ห้องนอนสีเขียว
ห้องนอนสีเขียว ห้องนอน (bedroom) เป็นห้องส่วนตัวที่ซึ่งคนโดยมากใช้นอนในยามกลางคืน หรือใช้พักผ่อนในยามกลางวัน มนุษย์ใช้เวลานอนประมาณ 1 ส่วน 3 ของชีวิต และส่วนมากเมื่อมนุษย์จะนอน จะเลือกห้องนอนเป็นที่นอน ห้องนอนจะต้องมีเตียงนอนจึงจะถือว่าเป็นห้องนอนได้ ห้องนอนมีหลากหลายรูปแบบ
โดยมีตั้งแต่แบบเรียบง่ายจนถึงแบบหรูหรา สิ่งของอื่นซึ่งมักอยู่ในห้องนอนได้แก่ ตู้เสื้อผ้า โต๊ะข้างเตียง โต๊ะเครื่องแป้ง เป็นต้น ปัจจุบัน ในประเทศซึ่งมีความพัฒนาสูง ในบ้านที่มีห้องนอนหลายห้องนั้น ห้องนอนมักจะเชื่อมติดกับห้องน้ำด้วย การที่มีห้องนอนเชื่อมติดกับห้องน้ำใน บ้าน นั้น มิได้เริ่มขึ้นก่อนหน้าช่วงกลางถึงช่วงปลายของศตวรรษ
ที่ 20 สำหรับห้องนอนสีเขียว เชื่อว่าสีเขียวเป็นสีโปรดของใครหลาย ๆ คน เนื่องจากมีความอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ซึ่งนี่ก็ทำให้คนส่วนใหญ่ชอบที่จะ ตกแต่งห้องนอนที่ บ้าน ด้วยโทนสีเขียวกัน แต่รู้ไหมคะว่านอกจากเรื่องความชอบ ความสวยงาม และความเป็นธรรมชาติแล้ว สีเขียวยังสามารถส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้สึก
และร่างกายของเราได้ด้วย แถมยังมีอิทธิพลต่อหลักฮวงจุ้ยอีกต่างหาก ฉะนั้นเพื่อให้แต่งห้องนอนสีเขียวได้อย่างมีความสุขมากขึ้น มาดูกันดีกว่าว่าการ ตกแต่งห้องนอนสีเขียวที่ บ้าน ดียังไง ฮวงจุ้ยห้องนอนสีเขียวที่ดีควรเป็นแบบไหน แล้วมีไอเดียตกแต่งห้องนอนสีเขียวอะไรที่น่าสนใจบ้าง home
ห้องนอนสีเขียวดีอย่างไร ?
สีเขียว เป็นสีที่เปรียบเหมือนตัวแทนของธรรมชาติ และยังเป็นสีที่สื่อถึงการเติบโต การเริ่มต้นใหม่ ความหวัง ความโชคดี ความอบอุ่น และความเอื้ออาทร จากผสมผสานระหว่างสีแห่งความผ่อนคลาย (สีฟ้า) และสีแห่งความสดชื่น (สีเหลือง) ซึ่งช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และช่วยผ่อนคลายความเครียดไปได้พร้อม ๆ กัน อีกทั้งยังมีข้อมูลระบุว่าสีเขียวช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมใต้สมอง คลายกล้ามเนื้อ และช่วยขยายเส้นเลือดได้ รวมถึงยังมีความเชื่อว่าสีเขียวสามารถช่วยให้มีลูกได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ฮวงจุ้ยห้องนอนสีเขียว
ด้วยความที่สีเขียวเป็นตัวแทนของธรรมชาติ ตาม หลักฮวงจุ้ย จึงเชื่อกันว่าเราสามารถนำสีเขียวมาตกแต่งห้องต่าง ๆ ในบ้านได้ทุกห้อง โดยในส่วนของห้องนอนก็ถือว่าเป็นการตกแต่งที่ดีมาก ๆ เพราะสีเขียวช่วยให้ทุกอย่างดูสมดุล อบอุ่น และผ่อนคลาย จนทำให้เรานอนหลับอย่างมีความสุขและตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นได้
ซึ่งห้องนอนที่เหมาะจะตกแต่งด้วยสีเขียวมากที่สุดก็คือห้องนอนเด็ก แต่ให้เลือกใช้เป็นสีเขียวอ่อน ที่หมายถึงสื่อถึงการเจริญเติบโต ทว่าอย่างไรก็ตาม เราไม่ควรใช้สีเขียวในการตกแต่งห้องนอนมากเกินไป เพราะจะทำให้ห้องนอนดูหนักและเข้มจนนำมาสู่ความไม่ยืดหยุ่น ความเครียด และความวิตกกังวลได้
สำหรับทิศห้องนอนที่เหมาะกับการตกแต่งด้วยสีเขียว ได้แก่ ทิศตะวันออก ช่วยเสริมเรื่องสุขภาพและครอบครัว, ทิศตะวันออกเฉียงใต้ เสริมโชคลาภความร่ำรวย และทิศใต้ เสริมด้านชื่อเสียงบารมี (ทิศใต้) บ้าน
การจับคู่โทนสีเขียว
สีเขียวกับสีขาว ต้องบอกเลยว่าการนำสีเขียวกับสีขาว มาผสมผสานในการตกแต่งห้องนอนจะช่วยเพิ่มความเก๋ ความมีเสน่ห์ และความน่าสนใจให้กับห้องของคุณได้เป็นอย่างมาก แถมยังสามารถเลือกออกแบบและตกแต่งในโทนสีดังกล่าวได้แบบง่าย ๆ ไม่ต้องมีกฎเกณฑ์อะไรมากเลยด้วย เนื่องจากสีขาวสามารถเข้ากันได้ดีกับทุก ๆ สีอยู่แล้ว
สีเขียวกับสีเงิน การจับคู่สีระหว่างความเป็นธรรมชาติและความทันสมัยเข้าด้วยกัน แถมยังช่วยยกระดับห้องนอนให้ดูทันสมัย หรูหรา และสวยคลาสสิก หากไม่อยากให้น้ำหนักกับสีเงินมากเกินไป ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้สีเทาหรือสีดำเสริมได้
สีเขียวกับสีน้ำตาล ถ้าหากอยากได้ห้องนอนที่ดูน่าอยู่ น่านอน และสงบไปด้วยในตัว ลองนำสีเขียวและสีน้ำตาลสว่างมาผสมผสานกันอย่างละครึ่ง โดยใช้สีใดสีหนึ่งที่ผนัง อีกสีหนึ่งที่เฟอร์นิเจอร์ และอีกสีหนึ่งที่ของตกแต่ง ก็จะช่วยให้ห้องนอนดูอบอุ่น หลับสบาย และผ่อนคลายขึ้นได้
สีเขียวกับสีชมพู ทั้ง 2 สีนี้จะช่วยให้ห้องนอนของเราอยู่ในโทนอบอุ่นน่านอน แต่ก็แอบแฝงไปด้วยความสดชื่น ผ่อนคลาย ดูสว่าง และมีชีวิตชีวาไปได้ในตัวด้วย แถมยังเป็นการจับคู่กับสีชมพูที่ทำให้ไม่ดูหวานเลี่ยนจนเกินไปด้วย
สีเขียวกับสีน้ำเงิน ห้องนอนที่ให้อารมณ์อบอุ่น หนักแน่น มั่นคง แต่ก็สว่าง สดชื่น และน่าอยู่ไปพร้อม ๆ กัน สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้สีเขียวเข้มกับคู่กับสีน้ำเงิน เช่น ตกแต่งภาพรวมด้วยสีขาว เพื่อเป็นแบล็กกราวด์ให้สีเขียวกับสีน้ำเงินดูโดดเด่นยิ่งขึ้น
สีเขียว สีฟ้า และสีน้ำตาลอ่อน เรียกได้ว่าการใช้สีเขียว ฟ้า และน้ำตาลอ่อนในการตกแต่งห้องนอน เป็นอะไรที่ช่วยให้ห้องนอนดูโปร่งและสว่าง โดยเฉพาะเมื่อตกแต่งคู่กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ก็จะทำให้ห้องนอนนั้นมีบรรยากาศที่ดูสบายมากยิ่งขึ้น
สีเขียวสดกับสีเหลือง สำหรับห้องนอนเด็กหรือห้องนอนที่ต้องการเน้นความสดใสเป็นหลัก ขอแนะนำสีเขียวกับสีเหลือง รับรองได้ห้องนอนที่สวยสมวัย ช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ ความคิด ไอเดีย และจินตนาการที่เหมาะกับเด็ก ๆ แน่นอน ยาแนวห้องน้ำ
เครื่องเรือน
เครื่องเรือนและสิ่งของอื่น ๆ ในห้องนอนมีความแตกต่างกันมาก โดยขึ้นอยู่กับความชอบและประเพณีตามสถานที่ อาทิ ห้องนอนใหญ่ (ห้องนอนมาสเตอร์) อาจมีเตียงนอนซึ่งมีขนาดที่แตกต่างกัน (ดับเบิล คิง หรือ ควีน) มีตู้เสื้อผ้าอย่างน้อยหนึ่งตู้ ตู้ที่มีลิ้นชักใส่เสื้อผ้า (เดรสเซอร์) อย่างน้อยหนึ่งตู้ โต๊ะข้างเตียงอย่างน้อยหนึ่งตัว และ พรมบนพื้น ตู้เสื้อผ้าแบบสร้างติดกับผนัง (แบบบิลต์อิน) มักไม่นิยมในยุโรปเท่ากับในอเมริกาเหนือ ฉะนั้น ตู้เสื้อผ้าที่เคลื่อนที่ได้มักเป็นที่นิยมกว่าในยุโรป
ห้องนอนมักบ่งบอกถึงนิสัยของเจ้าของห้อง พร้อมทั้งถึงชนชั้นในสังคมด้วย ซึ่งทำให้การจัดห้องนอนในแต่ละห้องไม่เหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งของบางอย่างที่ห้องนอนส่วนมากมีเหมือนกัน ฟูกส่วนใหญ่มักยกระดับขึ้น โดยไม่วางบนพื้น ในศตวรรษที่ 14 มีฟูกในหลากหลายรูปแบบ คนจากชนชั้นต่ำมักใช้ฟูกยัดฟาง ในศตวรรษที่ 16 ฟูกยัดขนนกเริ่มเป็นที่นิยมชมชอบสำหรับผู้ที่มั่งมี ถ้าบุคคลธรรมดามีเงินซื้อฟูกสำหรับห้องนอนภายในระยะเวลา 7 ปี หลังจากที่แต่งงานแล้วจะถือว่าเป็นผู้ที่มีสถานะที่ดี ในศตวรรษที่ 18 ฝ้ายกับขนแกะเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ฟูกที่ทำจากขดสปริงมิได้เริ่มขึ้นก่อนปี พ.ศ. 2414 ฟูกที่นิยมและมีคนซื้อมากที่สุดคือฟูกอินเนอร์สปริง ฟูกมีทั้งแบบที่นิ่มจนถึงแบบแข็ง ห้องนอนอาจมีเตียงสองชั้นถ้ามีคนมากกว่าหนึ่งคนนอนร่วมห้องกัน
โต๊ะข้างเตียงเป็นที่นิยมเช่นกัน ซึ่งมักนำไว้ใช้วางสิ่งของต่าง ๆ เช่น นาฬิกาปลุกหรือโคมไฟ โทรทัศน์ไว้ในห้องนอนก็เป็นที่นิยมเช่นกัน 43% ของเด็กอายุตั้งแต่ 3 ถึง 4 มักมีโทรทัศน์ในห้อง นอกจากโทรทัศน์แล้ว มีคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นเกม ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับวัยรุ่น และโต๊ะทำงานอีกด้วย ในศตวรรษที่ 20 ตอนปลายจนถึงศตวรรษที่ 21 ตอนต้น ห้องนอนเป็นสถานที่ที่ใช้สนทนามากขึ้น และผู้คนก็เริ่มใช้เวลาในห้องนอนมากขึ้น
สิ่งสำคัญใน “ห้องนอน” ที่ไม่ควรมองข้าม
ห้องนอน คือห้องที่ใช้สำหรับการพักผ่อน และช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว ซึ่งถือเป็นห้องที่สำคัญอีกหนึ่งห้องที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ แต่เพื่อน ๆ หลายคนก็มักจะมองข้ามบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญภายในห้องนอนไป ซึ่งมีผลต่อการพักผ่อน แต่จะเป็นสิ่งใดนั้น เราไปชมพร้อม ๆ กันเลย
โทนสีที่เหมาะกับการพักผ่อน
สำหรับโทนสีภายในห้องนอนนั้น แนะนำให้เลือกใช้เป็นโทนสีที่ให้ความสบายตา อย่าง โทนสีฟ้า สีเบจ หรือโทนสีอ่อนๆ เป็นต้น เพราะจะให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และ เหมาะกับการพักผ่อนได้ดี หากเลือกใช้เป็นโทนสีที่ฉูดฉาดหรือโทนสีร้อน อาจทำให้รู้สึกเครียด และส่งผลต่อการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอได้ โดยเพื่อนๆ สามารถดูเทคนิคการเลือกโทนสีให้เหมาะกับห้องต่าง ๆ
เพราะหากเลือกที่นอนที่ไม่ดีนั้น จะส่งผลทั้งในเรื่องของการพักผ่อน และอาการปวดเมื่อยต่างๆ ที่เกิดจากที่นอน ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถดูวิธีการเลือกที่นอนเพิ่มเติ่มได้ที่นี่เลยค่ะ เลือกที่นอนอย่างไร…? ให้หลับสบาย ไม่ปวดเมื่อย
การถ่ายเทอากาศที่ดี
การเปิดรับแสงจากภายนอก เพื่อให้มีการถ่ายเทอากาศที่ดีนั้น ถือเป็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดโปร่ง สบายตา รวมไปถึงยังช่วยลดกลิ่นอับภายในห้องได้อีกด้วย ไม่เพียงแต่แสงธรรมชาติเท่านั้นที่สำคัญ แต่แสงไฟจากหลอดไฟก็ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน ซึ่งควรเลือกใช้ให้มีแสงสว่างที่เพียงพอและเหมาะกับการใช้งานในบริเวณจุดต่าง ๆ ภายในห้อง เพื่อช่วยถนอมสายตาในการมองเห็น อาทิ บริเวณหัวเตียง โต๊ะทำงาน เป็นต้น
ขั้นวางของที่พอดีกับห้องและการใช้งานอย่าปล่อยให้ภายในห้องรกเป็นอันขาด
เพราะนั้นจะทำให้ชีวิตของเพื่อน ๆ ยุ่ง วุ่นวายอย่างแน่นอน เนื่องจากต้องคอยหาของที่เก็บไม่เป็นที่ และคอยเดินหลบสิ่งของต่าง ๆ ที่ไม่เป็นระเบียบ อีกทั้งยังทำให้ภายในห้องดูแคบกว่าเดิมอีกด้วย ฉะนั้นควรมีชั้นเก็บของ ที่เพียงพอต่อสิ่งของเครื่องใช้ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และง่ายต่อการใช้งาน แต่หากเป็นห้องที่มีขนาดเล็ก อาจเลือกใช้เป็นชั้นเก็บของแบบซ่อน อาทิ ลิ้นชักใต้เตียง เป็นต้น เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่การใช้งานภายในห้อง
มุมนั่งเล่นภายในห้อง
การเหลือพื้นที่ว่างจะช่วยทำให้ภายในห้องไม่รู้สึกอึดอัด ซึ่งเพื่อนๆ อาจทำเป็นมุมนั่งเล่นหรือทำงานเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวและทำให้บรรยากาศภายในห้องดูน่าอยู่มากยิ่งขึ้น แต่หากเป็นห้องขนาดเล็ก Infinity Design ผ้าม่าน แนะนำให้ทำเป็นมินิบาร์เล็ก ๆ หรือโต๊ะที่สามารถพับเก็บได้ เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ภายในห้องนั้นเอง
สีสันและความสดชื่น
เพิ่มความผ่อนคลายในการพักผ่อน ด้วยของตกแต่งน่ารัก ๆ หรือต้นไม้ ดอกไม้เล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยทำให้ภายในห้องดูมีชิวิตชีวาและไม่น่าเบื่อ