ประตูบ้านใหญ่ ให้เหมาะสมกับบ้าน
ประตูบ้านใหญ่ ประตูบ้านนอกจากจะใช้เป็นทางเข้า-ออก และช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวแล้ว ประตูบ้านยังสามารถเสริมสไตล์การแต่งบ้านได้อีกต่างหาก เพราะทุกวันนี้ประตูมีหลากหลายชนิดมาก แถมยังพัฒนาให้สวยงาม ทันสมัย และมีลูกเล่นสอดคล้องตามความต้องการ ของแต่ละคนเพิ่มขึ้นด้วย
ประตูบ้าน เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ สำคัญขาดไม่ได้ เพราะนอกจากจะ เป็นทางผ่านเปิดเข้า-ออก เป็นตัวกลางแบ่งพื้นที่ใช้งานออกจากกันให้เป็นสัดส่วนแล้ว ในบางกรณียังทำหน้าที่เป็นช่องแสง ช่องลม เปิดรับแสง ระบายอากาศ อีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น รูปแบบของประตูหน้าบ้านเพียง 1 บานยังบ่งบอกแนวคิด และไลฟ์สไตล์ของเจ้าของ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน ดังนั้นการเลือกประตู จึงต้องให้ความใส่ใจ ใช้แบบที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ วัสดุ รูปร่าง สี และขนาด ให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ในบ้านให้มากที่สุด
โดยทั่วไปประตูจะมีขนาด 0.90 x 2.00 เมตร ซึ่งจะใช้ในส่วน ประตูหน้าบ้าน ประตูห้องนอน หรือห้องครัว แต่ถ้าขนาดเล็กลงมา เช่น 0.80 x 2.00 เมตร ส่วนใหญ่จะใช้ในส่วน ของประตูห้องน้ำ หรือห้องเก็บของ ทั้งนี้ก็ยังมีรูปแบบประตูอีกหลากหลายให้เลือกใช้ แล้วแต่วัตถุประสงค์ ความชอบ และความเหมาะสม หนึ่งในดีไซน์ประตู ที่กำลังเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ คือ ประตู Over size ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกของบ้านเดิม ๆ เปลี่ยนไป ช่วยให้บ้านโปร่งขึ้น และโอ่โถงขึ้น เนื้อหานี้เราจะรวบรวม แบบบ้านที่ติดตั้งประตูบานใหญ่ ที่จะเพิ่มเสน่ห์ให้บ้าน

แบบประตู Over size เพิ่มขนาดเปลี่ยนความรู้สึกให้บ้าน
ประตู Oversize คือประตูที่ถูกออกแบบ ให้มีความสูง หรือ ความกว้างมากกว่าประตูปกติขนาด เช่น ความสูง 3 เมตร หรือสูงได้ถึง 5 เมตร เป็นต้น ส่วนความกว้าง สามารถเพิ่มได้มากกว่า 2 เมตร จะติดตั้งบานเป็นบานผลัก บานเกล็ด หรือบานสไลด์เลื่อนเปิดออก กว้างได้เป็นพิเศษ ก็แล้วแต่ความเหมาะสม ประตูที่เปิดได้กว้าง และสูงนี้ จะมีผลต่อความรู้สึกที่ทำให้ผู้อาศัยภายใน ห้องรับรู้ได้ถึงความโล่ง โปร่ง สบาย ไม่อึดอัดจากห้องสี่เหลี่ยมแบบธรรมดา ในบ้านเล็กและแคบการใช้ประตูค่อนข้างใหญ่ จะลดความอึดอัดของบ้าน และยังสามารถรับอากาศเข้า มาไหลเวียน พร้อม ๆ กับชมวิวทิวทัศน์จากภายใน ห้องได้กว้างขวางอีกด้วย ประตูหน้าบ้านสูงพิเศษ
แม้ความกว้างจะไม่มาก หรือ ทำจากวัสดุธรรมดา แต่ก็สร้างความรู้สึกที่ พิเศษให้กับบ้านได้ สัดส่วนของบ้านกับประตูต้องมีความสัมพันธ์กัน ในบ้านที่ลักษณะอาคารสูงกว่าปกติ หรือบ้านแบบ Double Volume การใช้ประตูขนาดความสูงปกติธรรมดา จะทำให้บ้านดูขาดความสมดุล
ประตูบานหมุน (Pivot Door) ขนาด oversize เป็นประตูที่ติดตั้งจุดหมุนเอาไว้กลางบาน หรือ ข้างใดข้างหนึ่ง หากติดตั้งบานเดียวเล็ก ๆ จะเหลือช่องประตูที่สามารถใช้งานเข้า-ออกได้แค่ครึ่งเดียว จึงนิยมติดเรียงต่อกันหลาย ๆ บาน แต่ถ้าเป็นบานขนาด oversize ถึงติดบานเดียวก็ดูโดดเด่น เข้า-ออกง่ายไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตามด้วย ลักษณะที่ต้องผลักเพื่อให้บานหมุน ซึ่งจะกินพื้นที่พอสมควร จึงต้องเผื่อพื้นที่โดยรอบเอาไว้ด้วย บ้านจัดสรร
ประตูบานผลัก หรือ ประตูบานเปิดขนาดใหญ่พิเศษ จะมีลักษณะเดียวกัน กับเช่นเดียวกับประตูบานหมุน คือจะกินเนื้อที่บริเวณที่ประตูเปิดออก (หรือเปิดเข้า) ไป จึงต้องเผื่อเนื้อที่สำหรับ การเปิดประตูในเอาไว้ด้วย

ประตู ovesize ในบ้านแถบตะวันตกยุคใหม่ ๆ
นิยมใช้กระจกบานใหญ่มาก ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยเบลอขอบเขต บ้านกับพื้นที่กลางแจ้ง ซึ่งมักจะใช้ในบริเวณที่ไม่ต้องการความเป็นส่วนตัว กระจกที่ใช้จะมีความหนาขึ้น กว่ากระจกทั่วไป เช่น ความหนา 8 มม. 10 มม. หรือหนายิ่งกว่านั้น บ้านบางหลังที่งบประมาณมาก และต้องการความแข็งแรงปลอดภัย เป็นพิเศษก็อาจจะใช้กระจกนิรภัย ซึ่งการออกแบบกรอบวงกบก็ต้องผ่าน การคำนวณมาอย่างดี ให้สามารถรับน้ำหนักประตูได้ ประตูกระจกขนาดใหญ่แบบนี้ จะทำให้มุมมองของบ้านดูดี และโดดเด่นให้ กับบ้านแบบไม่ต้องทำอะไรมาก ขายวิลล่าภูเก็ต
ประตูขนาดใหญ่บานคู่ ไม่จำเป็นต้องขนาดเท่ากัน บางครั้งการออกนอกกรอบ ประตูเล็กข้างหนึ่ง ใหญ่ข้างหนึ่ง ก็ทำให้บ้านดูแปลกตาอย่างน่าค้นหา ประตูหน้าบ้านบานสลได์ขนาดใหญ่ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบประตู ที่ทำให้บ้านเปิดวิสัยทัศน์ได้กว้าง รับแสงธรรมชาติ และลมเข้ามาไหลเวียน ภายในบ้านได้ดี เพียงแค่เลื่อนประตูก็ เปิดได้กว้างพร้อมรับความสดชื่นทันทีโดยไม่ต้องต้อง กังวลเรื่องการเว้นพื้นที่ โดยรอบเหมือนประตูบานผลัก และบานหมุน

ฮวงจุ้ยประตูหน้าบ้าน แบบไหนกันที่ว่าดี
1.เริ่มต้นจากรั้ว : รั้วที่ดีควรเป็นรั้วโปร่ง ไม่ปิดทึบ วิธีการตรวจเช็คง่าย ๆ ว่ารั้วที่บ้านของเราโปร่งหรือทึบ ให้ลองคำนวณด้วยสายตาดูว่า มีส่วนปิดทึบเกิน 50% หรือไม่ หากเกินนับว่าเป็นรั้วทึบ หากไม่เกินเป็นรั้วโปร่ง รั้วบ้านที่ดีจึงต้องเป็นรั้วที่ลมสามารถพัดพาพลังงานเข้ามาสู่ตัวบ้านได้ง่ายนั่นเองครับ แต่ทั้งนี้กรณีที่รั้วทึบแต่ต่ำดั่งเช่นในภาพประกอบด้านบนนี้ นับว่าเป็นรั้วโปร่ง ถูกหลักฮวงจุ้ย
2.หน้าบ้านโล่ง กว้าง : พื้นที่หน้าประตูบ้านนับเป็นส่วนพักรวมพลังงาน ควรเคลียร์พื้นที่ให้ดูโล่งอยู่เสมอ ไม่ควรนำสิ่งของมาวางเกะกะ โดยให้มองพื้นที่ทั้งหมดเริ่มต้นจากรั้วมาสู่ประตูหลักของบ้าน ไม่ควรมีต้นไม้มาบดหรือวัตถุใดมาบังหน้าประตู หากต้องการปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงา ควรเลือกปลูกเยื้องประตูหลัก เพื่อให้เกิดช่องทางพลังงานเข้าได้อย่างสะดวก
3.ตำแหน่งต้องห้าม : ตำแหน่งประตูหน้าบ้าน นับเป็นอีกสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งกับการอยู่อาศัย ตำแหน่งดีย่อมนำพลังงานด้านบวกเข้าสู่ภายในบ้าน ตำแหน่งไม่ดีพลังบวกอาจเข้าได้ยากหรืออาจมีพลังงานด้านลบเข้ามาทดแทน ซึ่งจะมีตำแหน่งต้องห้าม ดังนี้
- ไม่ควรจัดวางในตำแหน่งที่ตรงกันข้ามกับประตูเพื่อนบ้านที่อยู่หน้าบ้านของเรา เนื่องจากมักส่งผลให้เกิดการปะทะกันเกิดขึ้น ผู้อยู่อาศัยรู้สึกถึงความไม่เป็นส่วนตัว ไม่สงบ กรณีที่เลี่ยงไม่ได้หรือออกแบบผิดไว้ตั้งแต่ต้น อาจทำการต่อเติมเฉลียงหน้าบ้าน เพื่อให้เป็นส่วนบดบังต่อกัน เฉลียงยังเป็นส่วนกักเก็บพลังงานได้ดีอีกด้วยครับ แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องดูดีไซน์และพื้นที่ของบ้านเป็นหลัก เพราะบ้านบางหลังอาจไม่เหมาะกับการต่อเติมในแบบดังกล่าว
- ไม่ควรให้ตำแหน่งของประตูตรงกับเสาไฟฟ้า เนื่องด้วยเสาไฟจัดเป็นพลังงานด้านลบ ซึ่งส่งผลไม่ดีกับผู้อยู่อาศัย
- ไม่ควรให้ตำแหน่งของประตูบ้าน ตรงกับประตูรั้วหน้าบ้าน เนื่องด้วยจะเกิดพลังงานในลักษณะพุ่งเข้าสู่ตัวบ้าน ซึ่งนับเป็นพลังงานที่แรงเกินพอดี
4.บานประตูบ้านใหญ่ กว้าง ฮวงจุ้ยดี : มาถึงส่วนประตูบ้าน บ้านที่ดีควรต้องมีประตูที่ใหญ่กว้าง สูง โปร่ง ให้ความรู้สึกโอ่อ่า เพื่อให้พลังงานบวกเข้าสู่ตัวบ้านได้ดีนั่นเองครับ สำหรับบางบ้านอาจสงสัยว่า ประตูหลักอยู่ส่วนใด ให้ผู้อ่านสังเกตุบ้านของตนเองว่าใช้ประตูไหนมากที่สุดให้นับประตูนั้นเป็นประตูหลัก โดยไม่สำคัญว่าประตูจะอยู่ด้านหน้าหรือด้านข้างของบ้าน ประตูไหนใช้งานจริงเป็นประจำ ประตูนั้นนับเป็นประตูหลักของบ้าน บ้านแฝด

5.เปิดประตูใช้งานอยู่เสมอ : แม้จะทำตามทั้ง 4 ข้อที่ผ่านมาแล้ว หากประตูไม่ได้เปิดให้อากาศถ่ายเทก็อาจไม่ต่างอะไรกับผนังที่ปิดทึบ จึงต้องเป็นประตูที่เปิดใช้งาน เปิดให้อากาศถ่ายเทบ่อยๆ แต่ทั้งนี้ประเทศไทยยุงค่อนข้างชุก ผู้อ่านอาจเลือกติดมุ้งลวดอีกชั้น เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้พร้อมกับป้องกันยุงไปในตัว
6.พื้นที่หลังประตู : ฮวงจุ้ยประตูบ้านที่ดี เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้ว พื้นที่ภายในบ้านหลังประตูหลักของบ้าน ควรเป็นพื้นที่โปร่งโล่งเช่นกัน ไม่ควรมีสิ่งของใดมาขวางกั้นเส้นทางเดิน เพราะจะเป็นตัวปิดกั้นพลังงาน นอกจากนี้แล้วการนำสิ่งของมาวางในตำแหน่งประตู ยังส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้โดยง่ายอีกด้วย เพราะเป็นเส้นทางเดินซึ่งบางครั้งผู้อยู่อาศัยอาจไม่ทันระมัดระวัง phuket property
กรณีใช้งานยามค่ำคืน เส้นทางเดินควรติดตั้งไฟทางเดินหรือไฟตำแหน่งประตูไว้ด้วย ปัจจุบันมีไฟเซ็นเซอร์ส่องทางจำหน่าย ผู้อ่านอาจซื้อมาติดตั้งเพิ่มเติมบนผนังทางเดิน ระบบเซ็นเซอร์จะตรวจจับความเคลื่อนไหว เปิดไฟให้เราโดยอัตโนมัติเมื่อเดินผ่าน และปิดให้อัตโนมัติเมื่อไม่มีสิ่งเคลื่อนไหว ช่วยให้สะดวกในยามค่ำคืน
7.ประตูหลักห้ามตรงกับประตูหลังบ้าน : เมื่อมองจากหน้าประตูบ้าน เข้าสู่ภายในบ้าน ตำแหน่งของประตูหน้าและหลัง ไม่ควรให้มองเห็นตรงกัน เนื่องด้วยพลังงานบวกที่เข้ามาจะออกไปโดยทันที แต่หากบ้านใครออกแบบมาผิด ตรงส่วนนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการหาตู้มาวางกั้น หรือนำผ้าม่านมาปิดกั้นไว้อีกชั้น เป็นการลดทอนการรั่วไหลของพลังงานได้ดี
อ่านบทความที่หน้าสนใจ