วิธีปลูกต้นไม้พุ่มขนาดกลาง

วิธีปลูกต้นไม้พุ่มขนาดกลาง

วิธีปลูกต้นไม้พุ่มขนาดกลาง เรื่องสำคัญลำดับแรกๆของการจัดและตกแต่งสวนก็คือการเลือกพรรณไม้ที่จะปลูก เพราะเหตุว่าต้นไม้แต่ละประเภทก็มีลักษณะและก็คุณลักษณะที่ต่างกันออกไป ทั้งความปรารถนาแล้วก็การสนใจดูแลของผู้ปลูกแต่ละคนก็ยังแตกต่างด้วย โดยถ้าเกิดคนใดที่กำลังมองหาประเภทต้นไม้จัดสวนที่ดูแลง่าย ใบไม่ค่อยตก ให้ร่มเงา Phuket Villas แล้วก็สามารถทนต่อแดดจัดๆของประเทศไทยได้ วันนี้กระปุกดอทคอมได้เก็บรวบรวมเนื้อหาสาระเกี่ยวกับต้นไม้ดีๆกลุ่มนี้

สำหรับผู่ที่กำลังมองหาต้นไม้ปลูกใบบริเวรบ้านหรือทำสวน ไม่ว่าจะเป็นพืชดอก ไม้ประดับ พืชดอกมีกลิ่นหอมยวนใจ ไม้พุ่มบังแดดให้ร่มเงา หรือจะเป็นไม้ที่ปลูกไว้เป็นแถวล้อมรั้ว หรือหาพืชพันธุ์ไม้ไว้ตกแต่งสวนแต่ว่ายังเลือกไม่ได้ว่าจะใช้ชนิดใหนดี วันนี้มีพันธ์ไม้ที่นิยมนำมาปลูกกัน ทั้งยังพืชที่มีความเป็นสิริมงคลต่างๆมาชี้แนะ หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อผู่ที่กำลังหาพืชพันธุ์ไม้งามที่เหมาะสมกับบ้านของคุณ เพื่อสร้างบรรยากาศให้สนิทสนมธรรมชาติเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยจ้ะ Phuket Villas

ต้นมะฮอกกานี

ต้นมะฮอกกานี หรือ มะฮอกกานีใบใหญ่ (Brazilian Mahogany) มีชื่อด้านวิทยาศาสตร์ว่า Swietenia macrophylla King. เป็นไม้ใหญ่ขนาดกึ่งกลางถึงใหญ่ สูงโดยประมาณ 15-25 เมตร ลำต้นมีสีน้ำตาลหรือสีเทาอมดำ ใบเป็นใบประกอบแบบขนปลายคู่ สีเขียว มีลักษณะเป็นเงา ปลายใบเรียว โคนใบเบี้ยว ขอบของใบเป็นคลื่น ส่วนดอกออกเป็นช่อมีสีเหลืองอมเขียวและก็กลิ่นหอมสดชื่น ซึ่งทั่วๆไปแล้วจะออกในตอนพฤษภาคม-เดือนมิถุนายน

ถ้าเกิดเอ่ยถึงต้นไม้ที่มีชื่อว่า “มะฮอกกานี” มั่นใจว่าผู้คนจำนวนมากก็อาจจะสงสัยเนื่องจากว่าไม่เคยทราบไหมเคยรู้จักต้นไม้จำพวกนี้มาก่อน แต่ว่าถ้าหากทุกคนได้รู้ถึงข้อมูล รวมทั้งรู้เรื่องลักษณะโดยปกติของต้นมะฮอกกานี ผู้คนจำนวนมากก็คงจะร้องอ้อ ขึ้นมาในทันทีเนื่องจากว่าบางทีก็อาจจะเคยได้เห็นต้นไม้ประเภทนี้มาบ้างแล้ว ตามสองข้างถนน ริมฝั่งถนนหนทาง หรือปลูกไว้ตามบ้านที่พัก โดยในวันนี้พวกเราจะมาให้ข้อมูลหรือสาระที่สำคัญเกี่ยวกับต้นมะฮอกกานี จะได้พึงพอใจเพียงใดตามไปดูกันเลย

รูปแบบของใบมะฮอกกานีเป็นใบประกอบแบบขน ซึ่งออกเวียนเรียงสลับกัน โดยมีใบย่อยราวๆ 3-4 คู่ ใบจะออกตรงกันข้ามกันหรือเยื้องกันนิดหน่อย ใบของมะฮอกกานีจะมีลักษณะเป็นทรงรี มีความกว้างราว 5-6 ซม.และก็ยาว 10-15 ซม. โคนใบมนเบี้ยว ส่วนปลายใบเรียวแหลม ขอบของใบเรียบ แผ่นใบจะมีสีเขียวเหมือนแผ่นหนัง โดยมีก้านใบยาวราว 0.3 – 0.5 ซม. โครงการภูวิลล่า ภูเก็ต

ดอกของมะฮอกกานี จะมีสีเหลืองหรือเหลืองปนสีเขียว ดอกมีขนาดเล็กแล้วก็มีกลิ่นหอมหวนอ่อนๆซึ่งจะมีดอกตามซอกใบหรือรอบๆปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงดอกมีสีเขียวอ่อนราว 5 กลีบ รวมทั้งกลีบ 5 กลีบ เมื่อดอกบานสุดกำลังดอกจะมีความกว้างราว 0.5-1.0 ซม. เกสรตัวผู้มี 10 อัน ก้านเกสรเชื่อมชิดกันเหมือนรูปแจกัน มีสีแดง ส่วนก้านเกสรตัวเมียสั้นและก็ยอดเกสรตัวเมียจะแผ่แบนคล้ายกับร่ม

สำหรับในการปลูก ต้นมะฮอกกานีสามารถปลูกได้อีกทั้งแบบผู้เดียวแล้วก็แบบแนวยาว โดยจะเจริญวัยได้ดิบได้ดีในดินทุกภาวะ ส่วนการดูแลก็ง่ายๆ ด้วยเหตุว่าต้นไม้ประเภทนี้โตเร็ว อยากน้ำเพียงแค่ปานกลาง ใบไม่ค่อยตก ไม่ค่อยมีโรคหรือแมลงก่อกวน รวมทั้งยังถูกใจแสงอาทิตย์ ก็เลยทนแดดจ้าๆได้ตลอดวันเลยด้วย การปลูก ขั้นแรกให้ตระเตรียมดินที่สมควร ควรจะปักหลักตามแนวปลูกรวมทั้งขุดหลุมที่มีขนาด 30 * 30 ซม. โดยหลุมจะต้องมีความลึกไม่น้อยกว่า 30 ซม. แล้วก็เสนอแนะให้รองตูดหลุมด้วยปุ๋ยมูลสัตว์

สิ่งจำเป็นจำต้องใช้ต้นกล้าที่แก่ราวๆ 5-6 เดือน โดยมีขนาดความสูงโดยประมาณ 30- 50 เซนว่ากล่าวเตร ก่อนปลูกให้กระทำฉีกถุงออกก่อน เมื่อนำลงหลุมแล้วให้กลบดินให้แน่น ควรจะปลูกลงในตอนหน้าฝนหรือตอนกึ่งกลางหน้าฝน เพื่อกล้ามีขณะในการตั้งตัวแล้วก็มีความแข็งแรงหรือได้โอกาสรอดชีวิตสูงไปจนกระทั่งหน้าแล้ง บ้านสองชั้น ดินที่สมควรสำหรับการปลูกจะต้องเป็นดินร่วนซุยหรือดินปนทรายผสมดินเหนียวบางส่วนซึ่งสามารถระบายน้ำเจริญ หรือน้ำไม่ท่วมขัง อุณหภูมิ

มะฮอกกานีเป็นพืชพันธุ์ไม้ที่ถูกใจอากาศร้อนอุณหภูมิโดยเฉลี่ยเป็น 10-36 องศาเซลเซียส ส่วนปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ย 1,542 – 5,080 มม.ต่อปี หากแม้ต้นมะฮอกกานีจะสามารถทนต่อลักษณะอากาศเจริญ แต่ว่าก็ไม่อาจจะทนต่อลมพายุหรือทนต่อการเช็ดกน้ำหลากขังนานๆได้น่าฟังอาจจะก่อให้มีการหยุดการเติบโต จนกระทั่งอาจจะเป็นผลให้มีการยืนต้นตายได้ท้ายที่สุด ส่วนภาวะตำแหน่งที่ตั้ง มะฮอกกานีสามารถเติบโตได้ตั้งแต่พื้นที่ระดับที่ค่อนข้างต่ำจนกระทั่ง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล home

ต้นประดู่

ต้นประดู่ (Burma Padauk) มีชื่อทางด้านวิทยาศาสตร์ว่า Pterocarpus indicus Willd เป็นไม้ยืนต้นขนาดกึ่งกลางถึงใหญ่ สูงได้มากถึง 25 เมตร ลำต้นเป็นสีเทาหรือสีดำ ใบเป็นใบประกอบแบบขน สีเขียว เรียงสลับ โคนใบมน ปลายใบแหลม ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง มีขนาดเล็ก เป็นสีเหลืองอ่อน โดยต้นประดู่เป็นพืชที่ปรารถนาแดดจัด 

ดังนั้นก็เลยทนไฟของแดดประเทศไทยได้แบบสบายๆทั้งยังยังแข็งแรงต่อภาวะธรรมชาติก้าวหน้า ใบไม่ค่อยตก รวมทั้งดูแลง่ายดาย เพียงแค่ใช้ดินซึ่งร่วนซุยสำหรับในการปลูก รดน้ำทุกๆ5-7 วัน พร้อมให้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยเคมี ปีละ 3-5 ครั้งก็เพียงพอ

เมื่อเอ่ยถึง ต้นประดู่ ใครๆคงจะต่างจะต้องเคยทราบได้ชินหูกับเนื้อเพลงประจำทัพเรือ ที่มีเนื้อร้องเอ๋ยถึง”ดอกประดู่” จนกระทั่งทำให้เป็นที่รู้เรื่องโดยธรรมดาว่า ต้นประดู่นั้นเปรียบเทียบดังผู้แทนของเหล่าทหารเรือ ด้วยมีผู้เปรียบเทียบเปลยความที่ชีวิตของชาวประมงว่าจะต้องดำเนินไปเหมือนกับเดียวกับดอกประดู่ โน่นเป็น ดอกของมันจะเบาๆบานและก็โรยพร้อมอีกทั้งต้น เพื่อปลูกฝังความรู้สึกนึกคิดของนายทหารเรือทุกคนรวมทั้งทุกระดับให้มีความรัก ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน “ประดู่” ก็เลยเปลี่ยนเป็นเครื่องหมายของนาวิกโยธินไทย โดยตลอด

โดยธรรมดามิได้มีสิ่งที่ไม่อนุญาตหรือความจำกัดในเรื่องด้านของการปลูกต้นประดู่ ถ้าแม้กระนั้น ควรที่จะทำการเลือกพื้นที่ที่มี รอบๆขนาดกว้างใหญ่เหมาะสมกับไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เพราะเหตุว่าประดู่โตเร็ว พุ่มไม้ใบทึบ และก็แตกกิ่งก้านสาขาแผ่กว้าง รวมทั้งแม้อยากได้ปลูกเพื่ออาศัยร่มเงาแก่เฒ่าบ้านควรจะปลูกทางทิศตะวันตก เพื่อยามแดดตอนบ่ายส่องลงมายังตัวบ้านก็จะมีกิ่งไม้ร่มเงาของต้นประดู่รอคุ้มครองปกป้องความร้อนให้ได้อย่างดีเยี่ยม บ้าน

ต้นประยงค์

ต้นประยงค์ หรือ Chinese Rice flower มีชื่อด้านวิทยาศาสตร์ว่า Aglaia odorata Lour. เป็นพืชดอกไม้ประดับที่มีแหล่งเกิดอยู่ในเอเซียอาคเนย์ โดยมีลักษณะเป็นไม้พุ่มยืนต้นขนาดเล็ก กิ่งดก ใบดก มีดอกสีเหลืองเป็นช่อสั้นๆรูปร่างกลมเล็ก ไม่บาน ลักษณะก็จะคล้ายไข่ปลา มีกลิ่นหอมสดชื่นแรงรวมทั้งหอมไกล ส่วนผลเป็นรูปไข่ ผิวเรียบรวมทั้งวาว 

สำหรับเพื่อการปลูกต้นประยงค์ สามารถทำเป็นทั้งยังการเพาะเม็ด ตอนกิ่ง และก็ปักชำ โดยควรที่จะใช้เป็นดินร่วนซุยที่ระบายน้ำก้าวหน้าสำหรับในการปลูก รดน้ำพอสมควร รวมทั้งปลูกเอาไว้ภายในพื้นที่ที่โดนแดดจ้าๆอ๋อ ถ้าหากว่าต้องการที่จะให้ต้นเป็นพุ่มไม้งาม ควรจะทำตัดแต่งกิ่งเสมอๆทุกปีด้วย

ประยงค์ เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลำต้นแตกกิ่งมากมาย รวมทั้งมีใบดกทำให้เป็นทรงพุ่มไม้แน่นหนา ทรงพุ่มไม้ออกจะเป็นวงกลม ลำต้นสูงโดยประมาณ 3-6 เมตร แล้วก็บางทีอาจเจอสูง บ้านเดี่ยว ได้มากกว่านี้ ลำต้นมีกิ่งแตกออกที่ระดับที่ถือว่าต่ำโดยประมาณ 1 เมตร ซึ่งเป็นส่วนของแกนลำต้น ที่เหลือเป็นกิ่งหลัก ผิวลำต้นไม่ค่อยเรียบ มักเป็นเกลียวคลื่น เปลือกลำต้นมีสีเทา ส่วนแก่นไม้ของต้น แล้วก็กิ่ง เป็นไม้เนื้ออ่อน เปราะหักง่าย ไม่นิยมใช้ในการก่อสร้างหรือการแปรูปต่างๆแต่ว่าใช้เป็นเชื้อเพลิงได้

ดอกประยงค์ แทงออกเป็นกลุ่มช่อรอบๆปลายกิ่ง แต่ว่าปลายละกิ่งจะมีก้านช่อดอก 1-10 ช่อ แต่ละช่อยาวโดยประมาณ 5-10 ซม. และก็มีดอกราว 10-20 ดอก ดอกมีก้านดอกสั้นๆสีเหลืองอมเขียว ปลายสุดเป็นตัวดอกที่มีลักษณะทรงกลม สีเหลืองสด เหมือนไข่ปลา มีกลีบสีเหลืองโค้งหุ้มห่อรังไข่ รวมทั้งเชื่อมชิดกันเป็นพู ปริมาณ 5 กลีบ โดยตรงกึ่งกลางเป็นส่วนของเกสรตัวผู้ 5 อัน และก็รังไข่ ส่วนขนาดดอกจะแบ่งออกตามประเภท

ผลประยงค์ มีลักษณะรูปไข่ ขนาดผลกว้าง 0.5-0.8 ซม. ยาว 1-1.5 ซม. เปลือกผลเรียบ แล้วก็เป็นเงา ผลดิบมีสีเหลือง รวมทั้งค่อยกลายเป็นสีส้ม ส้มแดง เมื่อสุกจัดจะเป็นสีแดงเข้ม และก็เสื่อมเปลี่ยนเป็นสีดำ ต่อจากเปลือกผลจะเป็นเม็ดที่มีลักษณะรูปไข่ เปลือกเม็ดมีสีน้ำตาล ดังนี้ 1 ผล จะมีเม็ด 1-2 เม็ด

อ่านเพิ่มเติม ปลูกต้นไม้พุ่มขนาดกลางให้สวย