มาปลูกต้นไม้ในกระถางกัน

มาปลูกต้นไม้ในกระถางกัน
มาปลูกต้นไม้ในกระถางกัน

มาปลูกต้นไม้ในกระถางกัน

มาปลูกต้นไม้ในกระถางกัน สำหรับคนที่ชอบปลูกต้นไม้ ก็คงอยากจะให้ บ้าน ที่อยู่อาศัยเต็มไปด้วยต้นไม้ มุมไหนยังมีพื้นที่อยู่ก็อยากจะปลูก ซึ่งบริเวณหน้าทางเข้าบ้านจะให้ปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ก็คงไม่เหมาะ บ้านจะกลายเป็นป่าไปเสียก่อน ลองดูไม้ประดับที่ปลูกในกระถาง ขนาดกำลังน่ารัก มีให้เลือกทั้งแบบไม้ดอกและไม้ใบ ถ้าได้วางประดับหน้าบ้านไหน รับรองเลยว่า บ้านนั้นต้องสวยงามน่ามอง และดูสบายตาแน่ ๆ วันนี้ “น้องตี ” จะมาบอกวิธีการปลูกต้นไม้ในกระถาง พร้อมกับรวบรวมพรรณไม้ที่แข็งแรง ทนทาน ปลูกในกระถางมาฝากกันครับมาดูกันเลย ภูเก็ต วิลล่า

แนะนำไม้ประดับปลูกในกระถาง

นอกจากจะนำดอกไม้มาปักแจกัน แล้วนำมาวางประดับตกแต่งบ้าน การปลูกต้นไม้ต่าง ๆ เอาไว้ในบ้านก็ถือเป็นวิธีที่เข้าท่าอยู่ไม่น้อย เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามแล้ว ต้นไม้ยังสามารถเพิ่มความสดชื่น ความมีชีวิตชีวา และฟอกอากาศในบ้านให้บริสุทธิ์ได้อีกต่างหาก โดยถ้าใครที่ยังสับสนไม่รู้ว่า ไม้ดอกไม้ประดับใดสามารถปลูกไว้ในบ้านได้มีอะไรบ้าง หรือกำลังลังเลว่าจะปลูกต้นไม้อะไรดี ตี้ได้นำเหล่าไม้ดอกและไม้ประดับ พร้อมวิธีปลูกและการดูแลต้นไม้ที่สามารถปลูกได้ทั่วทุกมุมในบ้านมาฝากครับ Phuket Villas

กุหลาบหิน (Kalanchoe)

กุหลาบหิน (Kalanchoe) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Kalanchoe blossfeldiana เป็นพืชที่มีอายุยืนและดอกสวย ผู้คนส่วนใหญ่จึงนิยมปลูกเป็นไม้กระถางประดับบ้าน บ้านหรู โดยกุหลาบหินมีลักษณะเป็นไม้พุ่มอวบน้ำ สูงไม่เกิน 1 ฟุต มีใบเป็นใบเดี่ยว รูปไข่ สีเขียว ปลายมน ขอบหยัก ส่วนดอกเป็นดอกเล็ก ๆ ออกเป็นช่อ ชูสูงเหนือใบ มีด้วยกันหลากหลายสีสัน เช่น สีส้ม สีชมพู และสีเหลือง โดยจะออกดอกปีละ 1 ครั้ง ในช่วงหน้าหนาว

ซึ่งด้วยความที่ดอกกุหลาบหินมีสีสันสวย สดใส และสะดุดตา พืชชนิดนี้จึงเหมาะที่จะปลูกเพื่อสร้างบรรยากาศดีได้ทุกมุมบ้าน บ้านเดี่ยว โดยในเรื่องของการดูแลก็ไม่ยุ่งยาก เพราะกุหลาบหินนั้นเลี้ยงง่าย ปลูกได้ในดินทุกชนิดที่ระบายน้ำได้ดี แต่จะชอบดินร่วนปนทรายเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องน้ำก็ให้รดแค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ส่วนปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักก็ค่อยละลายน้ำแล้วใส่ในช่วงที่กำลังออกดอกก็พอ ทว่าอย่างไรก็ตาม กุหลาบหินค่อนข้างจะชอบแสงแดดมาก ๆ ฉะนั้นจึงควรวางเอาไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดสาดส่องเข้ามาถึงด้วย

ว่านหางจระเข้ (Aloe)

ว่านหางจระเข้ (Aloe) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Aloe barbadensis เป็นพืชที่นิยมปลูกกันมากเพราะเป็นสมุนไพร วุ้นจากใบนิยมนำมาทาแผลไหม้ รักษาสิวฝ้า รักษารอยแผลเป็น รักษาริดสีดวงทวาร ทั้งยังมีฤทธิ์ระบาย โดยใบจะมีลักษณะหนาและยาว อวบน้ำ ปลายแหลม ขอบใบเป็นหนาม สามารถนำไปปลูกใส่กระถางเล็ก ๆ ประดับในบ้าน บ้านเดี่ยว ได้ ซึ่งถ้าวางเอาไว้ในห้องน้ำก็จะช่วยเสริมให้ห้องน้ำดูดีขึ้นได้มากเลยทีเดียว

ส่วนสำหรับการดูแลก็ไม่ยาก เพียงแค่วางกระบองเพชรในพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึง และใช้ดินทรายที่แห้งและไม่ชื้นมากในการปลูก ส่วนน้ำก็ค่อยให้ตอนที่ดินแห้ง คือประมาณ 1 ครั้งต่อ 2 อาทิตย์ โดยให้ค่อย ๆ รดน้ำลงไปช้า ๆ และรอจนกว่าจะมีน้ำซึมออกมาจากรูกระถางแล้วจึงหยุด และถ้าหากอยากเร่งให้ว่านหางจระเข้โตเร็วขึ้น ก็ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-30-15 ที่ผสมเข้ากับน้ำเปล่าในอัตรา 1:5 ส่วน ประมาณ 2 ครั้งต่อเดือน โดยควรให้ในช่วงที่ต้นกำลังเจริญเติบโต ตอนไหนก็ได้ ยกเว้นหน้าหนาว

สัปปะรดสี (Bromeliad)

สัปปะรดสี ภาษาอังกฤษคือ Bromeliad หรือ Urn Plant มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Aechmea fasciata เป็นไม้ประดับที่มีใบเป็นกลีบแข็ง แผ่ออกรอบข้าง ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่จะมีลวดลายและสีสันที่สวยงามอยู่ด้านบนของใบ ส่วนดอกของสับปะรดสีจะมีลักษณะเป็นช่อดอกยาวสูง สีสันสดใส ทว่ามีอายุค่อนข้างสั้น

โดยสับปะรดสีเป็นพืชที่ทนความแห้งแล้งได้ค่อนข้างดี จึงไม่จำเป็นต้องดูแลมาก เพียงแค่ใช้ดินร่วนปนทราย ที่ผสมกับปุ๋ย ใบไม้ และทรายหยาบ ในอัตรา 1:1:1:1 ส่วน แล้ววางเอาไว้ในพื้นที่ที่มีแสงแดดส่อง แต่ต้องไม่จัดจนเกินไป โดยให้รดน้ำประมาณสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง พร้อมให้ปุ๋ยเกล็ดละลายช้า สูตรเสมอเป็นประจำสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว   

นมังกร (Snake Plant)

นมังกร หรือที่เรียกกันว่า Snake Plant มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sansevieria เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว นิยมปลูกไว้เป็นไม้ประดับ ลำต้นมีลักษณะเป็นหัวอยู่ใต้ดิน มีใบตั้งตรง เรียวยาว ปลายแหลมคล้ายหอก มีจุดสีด่างบนใบ และมีขอบใบเป็นเส้นสีเหลือง ส่วนดอกมีกลิ่นหอม สีขาวอมเขียวอ่อน โดยผู้คนนิยมปลูกใส่กระถางแล้วใช้ประดับใน บ้าน แต่ก็ยังสามารถปลูกไว้ภายนอกบ้านได้ด้วย ซึ่งจริง ๆ ต้นลิ้นมังกรสามารถวางไว้ได้ทั่วทุกมุมบ้าน แต่ถ้าเป็นไปได้ควรวางไว้ริมหน้าต่างเพื่อให้โดนแดดอย่างเหมาะสมจะดีที่สุด โดยหากบ้านไหนไม่สามารถวางไว้ริมหน้าต่างได้ ก็ให้วางไว้ใกล้แสงไฟที่สว่าง ๆ ก็พอ

ส่วนวิธีการดูแลก็ไม่ยาก เพราะลิ้นมังกรเป็นพืชที่ทนทาน แค่รดน้ำอุณหภูมิห้องเมื่อดินแห้ง โดยให้รดรอบ ๆ ต้น ไม่ต้องรดตรงกลางใบ แล้วรอจนกว่าจะมีน้ำไหลออกมา พร้อมให้ปุ๋ยสูตร 20-20-20 ผสมน้ำปีละ 1 ครั้ง ในช่วงต้นปีก็พอ อ้อ…แล้วถ้าใบของลิ้นมังกรมีฝุ่นเกาะก็อย่าลืมนำผ้าเปียกหมาด ๆ มาเช็ดเพื่อให้ใบคงความสวยงามอยู่ตลอดด้วย ภูเก็ต วิลล่า

ไทรย้อยใบแหลม (Golden Fig, Weeping Fig)

ไทรย้อยใบแหลม (Golden Fig, Weeping Fig) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ficus Benjamina ถือเป็นพืชอีกหนึ่งชนิดที่เหมาะจะปลูกและวางไว้ในทุกมุมบ้าน บ้านหรู เนื่องจากโตง่าย แข็งแรง ทนทาน สวยงาม ปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศได้ดี แถมยังช่วยดูดสารพิษในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย โดยไทรย้อยใบแหลมจะมีลักษณะเป็นพุ่ม ใบรี ปลายแหลม มีสีเขียวสวย

ส่วนการปลูกและดูแล ไทรย้อยใบแหลมเป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินทุกชนิด ไม่ต้องการน้ำมาก โดยให้รดเพียงแค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ส่วนปุ๋ยใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกโรยที่โคนต้นหรือผสมน้ำแล้วนำไปรดเป็นประจำทุกเดือน และอย่าลืมวางไทรย้อยใบแหลมให้โดนแสงแดดบ้าง แต่ยังคงรักษาระดับความชื้นในดินเอาไว้อยู่เสมอ

มาปลูกต้นไม้ในกระถางกัน

วิธีการปลูกต้นไม้ในกระถาง

มีขั้นตอนง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากเลยครับ แค่ลองทำตามดังนี้

  1. เลือกพรรณไม้ที่ชอบ
    ต้นไม้ประดับที่ปลูกในกระถาง มีทั้งไม้ดอกและไม้ใบ ก็เลือกเอาตามใจชอบได้เลยครับ ใครที่ชอบสีสันสดใสก็เลือกปลูกต้นไม้ดอก และใครที่ชอบความเขียวชอุ่มชุ่มชื้น ดูแล้วสบายใจ ก็เลือกปลูกไม้ใบ รวมถึงดูความเหมาะสมของต้นไม้ที่เราชอบว่าสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อม สภาพอากาศ ความชื้น ในจุดที่เราจะนำต้นไม้ไปวางหรือไม่ ภูเก็ตวิลล่า
  2. เลือกกระถางต้นไม้ที่มีขนาดและน้ำหนักที่เหมาะสม
    ควรเลือกกระถางให้เหมาะกับขนาดและพันธุ์ของต้นไม้ที่จะปลูก และควรคำนึงถึงการเคลื่อนย้ายกระถางด้วย ถ้าเป็นคนที่ไม่ชอบเปลี่ยนตำแหน่งต้นไม้ก็เลือกใช้กระถางทำจากปูนหรือกระถางเซรามิก วางประจำที่ไปเลย แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบจัดสวน ย้ายที่เปลี่ยนตำแหน่งต้นไม้บ่อย ๆ ก็ควรเลือกกระถางที่มีน้ำหนักเบา ทำจากโฟมหรือไฟเบอร์กลาส ภูเก็ต วิลล่า
  3. เลือกดินที่เหมาะกับต้นไม้ที่จะปลูก
    ต้นไม้แต่ละชนิด แต่ละสายพันธุ์ ชอบดินแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วต้นไม้ในกระถางมักจะชอบดินร่วนปนทราย หรือดินที่มีการระบายน้ำได้ดี ซึ่งอาจจะผสมปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ขุยมะพร้าว แกลบ ลงไปในดินเพื่อเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นต่อต้นไม้ได้
  4. รดน้ำต้นไม้ที่ถูกวิธี
    ควรดูและศึกษาต้นไม้แต่ละชนิดที่จะนำมาปลูกว่าชอบหรือไม่ชอบน้ำ ต้องการน้ำมาก-น้อยเพียงใด เพราะต้นไม้บางต้นก็ชอบน้ำ สามารถรดได้เป็นประจำเช้า-เย็น แต่บางชนิดก็ไม่ชอบน้ำ ควรรดประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือรดเฉพาะเมื่อหน้าดินเริ่มแห้ง
  5. พื้นที่ในการวางกระถางต้นไม้
    ทั่วไปแล้ว ควรวางกระถางต้นไม้ไว้ในบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีแสงแดดส่องถึงรำไร แต่ต้นไม้บางประเภทก็ชอบแดดจัด จึงสามารถวางกระถางไว้ในที่ที่โดนแดดจัด ๆ ก็ได้ และควรเลือกวางเรียงกระถางให้ต้นไม้ถูกแสงแดดอย่างทั่วถึงกันด้วย
  6. ตัดแต่งใบหรือพุ่มให้เป็นทรงอยู่เสมอ
    สำหรับต้นไม้ทรงพุ่ม ควรหมั่นตัดใบแต่งพุ่ม เพื่อให้ต้นไม้แตกใบใหม่ และทำให้พุ่มแน่น ดูเป็นทรงมากขึ้นด้วย
    ไม้ดอกสำหรับปลูกในกระถางหน้าบ้าน โครงการภูวิลล่า ภูเก็ต

อ่านเพิ่มเติม พันธุ์ไม้