![บ้านไม้ สองชั้น](https://phuketvilla.net/wp-content/uploads/2021/04/unnamed-4.jpg)
บ้านไม้ สองชั้น
บ้านไม้ สองชั้น หากเราต้องการเป็นเจ้าของบ้านสักหลัง นับว่าไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่จะคิดเพียงชั่ววูบแล้วตัดสินใจได้ เพราะมีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อน โดยเฉพาะบ้านหลังใหญ่ที่มีดีเทลค่อนข้างยิบย่อย บ้าน ซึ่งการที่จะได้มาซึ่งบ้านที่ตอบโจทย์เรามากที่สุดนั้น จะต้องได้ทั้งช่างฝีมือดี และสถาปนิกที่เป็นงานด้วย วันนี้ ในบ้าน ก็จะพาไปชมการสร้างบ้านของคุณ
Agent Molder เป็นบ้านสองชั้น ที่มีการตกแต่งอย่างละเอียดและพิถีพิถัน บ้าน กลายมาเป็นบ้านสุดหรูที่ให้ครอบครัวขนาดใหญ่สามารถอาศัยอยู่ได้สบายๆ งานนี้เจ้าตัวจะมาแจกแจงรายละเอียดที่สำคัญต่างๆ ให้เพื่อนๆ ชาวเว็บได้ชมกันครับ ตามไปดูกันเลย สวัสดีครับเพื่อนๆชาว Pantip ผมเคยมา Post รีวิวงานสร้างบ้านของผมเอง
ตั้งแต่สมัยบ้านเพิ่งเริ่มสร้างเมื่อ 3 ปีก่อน (นานมากกก) บ้าน
ตอนนั้นรีวิวไปได้สัก 6 เดือน บ้านก็ไปไม่ถึงไหน เลยเลิกรีวิว…เวลาผ่านมาเกือบสามปี บ้านผมก็เสร็จสักที แม้จะยังไม่ 100% แต่ก็เป็นรูปร่างเข้าอยู่ได้แล้ว เลยจะมารีวิวรวบยอดอีกครั้งครับ ไม่พูดพล่ามทำเพลง ไปดูรูปกันเลยครับ
เปิดตัวด้วยภาพบ้านที่เสร็จแล้วของผมก่อนเลยละกันครับ เรียกน้ำย่อย เรียกแขก ภาพหน้าตรง 2 นิ้วติดบัตร ที่ดิน 529 ตร.ว ตัวบ้านขนาด 590 ตร.ม. แบ่งเป็นส่วนตัวบ้านมีหลังคาคลุม 450 ตร.ม. โซนเมดและห้องโฮมเธียเตอร์ หลังคาแสลป 140 ตร.ม.
จุดเริ่มต้นของการสร้างบ้าน
ย้อนไป 5 ปีก่อน เริ่มจากอยากมีบ้านสักหลังเป็นของตัวเองหลังจากแต่งงาน ได้ตระเวนหาหมู่บ้านสร้างเสร็จในระแวกที่ทำงาน ก็ไม่เจอที่ถูกใจ ทั้งถูกใจเราและเมีย(ข้อหลังนี้สำคัญมาก) ตั้งงบไว้ที่ 10 ลบ.++ ไปเจอแบบบ้านที่ชอบ แต่ก็แพงและเนื้อที่น้อยมาก มีโครงการณ์นึงของ Casa ชื่อ Casa Legend แบบบ้านถูกใจ ราคาราวๆ 13-14 ลบ.
แต่ตัวโครงการณ์เขาปลูกบ้านชิดกันมากเกิน บ้านแต่ละหลัง ยืนฉี่ก็แทบชะโงกเห็นกันได้เลย เนื้อที่รอบบ้านก็แคบ เปิดประตูรั้ว เดินสามก้าวถึงตัวบ้านเลย แฟนก็ไม่ชอบ เพราะอยากได้ที่กว้างๆ ทุ่งลาเวนเดอร์ไว้หมุนตัวเล่น(ประชดเมีย) ก็เลยติดไว้ก่อน ต่อมาก็เลยคุยกับแฟนว่าจะเอาไงกันดี พอดีได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนและพี่ที่ทำงาน
ก็บอกว่าเลยตัวอำเภอไปหน่อย จะมีหมู่บ้านนึงขายที่ดินจัดสรร ให้เราสร้างบ้านเอาเอง ก็เริ่มสนใจ แต่เขาขายเป็นไร่ เลยคิดว่าต้องแพงแหงมๆ แต่ก็ลองขับรถเข้าไปดู โอ้วแม่จ้าวว นี่มันหมู่บ้านเมืองไทย คือย่านเบเวอรี่ฮิลที่อเมริกา บ้านแต่ละหลังนี่ใหญ่โต โอ่อ่ายังกะวัง เนื้อที่ 1 ไร่มันช่างใหญ่จริงๆ มีสนามกอล์ฟ เห็นวิวภูเขา สวดยวดมากๆ
หมู่บ้านนี้ขายที่ดินจัดสรร ไม่มีบ้าน ให้ปลูกเอง (คล้ายปัยญาตรงรามอินทราอ่ะ) ขายเป็นแปลง แปลงละอย่างต่ำก็ 1 ไร่ มีสนามกอล์ฟ คลับเฮาร์หรู คอนโดอีกสองหลัง ในหมู่บ้านมีแต่เจ้าของธุรกิจ และหมอทั้งนั้น ตอนแรกเลยคิดว่าคงไม่มีปัญญาแน่ๆ มาดูเอาบุญ แต่ขับๆไปเจอป้ายประกาศขายอยู่ วาละ 15,000
ก็ตกไร่ละหกล้าน ก็เริ่ม เฮ้ย ไม่แพงมากนิ ไร่หกล้าน สร้างบ้านอีก 7-8 ล้าน ก็รวมๆ 13-14 ล้าน ซึ่งพอๆ กับบ้านคาซ่าเลย แถมได้ที่ตั้ง 1 ไร่ ก็เริ่มสนใจแล้ว กลับมานั่งดูกระปุกออมสิน คงไม่พอซื้อสด แต่น่าจะกู้ได้ ก็เลยเริ่มไล่หาแปลงสวยๆในหมู่บ้านซะเลย จนสุดท้ายก็หาได้ในราคาที่ถูกมากๆเมื่อเทียบกับแปลงอื่นๆที่ขายกัน ที่มันถูกเพราะเป็นที่ดินติดคดี เจ้าของเดิมเขามีภาระหนี้สิน ทำให้ต้องเอาที่ไปจำนองสามแปลง
ดังนั้น ถ้าจะขายต้องขายสามแปลงรวด คำนวนราคาสามแปลงถ้าจะสู้ไม่ไหว ตอนแรกจะถอดใจ แต่ก็ได้เพื่อนที่ช่วยซื้อให้แปลงนึง(เพื่อนจะปลูกบ้านเหมือนกัน) และอีกแปลงคุณพ่อผมเองท่านก็ช่วยซื้อไว้ให้(แต่ซื้อในชื่อของพ่อนะครับ) สรุปก็ได้ที่ดินแล้ว เย้ ก็ทำการเคลียริ่งรังวัดกันไป เมื่อมีที่แล้วก็ต้องมีบ้านละ ในตอนแรกผมกะใช้บริการ บ.รับสร้างบ้าน แต่หาแบบตามงบที่เราตั้งไว้ ไม่เจอแบบที่ถูกใจเลย
โดยแบบที่ผม(และภรรยา) ชอบจะต้องมี ห้องหลังคากระจก(แบบคาซา), ห้องสมุด, มี Fitness, ห้อง Home theatre, ห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งไม่มีที่ไหนเขามีกันหรอกครับ 555+ (ความต้องการสูง แต่งบต่ำ) เคยเข้าไปคุยๆก็เพิ่มโน่น ลดนี่ได้ไม่มาก เพราะพวก บ.สร้างบ้าน แบบบ้านเขา Fix มาแล้วเรื่อง Cost ในการก่อสร้าง ถ้าเราไปเปลี่ยนเรามีแต่จะต้องเพิ่มตัง
![บ้านไม้ สองชั้น](https://phuketvilla.net/wp-content/uploads/2021/04/unnamed-5.jpg)
พอดีผมนึกได้ว่าเพื่อนสนิทสมัยมัธยมผมเป็นสาถาปนิก เมียเขาเป็นอินทีเรีย เลยจะลองปรึกษาสักหน่อย คุยไปมา มันก็บอกว่า งั้นกรูทำให้เมิงเอง โอ้วว เพื่อนเลิฟ สรุปคือให้เพื่อนผมออกแบบบ้านควบงานอินทีเรียไปเลย ไม่ได้ทำฟรีนะครับ ร่างสัญญา จ่ายเงินจริงๆจังเลย ดีครับ แบบนี้ชอบ home
ถึงเป็นเพื่อนกันแต่เรื่องการทำงานก็ต้องมืออาชีพ จะมาทำปากเปล่าไม่ได้ แต่ราคาเพื่อนก็ลดให้เยอะอยู่ครับ โดยเบื้องต้นผมได้ร่างแบบบ้านที่ผมชอบเอง ด้วยฝีมือวาดรูประดับอนุบาล โดยแบบที่ชอบผมก็หาจากในเนตครับ ตามพวก บ.รับสร้างบ้านเนี่ยแหล่ะ และก็มีไปตระเวนดูบ้านตามโครงการณ์ต่างๆ
โดยผมต้องการบ้านขนาด 400-500 ตร.ม. ซึ่งใน กทม.บ้านระดับนี้ราคาปาไป 20-50 ล้านทั้งนั้นเลยครับ แต่ผมก็หน้าด้านไปขอเขาดูบ้านครับ และเก็บๆเอาสิ่งที่เราชอบมาออกแบบ พอเพื่อนเห็นแบบบ้าน มันก็กร๊ากเลย บอกว่า เมิงไปทำงานของเมิงเหอะ ตรงนี้กรูจัดการเอง ผมก็เลยปล่อยให้มันจัดการ โดยการที่ผมบอกความต้องการทุกอย่างลงไป
เวลาคุยกับสถาปนิกนี่เขาซักละเอียดมากนะครับ ตื่นมาทำอะไร กลับมาทำอะไรก่อนหลัง ชอบอยู่ส่วนไหนของบ้านมากกว่า โน่น นี่ นั่น เยอะมากๆ แต่ข้อดีคือได้บ้านที่ตอบสนองความต้องการของเรา ไม่ใช่เราต้องไปปรับตัวเข้ากับบ้านเหมือนซื้อบ้านโครงการณ์สร้างเสร็จ ข้อเสียคือ ตังค์ครับ 555+ การออกแบบก็ต้องมีค่าใช้จ่าย… หลังจากนั้นไม่นานแบบบ้านผมก็เสร็จ จริงๆมีการแก้กัน 2 – 3 รอบ จนลงตัวครับ
ทำแปลน 3D ออกมาให้เห็น ให้ file skp ผมมาหมุนเล่น ซูม เปิดหลังคาได้ด้วย ช่วงนั้นบ้าเห่อมาก เล่นแปลนบ้านทุกวัน ใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ทั้งแบบบ้าน แบบก่อสร้างก็เสร็จสมบูรณ์ พร้อมเอาไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างได้แล้ว ระหว่างยื่นขออนุญาตก็ถึงขั้นตอนที่สำคัญและปวดหัวสุดๆคือการหา ผรม.ครับ ผมสิง Pantip อยู่นาน
รู้เลยปัญหาอันดับหนึ่งของการสร้างบ้านคือ ผรม. ยิ่งกว่าเมียอีก เกินครึ่งทั้งใน pantip ทั้งเพื่อนๆ คนรู้จักมีปัญหากับ ผรม.ทั้งนั้น ผมได้ ผรม.ที่เป็น candidate 4 ท่านครับ จากคนรู้จัก จากที่เพื่อนสถาปนิกแนะนำ และจากเนต และใช้วิธีประมูลราคาก่อสร้าง เอาแบบบ้านไป ตี BOQ มาแล้วมาดูราคา + โหงวเฮ้งตอนไปคุย บ้าน
เลือกอยู่เกือบสองเดือน สุดท้ายก็ได้เจ้าที่คิดว่าดีที่สุดมาครับ ราคาแพงสุดในทุกเจ้าเลย แต่จากการพูดคุยต่างๆ และ BOQ ที่ให้มา ก็เลยเลือกครับ(แต่ ณ ตอนนี้ที่บ้านเสร็จแล้ว ก็พบว่าคิดผิด)