่ต้องการความเป็นสมัยใหม่เลือกม่านชนิดนี้ไปติดตั้งได้ครับ ซึ่งม่านม้วนก็จะมีให้เลือกอีก 3 แบบด้วยกัน คือ แบบทึบแสง (Blackout) สามารถกันแสงได้ถึง 90-100 % ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวได้มาก แบบกรองแสง (Sunscreen) แสงสามารถส่องผ่านได้บ้าง และตอนกลางวันคนที่อยู่ภายในจะเห็นวิวภายนอกได้ แต่คนภายนอกจะมองไม่เห็นภายใน ส่วนในเวลากลางคืนจะตรงกันข้ามกัน แบบสุดท้ายแบบโปร่งแสง (Dimout) แสงผ่านได้ แต่ทั้งภายในและภายนอกจะไม่สามารถมองเห็นกันได้
6. ม่านพับ – รูปแบบทันสมัย เรียบหรู
ม่านรูปแบบนี้ เหมาะกับหน้าต่างบานแคบ หรือหน้าต่างบานเล็กที่ติดกันหลายบาน เพราะจะได้เลือกบานเปิดม่านได้ ไม่ต้องเปิดทั้งหมด ม่านพับจะคล้ายกับม่านม้วน คือ เมื่อต้องการเปิดม่าน ให้ดึงรอกให้ผ้าม่านเก็บขึ้นไปด้านบน ม่านม้วน ผ้าก็จะม้วนขึ้นไปด้านบน ส่วนม่านพับ ผ้าจะพับขึ้นไปเป็นชั้น ๆ เรียงซ้อนกันขึ้นไป ภูเก็ต วิลล่า ม่านม้วนและม่านพับจะแตกต่างกันที่สไตล์ ม่านม้วนจะออกไปทางโมเดิร์นแบบเรียบง่าย แต่ม่านพับจะเป็นโมเดิร์นแบบเรียบหรูครับ
7. มูลี่ – ดีไซน์เรียบง่าย แต่มีสไตล์
มีทั้งแบบที่เป็นไม้ และอลูมิเนียม แต่ใน 2 แบบนี้ ก็จะมีชนิดของไม้และอลูมิเนียมให้เลือกตามความต้องการอีก ซึ่งแบบไม้จะให้ความรู้สึกอบอุ่น ส่วนแบบอลูมิเนียมจะให้ความรู้สึกโมเดิร์นกว่า ในเรื่องของคุณสมบัติ ภูเก็ต วิลล่า มู่ลี่แตกต่างจากม่านแบบอื่น ๆ คือ สามารถปรับแสง โดยการปรับบานเข้าหรือออก เพื่อให้ได้ทิศทางหรือขนาดช่องแสงตามต้องการ นิยมใช้ในบริเวณที่ไม่สามารถใช้ผ้าม่านได้ เช่น ห้องน้ำโซนเปียก และห้องครัวที่ต้องมีคราบน้ำมัน เพราะสามารถทำความสะอาดได้ง่าย และไม่ต้องกังวลเรื่องความเปียกชื้น หรือหากใครจะเลือกมู่ลี่ไปตกแต่งห้องอื่น ๆ ก็สามารถทำได้ มู่ลี่จะให้กลิ่นอายความเป็นเอเชียและความโมเดิร์นผสมผสานกันอยู่อย่างลงตัว รับรองว่าบ้าน บ้านหรู คุณจะดูดี มีสไตล์แน่นอน โครงการภูวิลล่า ภูเก็ต
How to วิธีทำผ้าม่านแบบรูดเอง
อุปกรณ์
- ผ้าสำหรับใช้ทำผ้าม่านเอง
- ด้าย
- รางม่าน
- ไม้บรรทัด
- จักรเย็บผ้า
- กรรไกร
- ปากกาสำหรับเขียนผ้า
- เข็มหมุด
- เตารีด
วิธีทำ
- วัดขนาดความกว้างและความสูงของช่องหน้าต่าง นำผ้ามาตัดโดยเผื่อขอบให้ด้านกว้างให้เผื่อขอบ 4 นิ้ว ส่วนด้านยาวให้เผื่อขอบ 10 นิ้ว
- พับส่วนด้านข้างของผ้าม่านก่อน โดยพับริมผ้าเข้ามา 1 นิ้ว ใช้เตารีดรีดทับ จากนั้นพับริมผ้าทบเข้ามาอีกครั้งแล้วเย็บตลอดแนว (ทำแบบเดียวกันกับริมผ้าอีกด้าน)
- ต่อมาเป็นการทำส่วนของหัวท้ายของผ้าม่าน พับขอบด้านบนลงมา 3 นิ้ว ใช้เตารีดรีดทับ จากนั้นพับริมผ้าทบเข้ามาอีกครั้งแล้วเย็บตลอดแนว (ทำแบบเดียวกันกับริมผ้าด้านล่าง)
- นำรางม่านมาสอดในรูผ้าม่าน จากนั้นนำไปติดตั้งได้เลย