บ้านโมดูลาร์ กลางธรรมชาติ บรรยากาศแสนพิเศษหาไม่ได้ง่ายๆ
บ้านโมดูลาร์ ปัจจุบันทางเลือกในการสร้างบ้านมีมากมาย บ้าน Modular โมดูลาร์ หรือบ้านสำเร็จรูป ที่แม้จะได้รับความนิยมในต่างประเทศมานานแล้ว แต่ในบ้านเราอาจ จะเพิ่งเคยได้ยินชื่อนี้ไม่นานนัก เนื่องจากคนรุ่นใหม่มีไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย นั่นรวมไปถึงเรื่องที่อยู่อาศัยด้วย Sanook! Home จึงนำแบบบ้าน Modular สวยๆ แปลกๆ มาฝาก เผื่อใครมีไอเดียอยากจะสร้างบ้าน Modular ที่ประหยัดพื้นที่ ประหยัดเวลา และยังจำกัดงบประมาณได้ตามความต้องการอีกด้วย
บ้าน Modular คือบ้านสำเร็จรูป หรือบางคนอาจเรียกว่า บ้านน็อคดาวน์ ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างขึ้นจากชิ้นส่วนสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงงานแบบมีมาตรฐาน และนำมาประกอบกันหน้างาน ด้วยการใช้น็อตและสกรูแทน การฉาบด้วยอิฐ หรือปูน ซึ่งจะทำให้งานก่อสร้างบ้าน ประเภทนี้มีความรวดเร็ว แข็งแรง ประหยัดค่าใช้จ่าย มีความสะอาดภายใน พื้นที่หน้างา ในปัจจุบันคนนิยม สร้างบ้านแบบ Modular นั้นเป็นเพราะอะไรมาดูกันเลย
บ้านระบบโมดูลาร์กลางธรรมชาติ
บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในป่า “Hualles” และ “Ulmos” ของชิลีโดยมีทะเลสาบ Colico เป็นฉากหลัง เจ้าของต้องการ Forest House เป็นกระท่อมพักผ่อน สำหรับครอบครัว ซึ่งลูกค้า และสถาปนิกระบุแนวคิดที่ ตรงกันสำหรับการสร้างบ้าน 2 ประการด้วยกัน ประการแรกเน้นที่ ‘วันหยุดพักผ่อนของครอบครัว’ ซึ่งจะต้องรวมพื้นที่ใช้สอย ขนาดใหญ่ และพื้นที่ชมธรรมชาติไว้ในการออกแบบ ประการที่สอง ทุกห้องจะต้องมีส่วนร่วมซึ่งกัน และกัน แต่ก็ยังมีความเป็นสัดส่วน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการแทรกแซง ด้านสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด สถาปนิกจึงใช้ ระบบการก่อสร้าง แบบ บ้าน โมดูลาร์ แทนการก่อฉาบ
จากโจทย์ที่ต้องคำนึงถึงแนวต้นไม้ สถาปนิกจึงนำเสนอให้ แบ่งอาคารออกเป็นสองส่วน เริ่มต้นด้วยการทำอาคารรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะมีส่วนที่หักมุม และแยกออกจากกัน เพื่อปกป้องต้นไม้ที่มีอยู่ ส่วนอีกอาคารที่วางขนานกัน โดยมีสะพานทางเดินกระจกเชื่อมเอาไว้ หลังคาบางส่วนยังถูกเฉือน และเจาะออกเพื่อโอบต้นไม้เอาไว้ ให้เติบโตไปพร้อมกับบ้าน
โครงสร้างภายใน จังหวะการเว้นช่องว่างสร้างพื้นที่ใช้สอยกลางแจ้ง
โมเดลบ้านจะเห็นวิธีการวางตำแหน่งอาคาร โครงสร้างภายใน จังหวะการเว้นช่องว่าง สร้างพื้นที่ใช้สอยกลางแจ้ง และเว้นช่วงหลีกเลี่ยงต้นไม้ รวมถึงทางเดินเชื่อมต่อระหว่างอาคาร ด้วยการคำนึงถึงผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ทีมออกแบบได้วาง โครงสร้างเหล็กหลังคาเมทัลชีท ไว้บนฐานคอนกรีต ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ทำลายหน้าดิน และลดความเสี่ยงที่บ้านจะเสียหาย จากความชื้นในดินพร้อมกัน บ้านเดี่ยว
ในส่วนของอาคารที่แยกเป็นสองอาคาร จะแบ่งสัดส่วนเป็น ส่วนสาธารณะ พื้นที่สำหรับผู้ปกครอง พื้นที่สำหรับเด็ก และอีกพื้นที่สำหรับแขก โดยได้ใช้ลานกลางแจ้ง เป็นตัวกลางแยกแต่ละ พื้นที่อย่างชาญฉลาด แล้วติดตั้งผนังกระจกทางเดินกระจกเพิ่มความรู้สึกเชื่อมต่อ อย่างที่ต้องการ
ทางเดินเหนือสนามหญ้ามีพื้น เป็นกระจกใส ดังนั้นทุกครั้งที่เดินผ่าน จึงรู้สึกเหมือนกำลังลอย อยู่เหนือต้นไม้ และดอกไม้ดูน่าสนุกชวน ให้ประทับใจจน อยากเดินไปมาซ้ำๆ
ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อฟังก์ชัน
อาคารใช้งานสาธารณะจะ เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่ เชื่อมต่อฟังก์ชันครัว ห้องทานอาหาร ห้องนั่งเล่น และส่วนบริการอื่น ๆ เข้าด้วยกัน โดยไม่มีผนังกั้น วิธีการรวมสเปซโล่งแบบนี้ จะทำให้สามารถจัดการพื้นที่ ได้อย่างยืดหยุ่น รองรับการใช้งานพร้อมกันหลาย ๆ คน และไม่ปะปนกับพื้นที่ส่วนตัว
ภายในบ้านหลังคาเฉียงสูง แบบเพิงหมาแหงน ใส่ลูกเล่นพรางตาด้วยคาน และเสาทำให้ดูเหมือน เป็นบ้านหลังคาจั่ว เพิ่มความรู้สึกอบอุ่น ด้วยไม้สนสีอ่อน ๆ ตามธรรมชาติที่ห้อมล้อม ตัวบ้านเกือบทุกด้าน ยกเว้นส่วนที่เป็น กระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน ซึ่งทำหน้าที่เปิดแสงธรรมชาติ ส่องเข้ามาทั่ว Forest House โดยเฉพาะพื้นที่นั่งเล่นที่สามารถเพลิดเพลินกับแสงแดด ตอนเที่ยง และตอนบ่าย และทำให้มองเห็นทิวทัศน์ ของป่าโดยรอบอย่างชัดเจน ส่วนพื้นเป็นกระเบื้องคอนกรีตสีเทา ๆ ดูเรียบเย็น บ้านจัดสรร
ข้ามมาในอีกอาคาร จะแบ่งโซนห้องนอนออก เป็นสามส่วน คือ ห้องนอนคุณพ่อคุณแม่ ห้องนอนเด็ก และห้องนอนแขก ที่ตกแต่งในธีมเดียวกัน คือ เน้นวัสดุธรรมชาติ ใส่กรอบประตูหน้าต่างขนาดใหญ่ ให้มองเห็นวิวได้ทุกมุม โดยไม่ลืมกรุผนังและเพดานด้วยงานไม้ เพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย ชวนให้นอนหลับสบาย
โครงสร้างสำเร็จรูปแบบนี้ช่วยลดเวลาในการก่อสร้างได้มาก
บริเวณมุมสามเหลี่ยมของบ้าน บ้าน ตั้งห้องนอนไว้อย่างตั้งใจ และใช้ผนังกระจกใสในพื้นที่กว้างๆ เพื่อให้ผู้เป็นเจ้าของสามารถใช้ประโยชน์ จากแสงแดดยามเช้า พร้อมกับเปิดวิสัยทัศน์ออกไปรับวิว ทำให้รู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผืนป่า บรรยากาศสะพานทางเดินยามค่ำ เมื่อเปิดไฟส่องสว่าง เห็นไฟซ่อนเป็นแนวยาว เหมือนแสงเลเซอร์ เหมือนเป็นกล่องแก้วที่เปล่งประกายอยู่กลางป่า
แม้จะมีความซับซ้อนก็ตาม แต่การประกอบอาคาร ก็มีความยืดหยุ่น ตอบโจทย์ข้อจำกัดลักษณะของที่ดิน และการใช้งานได้ดีด้วย ทั้งการเว้นช่องว่างเปิด ออกสู่ท้องฟ้าให้ต้นไม้ได้ เติบโตกลางลาน หรือจะเจาะรอยแยกบนหลังคา การใส่วัสดุผนังกระจก ช่วยให้มองเห็นใบไม้ ของต้นไม้จากด้านใน ในขณะเดียวกันแสงธรรมชาติ ก็ส่องเข้ามาทุกพื้นที่ของบ้าน จะต่อเติม หรือตัดทอนก็ง่ายกว่าการก่อฉาบ บ้านแฝด
จุดเด่นของบ้านโมดูลาร์
- ก่อสร้างได้เร็ว-เนื่องจากบ้าน โมดูลาร์ ประกอบขึ้นจาก ชิ้นส่วนสำเร็จรูปที่ผลิต จากโรงงานซึ่งได้มาตรฐาน และมีคุณภาพสูง จากนั้นจึงนำชิ้นส่วนสำเร็จรูป ทั้งหมดมาประกอบเป็นตัวบ้าน ด้วยน็อตและสกรู หลีกเลี่ยงการฉาบปูนหรืออิฐ ซึ่งทำให้เสียเวลาในการก่อสร้าง โดยปกติบ้านโมดูลาร์ จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณแค่ 3 เดือนเท่านั้น
- ควบคุมค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างได้-เนื่องจากบ้านโมดูลาร์เกิด จากชิ้นส่วนต่างๆ นำมาประกอบกัน ดังนั้นเจ้าของบ้านจึงสามารถเลือกจำนวน ชิ้นส่วนที่จะนำ ไปประกอบเป็นตัวบ้านได้ตั้งแต่ขั้นตอน การออกแบบ เมื่อนำมาสร้างจริง จึงมักไม่ค่อยคลาดเคลื่อน เว้นเสียแต่ว่าจะเปลี่ยนแบบ ซึ่งไม่สมควรทำอย่างยิ่ง
- เหมาะสำหรับพื้นที่ๆ มีความเสี่ยงเรื่องภัยจากธรรมชาติ- ใครๆ มักคิดว่าบ้านที่แข็งแรง ใหญ่โตจะปลอดภัย แต่จริงๆ แล้วบ้านที่สามารถ ยืดหยุ่นต่อแรงสั่นสะเทือน จากภัยธรรมชาติต่างหากถึงจะ เป็นบ้านที่ปลอดภัย แบบบ้านโมดูลาร์จึงเป็นแบบบ้าน ที่มีความยืดหยุ่นสูง โดยชิ้นส่วนแต่ละชิ้นได้รับ การออกแบบมาเพื่อรองรับการขยายตัวของอาคาร รวมถึงแรงแผ่นดินไหวด้วย
- ปรับเปลี่ยนได้ตามชอบใจ-บ้านโมดูลาร์ให้ความรู้สึก เหมือนการเล่นเกมตัวต่อ คุณสามารถโยกย้ายส่วนประกอบต่างๆ ที่คุณเลือกมาแล้ว ได้ตามความต้องการ เพื่อบ้านในฝันของคุณเอง
- บ้านโมดูลาร์มีความคงทน เทียบเท่าการก่อสร้างบ้านตามปกติ- หลายคนรู้สึกกังวลเวลาคิดจะสร้าง บ้านสำเร็จรูป เนื่องจากไม่มั่นใจในความแข็งแรง แต่เนื่องจากชิ้นส่วนของบ้านแบบโมดูลาร์ ทุกชิ้นส่วนผลิตจากโรงงาน มีการควบคุมคุณภาพ การใส่ใจสิ่งแวดล้อม ดังนั้นความแข็งแรงมั่นคง จึงเท่ากับบ้านทั่วไป
- การขนย้ายสะดวก-ปัจจุบันพื้นที่ปลูกสร้างบ้าน หรือ อาคารสักหลังนั้นหายาก บางครั้งต้องเข้าซอยแคบเพื่อไปปลูกบ้าน บ้านแบบโมดูลา ร์จึงเหมาะสำหรับ การอยู่อาศัยของคนในปัจจุบัน ที่การเข้า-ออกของซอยต่างๆ นั้นแสนลำบาก แต่บ้านโมดูลาร์ จะทำให้การสร้างบ้าน ของคุณสะดวกรวดเร็วขึ้น
แบบโมดูลาร์ จึงเป็นอีกทางเลือก ที่น่าสนใจสำหรับ ผู้ที่อยากมีบ้านยุคใหม่ ที่ไม่ต้องการปวดหัวกับปัญหาเรื่องการก่อสร้าง เรื่องช่าง และผู้รับเหมา รวมถึงไม่อยากเสียเวลารอนานๆ กว่าจะได้บ้านที่พร้อม ให้เข้าอยู่อาศัย ซึ่งแนะนำว่าก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ควรศึกษาหาข้อมูลเสียก่อน จะได้เข้าใจถึงการเตรียมพร้อม และดูแลรักษาบ้านน้อยหลังงามนี้ ให้อยู่ได้ยาวนานต่อไป