จัดบ้าน

จัดบ้าน
จัดบ้าน

จัดบ้าน

จัดบ้าน ในวันที่จิตใจขุ่นมัวและอะไร ๆ ไม่เป็นใจ และเรายังต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้าน ลองหาเวลาพักหายใจและใช้เวลากับตัวเองด้วยการลุกขึ้นมาจัดบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยทำให้เราอารมณ์ดีขึ้นได้ และยังทำให้บ้านสวยขึ้นทันตา ด้วย “ทริคจัด บ้าน ” ง่าย ๆ ที่เรารวบรวมมาให้กัน

ทำไมการจัดบ้าน ถึงเปลี่ยนชีวิตเราให้ดีขึ้น

เสียงโอดครวญดังขึ้นมาทุกครั้งเมื่อแม่เข้ามาเก็บกวาดห้องนอนของเราโดยไม่ทันได้ตั้งตัว แม้ฝุ่นจะคลุ้งและรกแค่ไหน แต่พื้นที่เต็มไปด้วยข้าวของกองพะเนินนั้น กลับเป็นเซฟโซนอันอบอุ่นของใครหลายๆ คน
แต่พื้นที่รกที่เราคิดว่าอบอุ่นนั้น ความจริงแล้วอาจไม่ได้ดีต่อใจอย่างที่คิด

ความ ‘ยุ่งเหยิง’ มักทำให้เราเครียด

มนุษย์ชอบสะสมสิ่งของเพราะทำให้เรารู้สึกปลอดภัย นั่นทำให้เรารักบ้านรก ๆ ของเรา บางครั้งความยุ่งเหยิงก็ทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์ นั่นทำให้หลายคนชื่นชอบการทำงานบนโต๊ะรกๆ ของตัวเอง แต่รู้ไหมว่าข้าวของที่ระเกะระกะนั้นกำลังส่งผลต่อสุขภาพจิตของเราอยู่กลาย ๆ “พื้นที่รอบๆ ส่งผลต่อตัวเราอย่างเลี่ยงไม่ได้” – Stephanie McMains และ Sabine Kastner นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัย Princeton กล่าว เพราะห้องที่เต็มไปด้วยข้าวของระเกะระกะ จะทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้นและเกิดความเครียดโดยไม่ทันรู้ตัว นี่คือเหตุผลว่า ทำไมบางคนถึงไม่สามารถทำงานบนโต๊ะรกๆ ได้อย่างราบรื่น เพราะมันจะทำให้เราหลุดโฟกัสจากงานตรงหน้าได้ง่าย ๆ

การ ‘จัดบ้าน‘ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น

จัดหนังสือให้เป็นระเบียบ เรียงสีเสื้อในตู้เสื้อผ้า เก็บรองเท้าบนชั้นวาง กิจกรรมง่าย ๆ เหล่านี้ช่วยให้เราผ่อนคลายโดยไม่รู้ตัว เพราะจะทำให้ร่างกายหลั่งสารโดปามีน หรือสารที่ทำให้มีความสุขออกมา ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Navarra ระบุว่า สภาพแวดล้อมที่ดีจะช่วยให้เราคิดได้ราบรื่นขึ้น หลังจากทำการทดลองแล้วพบว่า กลุ่มตัวอย่างจะป้อนข้อมูลได้ผิดพลาดน้อยกว่าเมื่ออยู่ในห้องที่จัดอย่างเป็นระเบียบ “ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของบ้านที่เป็นระเบียบคือการค้นหาสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย ซึ่งจะทำให้คุณเครียดน้อยลง” Chris Stiff อาจารย์ด้านจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัย Keele กล่าว

นอกจากการเห็นข้าวของเข้าที่เข้าทางจะช่วยให้สบายใจแล้ว การจัด บ้าน ยังทำให้เรารู้สึกประสบความสำเร็จ ซึ่งส่งผลให้เกิดความภาคภูมิใจที่จะเป็นแรงผลักดันให้เราเอาชนะกิจกรรมท้าทายอื่นๆ ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกเชิงบวกดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ เป้าหมายของการจัดบ้านนั้นต้องมีความเป็นไปได้ เช่น อาจเริ่มต้นเล็กๆ ด้วยการจัดโต๊ะเครื่องแป้ง เอาขยะไปทิ้ง หรือจัดระเบียบของสดในตู้เย็น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่กินเวลาไม่มาก และไม่เหนื่อยเกินไป ในขณะที่การเก็บกวาดทั้งบ้านให้เรียบร้อยภายในวันเดียว อาจเป็นเป้าหมายที่ยากเกินไป เมื่อทำไม่ได้ แทนที่จะรู้สึกภูมิใจ จะทำให้เกิดความรู้สึกแย่กับตัวเองตามมา

5 ทริคจัดบ้านที่ทำได้ง่าย ๆ ชวนสดชื่น

จัดบ้าน
  • เพิ่มความสดชื่นจากธรรมชาติ

ความสดชื่นตามธรรมชาตินั้นดีกับจิตใจนะ ไม่ว่าจะเพิ่มต้นไม้ปลูกไว้ในบ้านสัก 2-3ต้น หรือจัดแจกันด้วยดอกไม้ที่ชอบแล้วจัดวางบนโต๊ะก็เข้าที ช่วยให้บ้านดูมีชีวิตชีวาได้ไม่น้อยเลยล่ะ มีต้นไม้ปลูกได้ในร่มหลายขนิดทีเดียว ที่ทนต่อสภาพแวดล้อมและไม่ต้องการการเอาใจใส่มากนัก แค่รดน้ำบ้างเป็นบางครั้งก็อยู่ได้แล้ว เช่น ว่านหางจระเข้ ต้นลิ้นมังกร และต้นเดหลี มือใหม่หัดปลูกจึงไม่ต้องเป็นกังวลเลย

  • แสงสว่างชวนบ้านสดใส

บ้านที่ทึบทึมมีแต่ชวนให้รู้สึกหดหู่ การออกแบบห้องให้แสงสว่างธรรมชาติเข้าถึงได้จึงเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย การติดตั้งหน้าต่างในมุมที่แสงแดดส่องถึงได้จึงเป็นหนึ่งวิธีดีๆ ช่วยให้อารมณ์ดีในแต่ละวัน เพราะแสงสว่างส่งผลต่ออารมณ์ การเปิดม่านรับแดดอ่อนๆ จะช่วยให้จิตใจของเราร่าเริงและรู้สึกกระปรี้กระเปร่า การทาผนังด้วยโทนสีอ่อนช่วยให้แสงแดดกระจายตัวในห้องได้ดีกว่า หรืออาจจะลองเปิดหน้าต่างให้อากาศไหลเวียนเสียหน่อยก็ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้เหมือนกัน

  • จัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้เข้าที่ เก็บกวาดให้เข้าทาง

บ้านที่รกรุงรังหรือมีของวางสะเปะสะปะนั้นคงไม่ดีกับจิตใจเท่าไหร่ เพียงจัดวางของให้เป็นที่เป็นทางเพื่อให้สภาพแวดล้อมนั้นสบายตาก็เป็นหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้รู้สึกสดใสขึ้น เช่น วางถาดเล็กๆ ไว้ใกล้ประตูบ้านไว้สำหรับใส่เศษเหรียญ กุญแจรถ หรือของชิ้นเล็กต่างๆ ที่ติดตัวมาจากข้างนอก หรือการวางถังขยะไว้ใกล้ประตูเพื่อให้การเก็บกวาดขยะไปทิ้งทำได้สะดวกมากขึ้น ถ้าไม่ลุกขึ้นทำในช่วงนี้แล้วจะลุกขึ้นมาทำตอนไหน

การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ก็สำคัญไม่น้อยเช่นกัน การเลือกวางเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากับทิศทางห้อง ทำให้ห้องดูเป็นระเบียบเดินไปเดินมาได้สะดวก รวมถึงการมีจุดสนใจของห้อง เช่น จัดวางชุดโซฟานุ่มๆ หน้านั่งใกล้กับชั้นทีวี หรือการวางโต๊ะเล็กใกล้โซฟาเพื่อไว้สำหรับวางของ เพราะการมีเฟอร์นิเจอร์ที่จัดวางสำหรับอำนวยความสะดวกได้อย่างเหมาะเจาะพอดี เป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้เรารู้สึกขุ่นข้องหมองหม่นน้อยลงล่ะ

เฟอร์นิเจอร์ที่มีความโค้งมนช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นให้กับห้องและยังชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กๆ ที่มีพื้นที่จัดเก็บก็ช่วยเพิ่มมิติให้กับการตกแต่งห้องให้ไม่ดูกระจัดกระจายเกินไปอีกด้วย

  • เติมเต็มมุมบ้านด้วยของตกแต่งแสนรัก

การตกแต่งมุมในบ้านด้วยของตกแต่งที่ดีกับใจช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้นะ เช่น ของตกแต่งที่มีความหมายทางจิตใจช่วยให้เรารู้สึกอบอุ่นใจและให้ความรู้สึกเป็นบ้านได้ง่ดีที่เดียวล่ะ ไม่ว่าจะการติดรูปถ่ายความทรงจำดีๆ บนผนัง การวางของที่ระลึกจากการไปเที่ยวไว้บนชั้น หรือของสะสมชิ้นรักประดับประดาพื้นที่โล่งๆ ในห้องก็ช่วยให้เรารู้สึกปลอดภัยเหมือนได้อยู่ในคอมฟอร์ทโซนของตัวเอง

  • สีสันสวย ๆ ช่วยให้อารมณ์ดี

ไม่ว่าจะด้วยสีของผนังหรือหรือสีของเฟอร์นิเจอร์ล้วนส่งผลกับอารมณ์ไม่น้อยเลยนะ แน่นอนว่าแต่ละบ้านต่างมีสีที่ชอบต่างกันไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสีโทนเย็นอย่างสีเขียวอ่อนหรือสีฟ้าอ่อนช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสงบเหมือนน้ำทะล จึงเหมาะกับการใช้ตกแต่งห้องน้ำและห้องนอน

  1. สีโทนเย็นที่ซีดจางเกินไปอาจทำให้ห้องดูเย็นชืด อาจเลือกเฉดที่อุ่นหน่อยเช่น สีเปลือกไข่หรือสีม่วงแพงพวย ช่วยให้ห้องดูอบอุ่นนุ่มนวล
  2. ห้องที่ตกแต่งด้วยผนังสีโทนเย็นแล้วอาจลองเลือกใช้ของตกแต่งสีสว่างโทนร้อนมาเพิ่มความสดใสให้ห้องดูอบอุ่นน่าอยู่ขึ้นก็ทำได้นะ
  3. สีเขียวลงตัวกับทุกห้องเพราะเป็นโทนสีที่ช่วยพักสายตา จะใช้ตกแต่งห้องไหนก็เหมาะ
  4. สีม่วงอ่อนอย่างสีลาเวนเดอร์เป็นสีที่เหมาะกับห้องนอนที่สุด ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและหลับสบาย
  5. ในขณะที่สีสว่างๆ โทนร้อนอย่างสีแดงหรือสีส้ม ให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าเหมือนแสงอาทิตย์ เหมาะกับการใช้ตกแต่งห้องครัวและห้องนั่งเล่น
  6. สีแดงจัด อาจฉูดฉาดเกินไปสำหรับใช้ตกแต่งผนัง อาจเลือกโทนสีที่อ่อนลงมาเช่นสีอิฐ สีชาด หรือน้ำตาลอมแดง
  7. สีส้ม อาจทำให้ห้องดูร้อนเกินไป อาจเลือกปรับเป็นโทนสีที่อ่อนลงเช่นโทนสีพีช หรือเทอราคอตต้า
  8. สีเหลือง ดูสดใสก็จริงแต่ผนังสีเหลืองจ้าเกินไปอาจทำให้รู้สึกอึดอัดและไม่สบายใจ อาจเลือกใช้สีเหลืองอ่อนลงมาเพื่อความพอดี

เคล็ดลับจัดบ้าน แบบขั้นกว่า แค่รู้ไว้ ชีวิตก็ง่ายขึ้น

จัดบ้าน

การพัฒนาเทคนิคการจัดเก็บสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้าน เป็นเหมือนกับวงจรที่ไม่เคยจบไม่เคยสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำความสะอาดหรือการ จัดบ้าน เก็บข้าวของ เราจึงต้องสรรหาเคล็ดลับ วิธีใหม่ๆ ที่จะทำให้ชีวิตง่าย สะดวกขึ้น และทำสิ่งต่างๆ ได้เร็วขึ้นมาแชร์กันอยู่เสมอ ใครล่ะจะอยากสาละวนอยู่แต่กับเรื่องงานบ้านทั้งวี่วัน อยากรู้เคล็ดลับกันแล้ว ก็เริ่มอ่านกันได้เลย home

  • ติดตั้งตะแกรงบนอ่างล้างจาน

ปกติเมื่อล้างจาน เรามักจะวางจานที่เปียกไว้ตรงตะแกรงพัก หรือเช็ดแห้งอีกซักรอบหนึ่ง ก่อนนำไปเก็บเข้าตู้อีกรอบ จะเสียเวลาแบบนั้นทำไม แค่ติดตั้งตะแกรงบนอ่างล้างจาน เพียงเท่านี้น้ำก็สามารถหยดลงมา ปล่อยให้จานแห้งและเก็บเข้าที่ได้ในเวลาเดียวกันแล้ว

  • ใช้เบคกิ้ง โซดา คืนชีพรองเท้าผ้าใบสีขาว

ใช้เบคกิ้ง โซดา ผสมกับน้ำยาซักผ้าเล็กน้อย เพื่อคืนชีพรองเท้าผ้าใบสีขาวจากคราบสกปรกที่ทำให้รองเท้าดูมอมแมมไม่น่าใช้

  • ใช้กระดาษฟอยล์แทนแปรงขัด

หาแปรงขัดไม่เจอไม่เป็นไร ใช้กระดาษฟอยล์แทนไปก่อนได้ ได้ผลเหมือนกัน แค่ปั้นกระดาษฟอยล์ให้เป็นก้อนกลมๆ นำไปใช้ขัดคราบติดแน่นในจานชาม แถมเรายังใช้ขัดเครื่องเงินได้อีกด้วยนะ

  • ใช้ราวแขวนเป็นที่เก็บฝาหม้อ

เพื่อความสะดวกในการใช้งาน หากราวแขวนผ้ามักไม่ได้ใช้งาน เพราะเรามักจะนำผ้าไปไว้ในที่ต่างๆ ที่ใกล้มือมากกว่า ลองเอาฝาหม้อไปวางไว้สิ ทีนี้ปัญหาฝาหม้อหาย หรือหาชิ้นที่ต้องการไม่เจอก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

  • ทำความสะอาดทองเหลืองด้วยซอสมะเขือเทศ น้ำส้มสายชู หรือมะนาว

สามส่วนผสมนี้ล้วนหาได้ง่ายในครัวเรือนอยู่แล้ว นำมาขัดนำมาถู เครื่องทองเหลืองก็จะวิ้งวับจับตาอีกครั้ง

  • ไม้ถูพื้นสำหรับเข้ามุม

ไม้ถูพื้นไมโครไฟเบอร์ที่สามารถหักหัวถูแบบนี้ จะสามารถเข้าถึงที่ต่าง ๆ ได้ ในมุมที่ไม้ธรรมดาเข้าไปไม่ถึง เพื่อความสะอาดที่มากกว่า ด้วยวิธีที่ง่ายกว่า อยู่ตรงนี้แล้ว

  • แขวนหม้อและกระทะ

แทนที่จะไปเบียดเบียนพื้นที่อันมีค่าในตู้ นำกระทะและหม้อออกมาแขวนก็ดูเป็นวิธีที่ถนัดมือ ใช้งานง่ายไม่เบา โดยการแขวนยังสามารถซ้อนใบที่เล็กกว่าไว้ด้านใน จะช่วยประหยัดพื้นที่กันได้เยอะสุด ๆ

  • จัดเรียงอุปกรณ์รูปทรงเดียวกันให้เป็นหมวดหมู่อย่างมีระเบียบ

เพื่อลิ้นชักที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ซ้อนช้อนส้อม มีด เครื่องเงินที่มีรูปทรงหรือขนาดเท่าๆ กันไว้ด้วยกัน นอกจากจะประหยัดพื้นที่แล้ว ยังหยิบใช้งานง่ายอีกด้วยนะ

  • วางของหนักไว้ชั้นล่างเสมอ

สิ่งของที่มีน้ำหนักมากอย่างกระทะเหล็ก หม้อเข้าเตาอบใบใหญ่ ควรจัดเก็บไว้ด้านล่างสุดของตู้เก็บของ เพราะจะปลอดภัยกว่าเมื่อมีการหยิบใช้งาน อย่าเอาของหนักไว้เหนือหัว เพราะถ้าพลาดหล่นลงมา คงมีเจ็บกันบ้างล่ะ

  • เติมที่เก็บของให้กับซิงค์ล้างจาน

อย่าปล่อยฟองน้ำล้างจานที่เปียกชุ่มไว้ที่ไหนก็ได้รอบๆ อ่าง เพราะหากเกิดน้ำขัง ไม่แห้ง อาจเป็นต้นเหตุของเชื้อโรคและเชื้อรา ใช้ที่เก็บของที่สามารถวางฟองน้ำ และมีที่ระบายน้ำให้ฟองน้ำค่อย ๆ แห้ง

  • เว้นช่องว่างในตู้เก็บของไว้บ้าง

จัดวางอาหารในตู้เก็บให้เป็นระเบียบ โดยอาจจะแบ่งด้วยชนิดของมัน เหลือพื้นที่ว่างไว้บ้างเพื่อให้ทุกอย่างดูไม่รก ล้นทะลักมากจนเกินไป สไตล์บ้าน