น่าอยู่ บ้านสไตล์จีน
น่าอยู่ บ้านสไตล์จีน ถ้าเอ่ยถึงบ้านจีนใครๆก็จะต้องร้องอ้อ…เพราะว่าในประเทศไทยมีคนประเทศไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่มากอย่างยิ่งจริงๆ พวกเราก็เลยสามารถพบเห็นบ้านสไตล์จีนได้ง่าย ยิ่งกว่านั้นพวกเรายังได้มองเห็นศิลป์รวมทั้งเอกลักษณ์ของจีนผ่านสถานที่เที่ยวอันเลื่องลือ ยกตัวอย่างเช่น วัดมังกร (เล่งเนยยี่) ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจังหวัดสุพรรณบุรี (หมู่บ้านมังกรสรวงสวรรค์) เยาวราช ฯลฯ
ชาวจีนมิได้ปลูกเรือนตามความชื่นชอบหรือความนิยม ภูเก็ต วิลล่าแม้กระนั้นอาศัยหลักฮวงจุ้ย เพื่อเสริมความเป็นมงคล ซึ่งเป็นความเชื่อที่มีมาแม้กระนั้นเป็นเวลายาวนาน แบบบ้านของชาวจีนโดยธรรมดาจะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสและก็หันไปทางใต้เสมอ แม้กระนั้นสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีฐานะ ตัวบ้านชอบเป็นรูปตัวแอล ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ย่อขนาดจากแบบแรก ช่วยมัธยัสถ์งบประมาณสำหรับการก่อสร้างแต่ว่ายังไม่หลุดไปจากหลักฮวงจุ้ย บ้านสไตล์จีนจำนวนมากมีการแบ่งโซนอาศัยอย่างแจ่มแจ้ง รวมทั้งใช้หลังคามุงกระเบื้อง
หรือที่ชาวไทยเรียกเคยปากว่า “เก๋งจีน” ในส่วนของพื้นรวมทั้งฝาผนังจะทำด้วยก้อนอิฐหรือไม้ เครื่องเรือนไม้มักเป็นงานหัตถกรรมโชว์ศิลป์สำหรับเพื่อการแกะและก็ฝังมุกลงไปในแก่นไม้ เน้นย้ำการตกแต่งบ้านให้มีความสวยงามด้วยรูปภาพลายพู่กันจีน ตกแต่งเครื่องปั้นดินเผา รวมถึงงานประเภทถ้วยจาน สังฆภัณฑ์ที่เป็นลวดลายของจีน บ้าน
ในส่วนของฝ้าเพดาน จะไม่นิยมใช้ลวดลายมากมาย เนื่องจากว่าต้องการที่จะให้เป็นจุดที่ค่อยรวมทั้งเรียบง่าย เนื่องจากว่าเน้นย้ำเนื้อหาการตกแต่งลวดลายรอบๆอื่นแล้ว ฝาผนังบ้านของชาวจีน โดยมากจะแบ่งการตกแต่งออกเป็น 2 แบบ อาทิเช่น การตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ที่เป็นลวดลายจีน รูปภาพโบราณแล้วก็ภาพวาดต่างๆโดยจะใช้ปิดเพียงแค่นิดหน่อยของห้อง รวมทั้ง การใช้กระจกแกะลวดลายกรุฝาผนัง ซึ่งไม่นิยมกรุหรือปิดลายจีนอีกทั้งห้อง เพราะเหตุว่าจะก่อให้บรรยากาศมองอึดอัด ไม่แจ่มใส
เมืองจีน มีความเป็นชาตินิยมสูง มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งถูกทำมาตั้งแต่ยุคบรรพบุรุษตกทอดจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ชาวจีนก็เลยนิยมเครื่องเรือนไม้แบบบิวท์อิน แล้วก็จะต้องเป็นทรงแบบจีน รวมถึงมีการสลักลวดลายจีนลงไปในโต๊ะ เตียง ตู้ เก้าอี้ ฯลฯ สีแดงเป็นสีเด่น ทดลองสังเกตดูนะคะ บ้านจีนดูเหมือนจะทุกข้างหลังควรจะมีส่วนประกอบที่เป็นสีแดง เพราะว่ามั่นใจว่าเป็นสีที่เป็นมงคล รู้จักบ้านสไตล์จีนไปแบบอย่างคร่าวๆแล้ว Karuntee มีตัวอปิ้งการตกแต่งบ้านแบบจีนโบราณมาให้ดูกันแบบชัดๆด้วยจ้ะ
แบบอย่างการตกแต่งแบบจีน
วังกรุงปักกิ่งหรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “พระราชสำนักต้องห้าม” หรือ “ราชสำนักกู้กง” ตั้งอยู่ศูนย์กลางเมืองปักกิ่ง ราชสำนักที่นี้ผลิตขึ้นในยุคพระราชาธิราชหย่งเล่อ วงศ์สกุลหมิง (คริสต์ศักราช1406) โดยช่วงแรกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์กว่า 24 ท่าน ตัวพระราชวังที่นี้พูดได้ว่าเป็นวังที่มีขนาดใหญ่ที่สุด แล้วก็มีประวัติศาสตร์ช้านานที่สุดของโลก!! รวมทั้งแก่ช้านานหลายพันปี ก็เลยผ่านการบูรณะมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ว่าทางรัฐบาลก็ยังคงสถาปัตยกรรมเดิมเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด home
วังกรุงปักกิ่งใช้เวลาก่อสร้างยาวนานกว่า 14 ปี เนื่องด้วยมีพื้นที่ราวๆ 720,000 ตารางเมตร โดยแผนผังเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า จะประกอบไปด้วยตึกกว่า 800 ข้างหลัง ห้อง 9,999 ห้อง พระที่นั่ง 75 องค์ หอสมุด ห้องต่างๆสวน ลานกว้าง ทางเท้าเชื่อมต่อกัน คูคลองโอบล้อม ประตูวัง 4 ด้าน และก็กำแพงมากถึง 11 เมตรตั้งโอบล้อมวัง
สถาปัตยกรรมของพระราชสำนักเมืองปักกิ่งบ่งบอกถึงถึงอิทธิพลของวัฒนธรรมโบราณที่ประสมประสานกับวัฒนธรรมในศตวรรษที่ 17 รวมทั้ง 18 ได้อย่างพอดี Phuket VillasPhuket Villas แล้วก็สะท้อนถึงอารยธรรมจีนในยุควงศ์สกุลหมิงและก็วงศ์สกุลชิงอีกด้วย
เริ่มจากประตูไท่เหอ ซึ่งเป็นประตูปากทางเข้าหลักของพระราชวังข้างหน้า เป็นประตูที่มีขนาดใหญ่โตโอ่อ่าที่สุดของพระราชสำนัก ถูกประดับโดยการใช้สิงโตที่ทำมาจากทองสำริด 2 ตัว ทางด้านขวาเป็นสิงโตเพศผู้ทางด้านซ้ายเป็นสิงโตตัวเมีย
ถัดมาเป็นส่วนของวังซึ่งถูกแบ่งได้ 2 ส่วน โดยข้างหน้าเป็นส่วนของราชการ ข้างหลังเป็นที่พักที่อาศัย พระราชวังข้างหน้ามี 3 ข้างหลังร่วมกันหมายถึงไท่เหอ เป็นวังเอกที่มีความพิเศษที่สุด เนื่องจากว่าเป็นที่พักอาศัยของฮ่องเต้รวมทั้งมเหสี โดยเหตุนี้ก็เลยมีต้นแบบการก่อสร้างรวมทั้งการตกแต่งด้วยหลังคาซ้อน 2 ชั้น แล้วก็มุงด้วยกระเบื้องสีทองคำ ทั้งตั้งสะดุดตาบนฐานหินอ่อนสีขาว 3 ชั้น ยกพื้นสูง ราว 2 เมตร โอบล้อมด้วยรั้วหินหชูขาว สลักเป็น ก้อนเมฆ , มังกร และก็หงส์ ข้างหน้าวังมีการจัดวางนาฬิกาแดดแล้วก็เจียหลีกเลี่ยง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ชั่งน้ำหนักตวงวัดประเภทหนึ่งซึ่งจักรพัตราธิราชเฉียนหลงทรงให้ทำเลียนแบบเจียหลีกเลี่ยงในยุคถังนับว่าเป็นยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมของพระราชสำนักต้องห้าม
ต่อไปเป็นพระราชวังต้องเหอ เป็นวังที่พระราชาธิราชทรงประทับก่อนจะเสด็จไปประกอบพิธีต่างๆที่วังไท่เหอ มีเอกลักษณ์อยู่ตรงหลังคาที่ถูกประดับโดยการใช้สัตว์มงคลต่างๆโดยจำพวกแล้วก็ปริมาณของสัตว์ที่อยู่บนหลังคาสามารถบอกถึงจุดสำคัญของพระตำหนักได้อย่างดีเยี่ยม ยิ่งมีสัตว์มากมาย ก็ยิ่งสำคัญมาก
แล้วก็ในที่สุดเป็นวังเป่าเหอ สำคัญรองจากวังไท่เหอ ใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงต้อนรับเหล่าเจ้าขุนมูลนายระดับที่ถือว่าสูง และก็ใช้เป็นสนามสอบ “หน้าจอหงวน” สำหรับเลือกเจ้าขุนมูลนายระดับที่ค่อนข้างสูง การออกแบบข้างในใช้วิธีสำหรับเพื่อการก่อสร้างที่เพียรพยายามลดการใช้เสา ทำให้ข้างในวังมีความโล่งโล่งเตียน ข้างหลังพระตำหนัก ตรงบันไดหินทางลง จะเป็นแท่งหินขนาดใหญ่ ที่มีน้ำหนักถึง 250 ตัน ถูกสลักเป็นรูป “9 มังกรลัดฟ้า” สวยสดงดงาม วิจิตรตระการตาเป็นอย่างยิ่ง Phuket Villas
สวนอี้หยวน เซี่ยงไฮ้ (Yuyuan Garden)
สวนอี้หยวน สวนสาธารณะศูนย์กลางเมืองที่ใหญ่ที่สุด ถูกผลิตขึ้นในศตวรรษที่ 16 ของยุควงศ์สกุลหมิง เป็นสวนที่แก่ยาวที่นาวนานกว่า 400 ปี นับว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่โบราณที่สุดในเมืองเซี่ยงไฮ้ ดีไซน์โดยคนเขียนแบบมีชื่อชื่อ “จางดกนหยาง” โดยใช้เวลาช้านานเกือบจะ 18 ปี แล้วก็ล่วงถึง 3 แผ่นดินถึงเสร็จ ในอดีตกาลเคยเป็นซ่องสุมสโมสรกระบี่น้อยหรือขั้นตอนกบฏไท่ผิงที่ลือชื่อ
เวลาผ่านไปสวนอี้หยวนก็ย่ำแย่ตามระยะเวลา รัฐบาลจีนได้เข้ามาซ่อมแซมให้ทรงสภาพงาม ปรับแก้แล้วก็ชูให้เป็นเป็นสาธารณสมบัติ โดยให้อาจจะบรรยากาศรวมทั้งส่วนประกอบโดยรวมไว้ สวนอี๋หยวนมีพื้นที่ 200,000 ตารางเมตร แบ่งได้กรุ๊ปเด่นๆได้เป็น 6 ส่วน เป็น
Grand Rockeryเป็นรอบๆที่โชว์สวนหินที่มีความงดงาม มีการเลียนแบบผา รวมทั้งช่องเขา บ้านจัดสรร เด่นด้วยหินที่มีรูล้อมตั้ง 72 ช่อง ซึ่งสามารถเทน้ำจากข้างบนน้ำสามารถไหลผ่านถึงกันได้ทุกช่อง
The Ten Thousand – Flower Pavilion สวนที่พืชดอก ไม้ประดับ แล้วก็ไม้ยืนต้นนานาจำพวก เป็นต้นว่า ต้นกิงโกะที่แก่ยืนกว่า 400 ปี ซึ่งรอบๆนี้ถูกล้อมด้วยกำแพงสูงสีขาว ตรงเหนือกำแพงเป็นมังกรที่เลื้อยยาวอยู่รอบสวน เช้าใจกันว่าเพื่อคุ้มครองปกป้องดูแลรวมทั้งคุ้มครองปกป้องสวนที่นี้
The Hall of Heralding Spring ตั้งอยู่ฝั่งทิศตะวันออกของสวนเป็นที่นำเสนออาวุธแล้วก็เหรียญกษาปณ์ The Hall of Jage Magnificence หรือเรียกว่าหอพักแดง สร้างขึ้นจากไม้เนื้อแดงทั้งยังข้างหลัง มีเนื้อหาที่งอนงามแสดงถึงสถาปัตยกรรมแบบจีนได้อย่างชัดแจ้ง The Inner Garden เป็นสวนหย่อมขนาดเล็กเล็ก ผลิตขึ้นเมื่อปี คริสต์ศักราช 1956 เป็นสวนที่มีลักษณะของการประสมประสานกันระหว่างทิศตะวันออกแล้วก็ตะวันตก ซึ่งถูกตกแต่งได้อย่างงดงามพอดี โครงการภูวิลล่า ภูเก็ต
บ้านของชาวจีนโดยปกติ ชอบมีลักษณะเป็นตึกสี่เหลี่ยมหลายข้างหลังประกอบกันข้างในรั้ว ซึ่งตึกแต่ละข้างหลังก็จะมีจุดมุ่งหมายรวมทั้งการใช้สอยที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด อาทิเช่น เรือนนอน เรือนรับรอง หรือเรือนบริวาร ฯลฯ โดยจุดแข็งของบ้านจีนโบราณนี้ จะอยู่ที่แบบอย่างการวางแผนผังบ้าน ที่ชอบวางตึกต่างๆให้ชิดกับรั้วบ้านทั้งยังสี่ด้าน รวมทั้งปลดปล่อยลานกึ่งกลางบ้านให้เตียน ในรูปแบบของ Courtyard ซึ่งลานกลางบ้านนี้ ก็จะใช้ทำกิจกรรมต่างๆมากมายก่ายกอง
ต้นสายปลายเหตุที่บ้านของคนจีน จำเป็นจะต้องสร้างตึกติดรั้วและก็มีลานกลางบ้าน กระทั่งทำให้มีการเกิดรูปแบบของบ้านล้อมสวนนั้น เนื่องจากลักษณะอากาศที่ค่อนข้างจะป่าเถื่อน ยกตัวอย่างเช่น ลมพายุทะเลทราย ลมพายุหิมะ หรือลมมรสุมต่างๆที่มีตลอดตลอดปี ด้วยเหตุนั้น วัฒนธรรมการผลิตบ้านล้อมสวน บ้านสองชั้น ก็เลยเป็นหนทางหลักที่ช่วยคุ้มครองป้องกันผู้อาศัยด้านในภายจากภัยที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติต่างๆและก็ยังมีผลให้ลานกลางบ้าน สามารถที่จะนำมาเพื่อใช้ทำกิจกรรมได้สบายแทบตลอดทั้งปีอีกด้วย
ดังนี้ บ้านจีนโบราณที่ประสบพบเห็นได้ทั่วๆไป ชอบเป็นตึกที่ล้อมลานทั้งยังสี่ด้าน หรือที่เรียกว่า “ซื่อเหอย่วน” ซึ่งนับว่าเป็นแบบบ้านเบื้องต้นของคนจีนเลยก็ว่าได้ โดยในวันนี้ พวกเราจะพาทุกท่านมารู้จะบ้านจีนแบบซื่อเหอย่วนกัน ว่ามีแบบแล้วก็เอกลักษณ์ของบ้านเป็นอย่างไรกันครับผม
อ่านเพิ่มเติม รู้จักบ้าน สไตล์จีน