บ้านสไตล์คอทเทจร่วมสมัย

บ้านสไตล์คอทเทจร่วมสมัย
บ้านสไตล์คอทเทจร่วมสมัย

บ้านสไตล์คอทเทจร่วมสมัย ตีความใหม่ให้อบอุ่นอย่างทันสมัย

บ้านสไตล์คอทเทจร่วมสมัย บ้านสไตล์คอทเทจ คือบ้านที่ใช้การตกแต่ง แบบคันทรี ในฝั่งตะวันตก สามารถปรับเปลี่ยนให้ เข้ากับสไตล์อื่นได้ไม่ยาก เพราะมีความเป็นธรรมชาติ อยู่ในตัวค่อนข้าง สูงจากวัสดุที่เลือกใช้ในการสร้าง เช่น เปลือกไม้ หิน ไม่ว่าจะเป็นของจริงจาก ธรรมชาติหรือของเทียม ที่อาจมีราคาถูกกว่า ผสมการตกแต่งอื่น ๆ ด้วยวัสดุที่เป็นของเก่า เพื่อให้ลงตัวกับองค์ประกอบ โดยรวมของบ้าน ซึ่งบ้านสไตล์คอทเทจนี้ สามารถสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ให้กับผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี

ในประเทศไทยแบบบ้านคอทเทจ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ด้วยสไตล์คอทเทจ สามารถปรับเปลี่ยนใช้วัสดุในธรรมชาติ ที่หาได้ง่ายในประเทศไทย เลยไม่เป็นปัญหาใน ด้านการก่อสร้าง แต่อาจจะปรับแบบจากต่างประเทศนิดหน่อย เช่น ต่างประเทศจะมีเตาผิงไฟ สำหรับหน้าหนาว แต่บ้านเราไม่จำ เป็นต้องใช้ หรือวัสดุต่าง ๆ

บ้านสไตล์คอทเทจร่วมสมัย

แบบบ้านสไตล์คอทเทจร่วมสมัย

ยังจำกระท่อมน้อย หลังคาจั่ว ผนังหินที่เรามักเจอในการ์ตูน หรือภาพยนตร์เก่า ๆ กันได้หรือเปล่า หลายคนยังคงไม่ลืมกลิ่นอาย ความอบอุ่นของรูปทรง และวัสดุ เพียงแต่ว่าในการใช้ชีวิตจริง ๆ นั้น การคงสภาพเดิมๆ แบบกระท่อมที่เรา เคยคุ้นอาจจะไม่ตอบโจทย์ จะดีไหมนะถ้ามีบ้าน แบบคอทเทจ ที่ดูร่วมสมัยขึ้น รับแสงธรรมชาติ และวิวได้มากไปกว่าเดิม ในขณะที่ยังคงความรู้สึกใกล้ ชิดกับธรรมชาติยังคง อยู่เหมือนเดิม สำหรับคนที่มองหา คอทเทจสไตล์ร่วมสมัย บ้านหลังนี้คงเป็นหนึ่ง คำตอบที่สร้างความ ประทับใจได้เช่นกัน

บ้านหลังนี้อยู่ย่านชาน เมืองบนชายฝั่งทางใต้ ของมอนทรีออล ประเทศแคนาดา สร้างขึ้นในรุ่นของคุณพ่อตั้งแต่ปีค.ศ. 1960 ในสไตล์คอทเทจ หรือกระท่อมที่ดูอบอุ่น วัสดุหลัก ๆ เป็นสิ่งที่หาได้ในท้องถิ่นที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ อาทิ แผ่นหินขนาดใหญ่และไม้ หลังจากผ่านไป 50 ปี ภาพรวมตัวบ้านก็ยังดูดีเพราะไม่ได้ทำงานอะไรมาก แต่ก็ต้องการการฟื้นฟูในบางจุด เนื่องจากบ้านเดิมไม่มี แสงธรรมชาติเข้ามามากนัก และมีห้องปิดหลาย ห้องล้อมรอบบันไดกลางบ้าน ทำให้บ้านดูมืดทึบ

กำแพงและผนังบ้าน บางส่วนที่เป็นอผ่นหินมี ความแข็งแกร่งมาอยู่แล้วจึงแทบ ไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม แต่ในส่วนของหลังคาเดิม ถูกเปี่ยนเป็นเมทัลชีท seamless เข้ากับผนังไม้ที่เปลี่ยนเป็น สีดำดูเรียบคมชัดทำให้ลุคบ้านดูทันสมัยขึ้นทันที สำหรับอีกส่วนที่แก้ไขหลัก ๆ คือ การเปิดอาคารด้านทิศใต้ ด้วยประตูต่อเชื่อมเฉลียงด้วย กระจกบานใหญ่ การถอดพาร์ติชั่นเดิม ในบ้านบางจุดให้แสงธรรมชาติ ส่องเข้าไปในตัวบ้านได้ลึกขึ้น

บ้านสไตล์คอทเทจร่วมสมัย

เปิดประตูก้าวเข้าสู่ตัวบ้านจะเห็นบันไดเหล็กสีดำ

ที่หุ้มด้วยไม้ วีเนียร์เมเปิ้ลสีอ่อน ๆ และกระจกฝ้า เป็นเหมือนประติมากรรมสมัยใหม่ ที่สร้างจุดโฟกัสของบ้าน ภายในชั้นล่างนี้ จะมีห้องนั่งเล่น มุมอ่านหนังสือ ครัว โต๊ะทานข้าว กระจายอยู่รอบบันไดและสามารถเดินเชื่อมต่อกันได้หมด เพราะสถาปนิกรื้อผนังเก่า ที่ไม่ได้ใช้งานออกให้ เป็นสเปซเดียวขนาดใหญ่ พื้นที่ในบ้านจึงมี ความโล่งลื่นไหลขึ้น แสงจากประตูหน้าต่างกระจาย เข้าสู่พื้นที่ใช้ชีวิต ได้ดีขึ้นตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย

ประตูกระจกหมุนได้ สองบานตรงทางเข้าออก ทำให้เกิดห้อง sunroom ที่อบอุ่นในฤดูหนาว แต่ที่นี่อากาศหนาวมากแค่แสง อย่างเดียวก็เอาไม่อยู่ จึงต้องมีเตาผิงภายในบ้านด้วย ซึ่งเจ้าของบ้านก็คงเตาผิงหินขนาดมหึมาเอาไว้แล้ว ปรับปรุงให้สะอาดปลอดภัย ขึ้นด้วยการใช้กระจกนิรภัย ทนความร้อนติดแทนการเปิดโล่ง ไม่น่าเชื่อว่าวัสดุที่มี พื้นผิวหยาบ ๆ ดิบๆ ตัดกับความเรียบบริสุทธิ์ ขององค์ประกอบใหม่ จะอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว โดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด บ้านแฝด 

ส่วนเคาท์เตอร์ไอส์แลนด์ ในครัวมีแขนยื่นออกมา 2.4 เมตรจากตัวตู้ กลายเป็นโต๊ะที่รวมพื้นที่ เตรียมอาหารและพื้นที่รับประทานอาหาร เอาไว้ในชิ้นเดียว ช่วยกระชับประหยัดพื้นที่ ในบ้านให้เหลือพื้นที่ ให้บ้านดูโล่งมากขึ้น รอบ ๆ ครัวมีประตูกระจกสูง จากพื้นเกือบถึงเพดาน ส่งผลให้โซนครัว เต็มไปด้วยแสง เปิดมุมมองออกไปภายนอกเห็นวิว ได้ชัดเจน บ้านมีความโปร่ง เบา แตกต่างจากอาคารเดิมอย่างชัดเจน

ออกแบบบ้านเรียบง่าย

นอกจากการปรับปรุง สิ่งที่ทำมาอยู่เดิมแล้ว ยังมีการเพิ่มห้องพัก บ้านสไตล์ร่วมสมัย บนหลังคาของบ้าน และห้องน้ำชั้นสองสองห้อง ที่คงธีมของการตกแต่ง โทนสีขาว เทา และงานไม้สีอ่อน ๆ ตัดกรอบสายตาสีดำดูน่าใช้งานสบาย ๆ

หิน เป็นวัสดุธรรมชาติ ที่มีลวดลายสวยงาม และมีเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำกัน หินจะมีคุณสมบัติ การรักษาระดับอุณหภูมิภายในอาคาร และมีคุณสมบัติในการกัน ความร้อนด้วย อย่างไรก็ตาม หิน แต่ละชนิดการนำไปใช้งาน และการดูแลแตกต่างกัน บางชนิดพื้นผิวเรียบมัน ดูหรูหรา ราคาแพง อย่าง หินอ่อน แต่บางชนิดผิวหยาบ และมีความเป็นธรรมชาติกว่า ราคาถูกกว่า อย่างเช่น หินกาบ หินทรายแผ่นใหญ่ ที่จะรู้สึกถึงความบ้าน ๆ อบอุ่นผ่อนคลายมากกว่า เจ้าของบ้านสามารถเลือก ใช้ได้ตามความเหมาะสม

ห้องน้ำกว้างใหญ่

10 เทคนิคแต่งอยู่สบาย สไตล์คอทเทจ

1.ตกแต่งด้วยไม้เนื้อแข็ง
ไม้ จัดได้ว่าเป็นวัสดุหลักที่จะขาดไปไม่ได้เลย สำหรับ บ้านสไตล์คอทเทจ เพื่อให้เข้าใกล้กับคำว่าธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม้ที่เลือกมานั้นไม่จำเป็นต้องผ่านการขัดเกลาอย่างดี หรือเรียบเนียนสนิทเหมือนการตกแต่งในแนวอื่น ๆ ทั่วไป อาจจะมีรอยแตกหรือสีของเนื้อไม้ที่ไม่สม่ำเสมอบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะเสน่ห์อย่างหนึ่งของการตกแต่งบ้านสไตล์นี้คือความเป็นธรรมชาติของวัสดุตกแต่งนั่นเอง

2.เติมความเก๋ด้วยบิวท์อิน
เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ อย่างเช่น โต๊ะ หรือตู้ ที่จะนำเข้ามาประดับบ้าน ควรเลือกใช้แบบบิวท์อินจะเหมาะสมและตรงกับคอนเซ็ปต์มากกว่า นอกจากนี้ประโยชน์ที่ได้ก็คุ้มค่ามาก ๆ เพราะไม่ใช่แค่ทำให้บ้านนั้นดูสวยงามสะอาดตาเท่านั้น แต่ยังเป็นการประหยัดพื้นที่ใช้สอยไปในตัวด้วย และถ้าจะให้สวยลงตัวมากขึ้น อย่าลืมใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการบิวท์อินนะ

3.เพิ่มเสน่ห์ด้วยของเก่า
เนื่องจากการตกแต่งในสไตล์นี้มีความเป็นวินเทจแฝงอยู่ เพราะฉะนั้นควรจะนำเฟอร์นิเจอร์เก่า ๆ มาตกแต่งเข้าไปด้วย โดยสังเกตจากลักษณะการดีไซน์ภายนอกของแต่ละชิ้น เช่น เก้าอี้ไม้สาน โต๊ะแกะสลัก หรือหน้าต่างที่แต่งด้วยกระจกสีให้ความรู้สึกย้อนยุคไปอีกแบบ นอกจากจะช่วยรีไซเคิลของเก่ามาใช้ใหม่ได้แล้ว ยังมีเสน่ห์แบบคลาสสิกอีกด้วย

4.สีสร้างความอบอุ่น
สีที่เลือกมาใช้ตกแต่งบ้านสไตล์คอทเทจนั้น ไม่ควรจะเป็นสีสันที่จัดจ้านจนเกินไป เพราะจะทำให้ความเรียบง่ายหายไปทันที สีที่เหมาะสมควรเป็นสีโทนอ่อน เฉดสว่าง อย่างเช่น สีขาว สีครีม เทาอ่อน หรือผสมผสานความสดใสนิด ๆ ได้แก่ สีฟ้า สีชมพู สีเขียว ในเฉดอ่อน ๆ โทนพาสเทลก็ได้ เพื่อเพิ่มความสบายตา และสร้างบรรยากาศที่น่าอยู่มากยิ่งขึ้น phuket property

ตกแต่งบ้านด้วนสีสดใส

5.เพิ่มความสดใสด้วยลายดอก
สำหรับคนที่กลัวว่าบรรยากาศของบ้านนั้นจะราบเรียบเกินไปและทำให้รู้สึกไม่น่าอยู่ อาจจะเพิ่มลวดลายหรือสร้างสีสันด้วยของใช้หรือเครื่องประดับที่มีลายดอกเข้าไป ก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความสดใสของบ้านแล้ว ยังมีส่วนในการปรับเปลี่ยนอารมณ์ของผู้อยู่อาศัยให้รู้สึกสงบ สดชื่น แจ่มใสได้ด้วย

6.สูงโปร่งด้วยผนังเซาะร่อง
สำหรับบ้านเล็กหรือมีพื้นที่น้อยและต้องการจะขยายให้ดูสูงโปร่งมากขึ้น พร้อมกับรักษาคอนเซ็ปต์ไปในเวลาเดียวกัน อาจจะตกแต่งด้วยการเซาะร่องที่ผนัง เพื่อพรางตาให้ดูยาวขึ้น หรืออาจใช้ไม้สีอ่อนมาตกแต่งผนังในแนวตั้ง โดยใช้พื้นที่แค่เพียงครึ่งล่าง ส่วนด้านบนเว้นเอาไว้เป็นพื้นที่ปูนเปลือยเปล่า ๆ หรือทาทับด้วยสีขาว หรือสีอ่อนโทนพาสเทล ก็จะได้ผนังสวย ๆ ที่ช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้นแล้ว

7.ตกแต่งด้วยของหวาน ๆ
ของหวานที่กำลังพูดถึงนี้ไม่ได้หมายถึงการนำกระปุกหรือขวดโหลใส่ของหวานสีสวย ๆ มาประดับเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงของใช้ต่าง ๆ ภายในบ้านด้วย อย่างเช่น ถ้วยชาม เครื่องใช้ ตะกร้า กล่องเก็บของ หรือแม้แต่กระทั่งราวแขวนต่าง ๆ หากเป็นไปได้ควรจะใช้ของสีสันสดใสและเป็นแนวเดียวกัน ได้แก่ ของเก่าแบบที่มีลวดลายในตัว หรือเพ้นท์รูปแบบย้อนยุคก็ได้ รับรองว่าบ้านแนวคอทเทจของคุณ จะดูหวานโรแมนติกสุด ๆ เลยล่ะ

8.ชั้นวางแบบลอยตัว
ชั้นวางของในห้องครัว ห้องนอน หรือส่วนที่เอาไว้สำหรับตั้งของประดับบ้านในห้องนั่งเล่นนั้นควรเลือกตู้หรือชั้นแบบลอยตัว ดีไซน์ภายนอกอาจจะเพิ่มความหวานเข้าไปหน่อยด้วยไม้แกะสลัก และกรอบตู้ที่มีความโค้งงอสวยงาม ส่วนบริเวณหลังควรเป็นลายทางตรงแบบเดียวกับผนัง และหากเป็นไปได้สีที่ใช้ควรจะเข้มกว่าสีหลักสักหน่อย เพื่อให้ดูโดดเด่นและสะดุดมากยิ่งขึ้น

9.หน้าต่างไม้แบบบานเกล็ด
ในส่วนของหน้าต่างไม่ว่าจะอยู่มุมใดของบ้านก็ตามควรจะเลือกแบบที่ใช้หน้าต่างไม้แบบที่มีบานเกล็ดเปิดรับลม โดยจะเป็นในลักษณะการเปิดแบบเลื่อนซ้ายขวา หรือพับเข้าออกเหมือนหน้าต่างทั่วไปก็ได้ แต่ถ้าหากกลัวว่าในระยะยาวจะผุพังไปเสียก่อน อาจจะใช้กันสาดติดไว้ด้านบนของหน้าต่าง หรือติดตั้งบานเลื่อนแบบกระจก ป้องกันแสงและน้ำฝนจากภายนอกด้วย บ้านเดี่ยว

10.เติมลุคทันสมัยด้วยโลหะ
เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย โดยไม่ต้องการเปลี่ยนสไตล์การตกแต่งบ่อย ๆ อาจจะเลือกของใช้ที่เป็นโลหะอย่างเช่น ทองเหลือง ทองแดง เป็นวัสดุหรือมีส่วนประกอบของโลหะเล็ก ๆ น้อย ๆ เติมเข้าไปในบางส่วน อย่างเช่น อ่างล้างหน้า ก๊อกน้ำ โต๊ะ หรือเก้าอี้ ซึ่งส่วนต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ไม่เพียงแต่จะทำให้บ้านสวยงามเท่านั้น แต่ยังสร้างเอกลักษณ์และแอบแฝงความหรูหราไปพร้อมกันด้วย