ของฝากเมืองภูเก็ต
ของฝากเมืองภูเก็ต สวัสดีจ้ะทุกคน วันนี้แอดไม่นร้านม่าม้าจู้ ของที่ระลึกจังหวัดภูเก็ตใกล้ทางออกไปท่าอากาศยาน ชี้แนะว่ามาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตแล้วควรมีของกำนัล 3 แบบงี้ติดไม้ติดมือไป ห้ามพลาดเลย ที่จะซื้อไปฝาก ไม่งั้นได้ว่ามาไม่ถึงจังหวัดภูเก็ตกันอย่างยิ่งจริงๆ ร้านค้าม่าม้าจู้ ของที่ระลึกเมืองจังหวัดภูเก็ต ชี้แนะของที่ระลึกจังหวัดภูเก็ต 3 อย่าง บ้าน เเอดเลยขอเลือกผลิตภัณฑ์ที่นับได้ว่าเป็นที่นิยมที่สุดเมื่อมาเยี่ยมจังหวัดภูเก็ตต้องจับติดไม้ติดมือไป… เพียงแต่ 3 อย่างที่ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด เเล้วเพื่อนฝูงๆรู้สึกว่าของดีจังหวัดภูเก็ตโน่นเป็นยังไงกันบ้างเอ่ย
ของหวานเต้าส้อ
เป็นของหวานที่ให้มาจังหวัดภูเก็ตแล้วจำต้องได้ทาน เนื่องจากตัวของหวานมีความเป็นเอกลักษณ์ แป้งบาง กรอบ ร่วน ไส้ที่คนจังหวัดภูเก็ตนิยมเอามาทำเต้าส้อเป็นไส้เค็ม รวมทั้งไส้หวาน สำหรับในรูปภาพที่มองเห็นนี้เป็นของหวานเต้าส้อไส้หวานจ้ะ ทำจากถั่วเขียว ยิ่งทานคู่กับกาแฟร้อน
ต้าส้อ คำนี้มาจากภาษาจีนฮกเกี้ยน ในจังหวัดพังงารวมทั้งจังหวัดภูเก็ต เป็นของหวานที่คนประเทศไทยเชื้อสายจีนฮกเกี้ยนนิยมทำกิน เต้าส้อเป็นของหวานมงคล เดิมมี 2 ไส้หมายถึงไส้หวานซึ่งทำมาจากถั่วกวน รวมทั้งไส้เค็ม แต่ว่าปัจจุบันนี้มีการปรับเปลี่ยนทำให้มีไส้ รสต่างๆมากขึ้นเรื่อยๆ ได้แก่ ไส้มะม่วง,ไส้ทุเรียน,ไส้ชาเขียว
ของหวานเต้าส้อ มีเนื้อแป้งที่กรอบนอกนุ่มในแล้วก็แป้งบาง ของหวานกรอบและก็นุ่มเมื่อกัดลงไปทุกคำ ของหวานเต้าส้อทำจากถั่วเขียวบดผสมกับน้ำตาล ซึ่งมีอีกทั้งไส้หวานและก็ไส้เค็ม รวมทั้งมีการใส่ไข่แดงเค็มผสมในไส้ด้วยทำให้รสอร่อยมากขึ้น จริงอยู่ที่ของหวานเต้าส้อมีลักษณะซึ่งคล้ายของหวานเปี๊ยะ แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วของหวานเปี๊ยะจะมีขนาดใหญ่ แล้วก็ไส้จะเป็นไส้ฟัก(ขนมจันอับ) หรือไส้ถั่วเหลืองเพียงอย่างเดียว
เต้าซ้อแม่บุญธรรม ร้านค้านี้เขาเป็นร้านค้าที่ทำเต้าซ้อมาช้านาน และก็มี “โกหัว” ผู้เป็นพ่อค้าหิ้วของหวานขายในยุคเก่า จนกระทั่งถึงตอนนี้ร้านค้าได้มีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับปรุงให้มีความนำสมัย สะอาด มีมาตราฐาน จากวัยรุ่นสมัยใหม่เป็น“คุณจูน” ผู้สืบทอดสูตรเต้าซ้อร้านค้าแม่บุญธรรม เต้าซ้อของที่ร้านค้า จะไม่เสมือนเต้าซ้อของร้านค้าอื่น ครั้งก่อนขนาดของเต้าซ้อที่ร้านค้าจะมีขนาดเล็กกว่าร้านค้าอื่น ในเวลานี้ได้ปรับให้มีขนาดธรรมดาแล้ว แม้กระนั้นถ้าหากคนใดกันแน่ยังคิดหัวใจกับขนาดเล็กอยู่ โครงการภูวิลล่า ภูเก็ต
ก็สามารถออเดอร์ได้เลย จำกัดออเดอร์ไม่เกิน 20 กล่อง/ วัน เพียงแค่นั้นนะคะ กล่าวถึงรสของไส้เต้าซ้อทางร้านค้าเปลี่ยนแปลงมาหลายรอบ จนบัดนี้ได้สูตรที่พอดี ไม่มัน แล้วก็อร่อยคนท้องถิ่น รวมทั้งนักเดินทาง” ฟังอย่างงี้แล้ว ต้องการลองกันแล้วใช่ไหมล่ะค่ะ แม้กระนั้นพวกเราจะพาไปบุกมองขั้นตอนผลิตเต้าซ้อกันก่อน เพิ่มน้ำย่อยให้ล้นกระเพาะเลย
เต้าซ้อของตรงนี้จะขายวันต่อวัน รวมทั้งจะปั้นเต้าซ้อ พร้อมอบของหวาน วันละ 2 รอบ ทั้งยังเช้าตรู่ รวมทั้งบ่ายกันเลย! เรียกว่า ปั้นกันตลอดวันขนาดนี้ ก็ยังขายไม่ทันนะคะ อบเสร็จปุบปับ หมดปั๊บเลย คนไหนจะไปซื้อหลายๆกล่อง เสนอแนะให้โทรจองก่อนเลย หากอดรับประทานสักครู่จะกล่าวหาไม่เตือน! ของเขาขายดิบขายดีจริงๆเริ่มกันที่ผสมแป้ง แล้วก็นวดแป้งให้ได้ตามสูตรของของหวานเต้าซ้อ แล้วเอามาหั่นให้เป็นก้อนๆเพื่อเตรียมการไว้ในการปั้นเต้าซ้อ บ้านจัดสรร ใช้ไม้กดรีดแป้งให้บาง แล้วม้วนเป็นก้อนๆพักไว้จัดแจงใส่ไส้
ไส้ของเต้าซ้อ จะทำจากถั่วเขียวกวน ตัวไส้หวาน จะเป็นถั่วเขียวกวนใส่น้ำตาล ส่วนไส้เค็ม เป็นถั่วเขียวกวนกับเกลือ น้ำตาล รวมทั้งพริกไทย เป็นสูตรที่เปลี่ยนแปลงรสให้พอดีมาแล้ว ทั้งคู่ไส้จะมีแบบใส่ไข่เค็ม และไม่ใส่ด้วยนะคะ ปั้นกระทั่งเสร็จครบสองถาด ก็จัดแจงเอาเข้าอบกันได้เลยนะ ทางซ้ายเป็นไส้เค็ม ใช้งาเป็นเครื่องหมาย รวมทั้งทางขวาเป็นไส้หวาน แป้งเรียบเนียนเชียว ได้แบบงี้และจากนั้นก็เอาเข้าตู้อบเลย ได้ออกมาเป็นเต้าซ้ออบใหม่ ร้อนๆกลิ่นหอมสดชื่น ยั่วยวนใจมากมายๆเลยนะ คนไหนกันแน่ได้มายืนหน้าเตาแบบงี้ ยืนยันว่าควรมีน้ำลายสอ ท้องร้องกันเลย คณะทำงานพวกเราเช็ดน้ำลายแทบจะไม่ทันเลยล่ะ
แกงไตปลา
แกงไตปลาเป็นเอกลักษณ์ของคนภาคใต้อยู่แล้วใช่ไหมขา แม้กระนั้นของร้านค้าแม่จู้ พวกเรามีความพิเศษเป็น มีให้เลือกร่วมกันถึง 3 สไตล์ อย่างเช่น แกงไตปลาน้ำ, แกงไตปลาแห้ง แล้วก็แกงไตปลาคั่วเกลือก นอกเหนือจากนั้น ทางร้านค้ายังมีแนวทางการผลิตที่ต่ออายุการเก็บแกงไตปลาได้นานถึง 1 ปี โดยไม่ใส่วัตถุกันเสียอีกด้วยจ้ะ home
แกงไตปลา จังหวัดภูเก็ต หรือราษฎรจังหวัดภูเก็ตมักเรียกว่า ” แกงพุงปลา ” แกงไตปลา หรือ แกงพุงปลา นับว่าเป็นของกินของคนใต้ ยอดนิยมมากมาย ซึ่งน้ำพุงปลา ทำจากส่วนของพุงปลา โดยการนำมามัก ใส่เกลือเก็บไว้จนได้ที่ แนวทางการแกง เช่นเดียวกับแกงทั่วๆไป โดยมีส่วนประกอบ ปลาย่าง เม็ดมะม่วงหิมพานต์สด หน่อไม้ดอง ถั่วค้าง มันฝรั่ง หรือตามแต่ที่ผู้แกงนิยม แกงไตปลา หรือ แกงพุงปลานั้น มีรสออกจะรสจัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งรสเผ็ดจะเผ็ดมากมาย เนื่องจากว่าที่จะต้องมีรสจัดเพื่อกำจัดกลิ่นคาวของพุงปลา
แกงไตปลา เป็นอีกหนึ่งรายการอาหารของชาวภาคใต้ที่นิยมกินกัน ซึ่งแกงไตปลาที่อร่อยควรจะมีรสที่จัดจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งรสเผ็ดจำเป็นจะต้องเผ็ดมากมาย สามารถทานคู่อาหารงามร้อนๆหรือ จะทานกับขนมจีนก็ได้ เกือบจะกล่าวได้เลยว่าถ้าเกิดพวกเราไปกินอาหาร หรือ ข้าวแกงไหน ทุกๆที่ ต้องมีรายการอาหาร แกงไตปลา ให้พวกเราได้รับประทานกัน และก็ตอนนี้ก็ยังได้มีการนำแกงไตปลามาดัดแปลง เป็นแกงไตปลาแห้ง ซึ่งสามารถเก็บไว้ได้นาน สบายแก่การนำเอา สามารถนำกลับไปเป็นของฝากติดไม้ติดมือได้
“แกงไตปลา” หรือ “แกงพุงปลา” ที่ใช้เรียกกันในภาคใต้ ซึ่งเป็นของกินไทยที่มีชื่อของจังหวัดพัทลุง บ้านหรู แกงไตปลามีสีที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งรสอันเผ็ดร้อน แม้คนใดกันได้ลอง รับประกันเลยว่าจะต้องชอบใจแน่ๆ วันนี้ก็เลยนำสูตรพร้อมแนวทางการทำแกงไตปลากล้วยๆซึ่งสามารถบริจาคทานเองเหมาะบ้าน
น้ำพริกกุ้งทิ่ม
อย่างท้ายที่สุดแม้กระนั้นไม่ในที่สุด! ห้ามพลาดเด็ดขาด ด้วยเหตุว่าเมื่อระลึกถึงจังหวัดภูเก็ต ก็จำต้องรำลึกถึงสมุทร… เเละกุ้งทิ่มก็เป็นอาหารทะเลอีกนึงอย่างที่ขึ้นชื่อลือชาเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต / จังหวัดพังงา / กระบี่เพียงแค่นั้น ก็เลยนับได้ว่าเป็นของที่ระลึกสุดพิเศษจากจังหวัดภูเก็ตจริงๆจ้ะ น้ำพริกกุ้งแทงทำมาจากเครื่องเทศ ดังเช่นว่า พริก หอม กระเทียม กะปิเอามาตำให้ถูกกัน แล้วผสมกับกุ้งแทง แต่งรสด้วยเครื่องปรุง อย่างเช่น เกลือ น้ำตาล มะนาวหรือมะขามแฉะ รูปแบบของน้ำพริกกุ้งแทงทั่วๆไปจะออกจะแห้งจ้ะ เหมาะสมจะทานกับผักสดแล้วก็ผักต้มได้ตามที่ใจต้องการเลยจ๊ะ ไม่ว่าจะเป็น แตงร้าน สะโคน ถั่วค้าง มะเขือ ข้าวโพดอ่อนต้ม กะหล่ำดอกต้ม และก็ที่จำเป็นเลยเป็นข้าวสุกร้อนๆสรุปว่าเด็ด
ผู้แสดงนำชายของรายการอาหารนี้คงจะหนีไม่พ้น “กุ้งแทง” ต้องการแน่ๆ โดยกุ้งทิ่มเป็นการรักษาอาหารอย่างหนึ่งของภาคใต้ เป็นการนำเอากุ้งใหม่ๆมาทิ่มไม้ปิ้งอีกทั้งเปลือกและก็รมควันจากกาบมะพร้าวจนได้กุ้งที่มีกลิ่นหอมสดชื่นแต่ว่าที่สำคัญจำเป็นต้องไม่ไหม้นะคะ กุ้งเสียบนิยมเอามาทำเป็นน้ำพริกทานกันในครอบครัวแล้วก็ปรับปรุงรสกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นของดีของเด่นประจำเขตแดนในขณะนี้ บ้าน
รสของน้ำพริกกุ้งแทง ร้านค้า ม่าม้าจู้ จังหวัดภูเก็ต : กุ้งแทงในน้ำพริกค่อยข้างกรอบจ้ะ รส หวาน เค็ม เผ็ด ครบ 3กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมทานแล้วรสหวานรสเค็มมาพร้อมเพียงกันจ้ะ ตามและก็ด้วยความเผ็ดเป็นชั้นท้ายที่สุดจ้ะ ส่วน Packaging เป็นแบบเริ่มแรกเลยจ้ะ กระปุกพลาสติกใสแบบแบน เปิดปิดแบบหมุนเข้าหมุนออกจ้ะ สบายดี บ้านสองชั้น เหมาะสมกับการซื้อเป็นของฝากแบบจำนวนไม่ใช่น้อยหลายๆกระปุก นอกเหนือจากนั้นยังมีขนาด 70 กรัม ราคา 80 บาท และก็ขนาด 150 กรัม ราคา 150 บาทด้วยจ้ะ
คนใดถูกใจความเผ็ดจำเป็นต้องกระปุกนี้เลยจ้ะ เผ็ดร้อน เผ็ดนาน ทานอาหารงามร้อนๆผ่านเลยคะ ส่วน Packaging เป็นขวดแก้วใสจ้ะ มองเห็นตัวน้ำพริกภายในแบบแน่ชัดจ้ะ ใช้สีแดงเป็นหลักเด่นสะดุดตามากมายจ้ะ เป็นของฝากได้สบายเลย คำแรกที่ทานได้การหอมของพริกรวมทั้งกระเทียมสดมากมายเลยนะ รสไม่เผ็ดมากมาย หวานเค็มพอดิบพอดีกัน สะดุดตาที่กลิ่นหอมหวนของน้ำพริก ส่วน Packaging เป็นขวดแก้วใสและไม่สูงมากมายจ้ะ มีฉลากข้างขวดบอกเนื้อหาแน่ชัดดีจ้ะ
อ่านเพิ่มเติม แนะนำของฝากเมืองภูเก็ต
