พันธุ์ไม้ “ไม้มีค่า” 58 ชนิด
พันธุ์ไม้ “ไม้มีค่า” 58 ชนิด “คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม” เป็นผู้จุดประกายความคิดให้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ออกกฎกระทรวงเพื่อเพิ่มทรัพย์สินอื่นมาเป็นหลักประกัน กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงเปิดเวทีประชาพิจารณ์ รับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม สหกรณ์สวนป่าภาคเอกชน กรมป่าไม้ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ สมาคมธนาคารไทยและธนาคารรัฐ เช่น ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน SME Bank ปรากฏว่า ทุกหน่วยงานต่างสนับสนุนแนวคิดเรื่องการใช้ไม้มีค่าเป็นสินทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ เพราะนโยบายนี้สร้างผลดีต่อประเทศชาติ รวมทั้งภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โครงการภูวิลล่า ภูเก็ต
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงได้นำไม้ยืนต้นที่มีมูลค่าสูงมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ โดยการออกเป็นกฎกระทรวง ตามมาตรา 8 (6) แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 เพื่อเปิดทางให้ใช้ไม้ยืนต้นที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ เช่น ต้นไม้ตามบัญชีท้ายกฎหมายว่าด้วยสวนป่าสามารถนำมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) ได้รับความสะดวกและมีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนในการประกอบธุรกิจมากยิ่งขึ้นแล้ว
58 พันธุ์ไม้ “ไม้มีค่า”
สำหรับไม้ยืนต้นที่กำหนดตามบัญชีท้ายกฎหมายว่าด้วยสวนป่า จำนวน 58 ชนิด ประกอบด้วย
- ไม้สัก
- พะยูง
- ชิงชัน
- กระซิก
- กระพี้เขาควาย
- สาธร
- แดง
- ประดู่ป่า
- ประดู่บ้าน
- มะค่าโมง
- มะค่าแต้
- เคี่ยม
- เคี่ยมคะนอง
- เต็ง
- รัง
- พะยอม
- ตะเคียนทอง
- ตะเคียนหิน
- ตะเคียนชันตาแมว
- ไม้สกุลยาง (ไม่รวมยางพารา)
- สะเดา
- สะเดาเทียม
- ตะกู
- ยมหิน
- ยมหอม
- นางพญาเสือโคร่ง
- นนทรี
- สัตบรรณ
- ตีนเป็ดทะเล
- พฤกษ์
- ปีบ
- ตะแบกนา
- เสลา
- อินทนิลน้ำ
- ตะแบกเลือด
- นากบุด
- ไม้สกุลจำปี (จำปีสิรินธร จำปีป่า จำปีถิ่นไทย จำปีดง จำปีแขก จำปีเพชร )
- แคนา
- กัลปพฤกษ์
- ราชพฤกษ์
- สุพรรณิการ์
- เหลืองปรีดียาธร
- มะหาด
- มะขามป้อม
- หว้า
- จามจุรี
- พลับพลา
- กันเกรา
- กะทังใบใหญ่
- หลุมพอ
- กฤษณา
- ไม้หอม
- เทพทาโร
- ฝาง
- ไผ่ทุกชนิด
- ไม้สกุลมะม่วง
- ไม้สกุลทุเรียน
- มะขาม
การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ครั้ง ที่ 5/2561 ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 HOME IN PHUKET คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทรัพย์สินอื่นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. … ตามข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดทางให้ประชาชนสามารถนำไม้ยืนต้น เช่น ไผ่ มะม่วง ทุเรียน มะขาม ไม้ยาง มะขามป้อม ไม้สัก ไม้พะยูง ฯลฯ ที่ขึ้นทะเบียนปลูกกับหน่วยงานภาครัฐ นำมาใช้ค้ำประกันธุรกิจได้ในอนาคต
ปัจจุบัน กระทรวงพาณิชย์ กำลังเร่งส่งร่างกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว ไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาและนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีอีกครั้งในเร็วๆ นี้ หากใครอยากนำไม้ยืนต้นมาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ ขอให้อดใจรออีกสักหน่อย Phuket Villas
ตัวอย่างลักษณะเด่นของพันธุ์ไม้แต่ละชนิด
ต้นกระซิก
ชื่ออื่น ๆ ซิก สรี้ ครี้ ประดู่ชิงชัน ดู่สะแตน เก็ดแดง อีเม็ง พยุงแกลบ กระซิบ หมากพลูตั๊กแตน
“กระซิก” เป็นต้นไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดสตูล ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ คือ ตอนต้นเล็กๆ ถูกจัดเป็นไม้รอเลื้อย ลำต้นมีหนามเล็กๆ เปลือกสีเทา แต่พอโตขึ้นมีกิ่งก้านแข็งแรง สูงใหญ่ มีดอกเล็กๆ กลิ่นหอมออกปลายกิ่ง ง่ามใบใกล้ยอด ดอกออกประมาณเดือนมีนาคมถึงสิงหาคม มีผลเป็นฝักแบนๆ มีเมล็ดขยายพันธุ์ได้ ชอบอยู่ป่าโปร่งริมห้วย ริมลำธาร ใกล้ทะเลทางภาคใต้ บ้าน
ต้นกระพี้เขาควาย
ชื่ออื่นกระพี้ (ภาคกลาง) กำพี้ (เพชรบูรณ์) จักจั่น เวียด (เงี้ยว เชียงใหม่) อีเม็งใบมน (อุดรธานี) เก็ดดำ อีเฒ่า เก็ดเขาควาย (ภาคเหนือ) แดงดง (เลย)
เป็นไม้ยืนต้นที่มีขนาดปานกลางจนถึงใหญ่โดยทั่วไปความสูงอยู่ที่ 10-25 เมตร พบขึ้นทั่วไปในป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรังซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 1,000 เมตร โครงการภูวิลล่า ภูเก็ต แต่ในปัจจุบันไม้ชนิดนี้ไม่ค่อยมีให้เห็นทั่วๆไป เพราะการกระจายพันธุ์ค่อนข้างน้อยโดยส่วนใหญ่จะพบที่ภาคเหนือและอีสานตอนบนหรือแถบตะวันตกติดพม่าเท่านั้น
ต้นกันเกรา
ต้นกันเกรามีชื่อเรียกอื่นว่า มันปลา ตำเสา มะซูไม้ต้น ภาคกลางเรียก กันเกรา ภาคใต้เรียก ตำแสง หรือตำเสา ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เรียก มันปลา เนื่องจาก ลักษณะของดอก เหมือนกับไขมันของปลา
กันเกราเป็นต้นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ขึ้นโดยทั่วไปในทุกภาคของประเทศไทย ในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนจะออกดอกเป็น ช่อสีเหลือง มีกลิ่นหอมขจรขจาย มักพบต้นกันเกราเติบโตทั่วไปในป่าเบญจพรรณชื้น และตามที่ต่ำ ที่ชื้นแฉะใกล้น้ำ ทั่วทุกภาคของประเทศไทยออกดอก เมษายน – มิถุนายน เป็นผล มิถุนายน – กรกฎาคม ขยายพันธุ์โดยเมล็ด
การใช้ประโยชน์ เนื้อไม้สีเหลืองอ่อน เสี้ยนตรง เนื้อละเอียด เหนียว แข็ง ทนทาน ใช้ในการก่อสร้าง นิยมใช้ทำเสาเรือน แก่นมีรสฝาดใช้เข้ายาบำรุงธาตุ แน่นหน้าอก เปลือกใช้บำรุงโลหิต ผิวหนังพุพอง ปลูกเป็นไม้ประดับ ลักษณะลำต้นที่สวยงามทั้งลวดลายของเปลือกและเนื้อไม้ เหมาะแก่การนำไปใช้ประโยชน์ทำเครื่องเรือนและเครื่องใช้ต่าง ๆ มีน้ำมันหอมระเหยที่เปลือก
ไม้แดง
มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า แดง (ทั่วไป), จะลาน จาลาน ตะกร้อม สะกรอม (จันทบุรี), เพ้ย (ตาก), ปราน (สุรินทร์), ไปร (ศรีษะเกษ), กร้อม (นครราชสีมา), ผ้าน (เชียงใหม่), คว้าย (เชียงใหม่, กาญจนบุรี), ไคว เพร่ (แพร่, แม่ฮ่องสอน), เพ้ย (กะเหรี่ยง-ตาก) เป็นต้น
ไม้แดง เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นตรง สีเขียวอมแดง เปลือกเรียบ สีเทาอมแดง ตกสะเก็ดออกเป็นแผ่นกลมบางๆ รอบลำต้นเมื่อสับเปลือกทิ้งไว้จะได้ชันสีแดง ยอดอ่อนมีขนสีเหลืองปกคลุม ใบ เป็นช่อแบบขนนกสองชั้น ปลายใบแหลมมน ดอกสีเหลือง ขนาดเล็กขึ้นอัดกันแน่นบนช่อกลมเดี่ยวๆ หรือแตกกิ่งก้าน หรือขึ้นเป็นกลุ่มๆ ดอกจะออกราวเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม แล้วเป็นฝัก ฝักจะแก่ประมาณเดือนตุลาคม – ธันวาคม ผลเป็นฝักแบน รูปขอบขนานเรียวและโค้งงอมีส่วนปลาย ฝักแข็งยาวประมาณ 7 – 10 เซนติเมตร สีน้ำตาลอมเทา
นอกจากนี้ ยังนิยมนำไม้แดงไปใช้ในการทำปาร์เก้ได้รับความนิยมรองจากไม้สักปาร์เก้ ใช้ทำเสา รอดตง ขื่อ ฝา ทำกระดานข้างเรือ เรือใบ เรือสำเภา คราด ครก สาก กระเดื่อง ส่วนต่างๆ ของเกวียน ทำสะพาน หมอนรางรถไฟ ด้ามเครื่องมือต่างๆ แกะสลักก็ได้ ประโยชน์ของไม้แดงทางสมุนไพร เช่น ใช้ผสมยาแก้ทางโลหิต และโรคกษัย แก้พิษ โลหิต และอาการปวดอักเสบของฝีต่างๆ เปลือกมีรสฝาดใช้สมานธาตุ ดอกผสมยาแก้ไข บ้าน บำรุงหัวใจ เมล็ดรับประทานได้
ไม้ชิงชัน
ชื่ออื่นๆ ดูสะแตน เก็ดแดง อีเม็ง พะยูงแกลบ กะซิบ หมากพลูตั๊กแตน ประดู่ชิงชัน
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ประเภทไม้ผลัดใบที่อยู่ในวงศ์ Leguminosae ชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์เดียวกับไม้ประดู่ ต้นชิงชันขยายพันธุ์โดยเมล็ด แพร่กระจายพันธุ์ตามป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณทั่วไปยกเว้นเฉพาะทางภาคใต้เท่านั้นที่ไม่สามารถแพร่กระจายพันธุ์ได้ ไม้ชิงชันเป็นไม้กลางแจ้ง สามารถขึ้นได้ดีในดินทุกประเภท ต้องการน้ำเพียงปานกลาง ไม้ชิงชัน แข็งและเหนียว เนื้อไม้สวยงามมาก จึงนิยมใช้เป็นเครื่องเรือน เครื่องดนตรีต่าง และมีประโยชน์ด้านสมุนไพร HOME IN PHUKET
ต้นสาธร
ชื่ออื่นๆ กระเจาะ ขะเจาะ ขะเจ๊าะ (เหนือ) กระพี้เขาควาย (ประจวบฯ) กระเซาะ สาธร (กลาง) ขะแมบ (เชียงใหม่)
ต้นสาธรประเภทพืชดอก เป็นไม้ต้นกึ่งผลัดใบขนาดกลาง สูง 10-20 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกลมแผ่กว้าง ดอกช่อแยกแขนง มีลักษณะเป็นรูปดอกถั่ว สีขาวหรือเหลืองอ่อน ออกดอกเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ฝักแก่มีสีน้ำตาลแบนรูปหอกกลับหรือรูปขอบขนาน ขนาดของฝัก 2×4-10 เซนติเมตร เมล็ดสีน้ำตาลแดง HOME IN PHUKET กลมแบน ฝักแก่ประมาณเดือนตุลาคมถึงธันวาคม
เปลือกนอกสีเทาอ่อนหรือสีเทา ค่อนข้างเรียบหรือแตกเป็นเกล็ดเล็ก เปลือกในสีเหลืองอ่อน พบในป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณ ในภาคกลาง เหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ต้นสาธรเป็นไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดนครราชสีมา การใช้ประโยชน์ นิยมใช้สร้างที่อยู่อาศัย ไม้ประดับ เครื่องจักสานและเครื่องใช้สอย
อ่านเพิ่มเติม บ้านมือสอง