บ้านสไตล์บ้านฝรั่ง

บ้านสไตล์บ้านฝรั่ง
บ้านสไตล์บ้านฝรั่ง

บ้านสไตล์บ้านฝรั่ง

บ้านสไตล์บ้านฝรั่ง นอกจากความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในแวดวงต่าง ๆ มากมายแล้ว ยังนำมาซึ่งการประยุกต์ใช้ศิลปะวิทยาการ รวมถึงศาสตร์ทางด้านการปลูกสร้างบ้าน พูลวิลล่า ภูเก็ต เรือน อย่างสถาปัตยกรรม ที่มีการนำเอาสถาปัตยกรรมในแต่ละถิ่นที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในทุกด้าน มาสร้างอยู่บนพื้นที่ ทำเล สภาพแวดล้อม สภาพทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนสภาพอากาศที่แตกต่างกัน โดยเป็นการประยุกต์ให้เข้ากับพื้นที่ที่มีการปลูกสร้าง บ้าน

ในยุคที่โลกใบนี้ยังมีเส้นแบ่งพรมแดนที่ชัดเจน ความแตกต่างทางวัฒนธรรมและความคิดยังมิได้ถูกเชื่อมโยง เรามองเห็นวิถีที่แตกต่างกัน ระหว่างอารยธรรมโลกตะวันออกกับโลกตะวันตก ในความเรียบง่ายแบบตะวันออก กับความหรูหราในแบบตะวันตก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดในแบบโลกตะวันตกที่ยังคงชัดเจนจนถึงทุกวันนี้

ความหรูหรา คลาสสิก ที่บ่งบอกถึงรสนิยมชั้นสูง คือ คำจำกัดความของสไตล์ยุโรปโดยรวมที่เรานึกภาพถึง เมื่อนำมาใช้กับสไตล์การตกแต่ง ก็ต้องเริ่มจากพื้นฐานแนวคิดนี้ก่อน ว่าโดยพื้นฐานแล้ว คุณมีวิถีชีวิตที่หรูหรา และมีรสนิยมสูง โดยเฉพาะงบประมาณที่จะใช้ในการตกแต่งนั้นต้องสูงตามไปด้วย เพราะสไตล์ยุโรปนี้ ถ้าตกแต่งไม่สมบูรณ์แบบ ก็จะบ่งบอกถึงรสนิยมของตัวคุณได้เช่นกัน ว่ามีความเข้าใจในเรื่องของการตกแต่งสไตล์ยุโรปมากน้อยแค่ไหน หรือหลงใหลเพียงความหรูหราภายนอกเท่านั้น

ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา การตกแต่งบ้าน home เป็นสไตล์ที่หลายคนนิยม และมักจะใช้คำว่า “สไตล์ฝรั่ง” เป็นคำที่บ่งบอกถึงสไตล์ที่หรูหรามีรสนิยม ซึ่งสไตล์หลุยส์นั้นก็คือ ยุคสมัย และศิลปวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในยุคหนึ่งของยุโรปหรือซีกโลกตะวันตกนั่นเอง แต่มิใช่ทั้งหมด แต่พอเวลาล่วงเลย สไตล์ยุโรปก็มิได้ถูกจำกัดความแค่คำว่า “สไตล์หลุยส์” อีกต่อไป

บ้านสไตล์บ้านฝรั่ง

การตกแต่งบ้านสไตล์บ้านฝรั่ง ส่วนใหญ่มักเน้นความโอ่อ่า หรูหรา อลังการ เป็นองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ใช้ในการก่อ สร้าง และตกแต่ง รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้านที่มีเอกลักษณ์ และมีความสง่างามอยู่ในตัวของมันเอง นับเป็นอีกแนวทางหนึ่ง สำหรับคนไทย Phuket Villas

หลักการตกแต่งบ้านสไตล์บ้านฝรั่ง

ในปัจจุบันสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ที่เรานำมาดัดแปลงเข้ากับที่อยู่อาศัยของคนไทย จะมีแรงบันดาลใจมาจากฝั่งประเทศทางยุโรปตอนใต้ และตะวันออก คือ ประเทศอิตาลี และฝรั่งเศส เสียเป็นส่วนมาก ซึ่งเอกลักษณ์ และรูปแบบการตกแต่ง สถาปัตยกรรมของทั้งสองประเทศนี้ มีความใกล้เคียงกันในเรื่องของการเน้นความหรูหรา ประกอบไปด้วยรายละเอียดมากมายที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ในแต่ละสัดส่วนของ การตกแต่งไม่ว่าจะเป็น ลายเส้นของหัวเสา และบัวต่างๆ รวมทั้งลีลาท่าทางของรูปปูนปั้น ประดับประดาอาคาร ที่ดูอ่อนช้อยงดงาม ทั้งนี้ทั้งนั้นก็สืบเนื่องมาจากความรุ่ง เรืองของยุคสมัย ที่นิยมความหรูหรา ฟุ่มเฟือย ความพิถีพิถันในวิถีชีวิตของผู้คนในยุโรป ซึ่งอยู่ในยุคที่เฟื่องฟู ทั้งเครื่องมือ เครื่องใช้ เฟอร์นเจอร์ และของตกแต่งบ้านก็ล้วนมีรายละเอียด และความสวยงาม ซึ่งความโด่ดเด่นของกิจกรรม ,ประติมากรรม , และสถาปัตยกรรม ทำให้ชื่อเสียงของศิลปินหลายคนเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกตลอดกาล เช่น ลีโอนาร์โด ดาวินชี , มิเกลันเจโล ราฟาเอล เป็นต้น เมื่อนำมาใช้กับบ้านเรือนของคนไทยในปัจจุบัน คงไม่ใช่ เรื่องง่ายๆ เลยที่จะนำเนื้อหาทั้งหมดของการตกแต่งในสไตล์ ยุโรปทั้งอิตาลี และฝรั่งเศส มาสร้างเป็นบ้านทั้งหลังให้เหมือนกับยกมาจาก ประเทศอันไกลโพนได้ เพราะองคประกอบ และปัจจัยหลายๆ อย่างทั้งสภาพภูมิอากาศ และสภาพแวดล้อมที่มีความแตก ต่างกันค่อนข้างมาก

  • วิธีการที่เหมาะสมเพื่อให้ได้บ้านที่มีอารมณ์ตะวันตกอย่างที่ใจต้องการ คือ การนำรายละเอียดของการตกแต่ง และรูปแบบ การใช้งานต่างๆ ที่เหมาะสมกับวิถีการดำเนินชีวิตของคนไทยเข้ามาดัดแปลงเพื่อให้คงตามวัตถุประสงค์ และสามารถใช้งานจริงได้ มากกว่า
  • การเลือกใช้วัสดุ เอกลักษณ์ของการตกแต่งบ้านสไตล์ตะวันตก คือ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ทั้งชุดโซฟา โต๊ะกลาง หรือโต๊ะที่ไม่จะเป็นต้อง เป็นชุดเดียวกันโดยใช้การคุมโทนสีของเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากัน เพื่อไม่ให้เกิดความแปลกแยก

ทำไมคนไทยจึงเรียกชาวต่างชาติว่าฝรั่ง?

ยังคงเป็นข้อสงสัยสำหรับหลายๆ คน ว่าเพราะอะไรชาวไทยจึงเรียกชาวต่างชาติว่าฝรั่ง มีความเกี่ยวข้องกับฝรั่งที่เป็นผลไม้หรือไม่ ซึ่งจากประเด็นดังกล่าว ก็ได้มีหลายคนพยายามอธิบายถึงที่มาไว้อย่างหลากหลายด้วยกัน เช่น ในศตวรรษที่ 17 นั้นได้มีชาวฝรั่งเศสเข้ามาสร้างความสัมพันธ์กับประเทศไทยเป็นชาติแรก โดยคนไทยจะเรียกชาวฝรั่งเศสสั้นๆ ว่าฝรั่ง และต่อมาเมื่อมีชาวยุโรปผิวขาวเข้ามาในประเทศ ชาวไทยจึงเรียกเหมารวมชาวยุโรปที่มีผิวขาวว่าฝรั่งนั่นเอง และยังรวมถึงกลุ่มคนผิวขาวที่มาจากอเมริกาใต้ อมริกาเหนือและออสเตรเลียอีกด้วย

หรืออีกเรื่องเล่าหนึ่งก็คือ ในสมัยอยุธยานั้นได้มีการยกที่ดินให้กับพ่อค้าชาวโปรตุเกส โดยที่ดินผืนนั้นก็ได้มีการปลูกต้นฝรั่งไว้เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาจึงเรียกบ้านหลังนั้นว่าบ้านฝรั่ง โครงการภูวิลล่า ภูเก็ต และได้มีการเรียกเจ้าของบ้านว่าฝรั่ง และอีกนัยหนึ่งก็คือ คำว่าฝรั่งเริ่มมาจากที่พ่อค้าชาวอาหรับเดินทางเข้ามายังเอเชียตะวันออกเพื่อการเผยแพร่ภาษาอาหรับ และชอบออกเสียงว่า ฟะรอน์จิ บ่อยๆ จนมีการเรียกเพี้ยนเสียงมาเป็นคำว่าฝรั่ง จากนั้นคนไทยจึงเรียกชาวต่างชาติฝรั่งตั้งแต่นั้นมา

ทำไมคนไทยถึงเรียกพวกยุโรป พวกผิวขาวว่า “ฝรั่ง”

คำตอบก็คือ ชาวยุโรปนั้นเป็นชาวต่างชาติพวกแรกๆที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีความสัมพันธ์ “อย่างเป็นทางการ”…คือ ฝรั่งเศส และคนไทยค่อนข้างเกี่ยวข้องกับฝรั่งเศสมายาวนานจนถึงยุคล่าอาณานิคม และคำว่า “ฝรั่ง” ผู้ที่เริ่มต้นก็ไม่ใช่ชาวไทย แต่เป็นชาวแขกอาหรับเปอร์เซียที่เรียกก่อน……. เพราะติดต่อค้าขายกับชาวยุโรปมาตอนในมาก่อนผ่านพวกกรีก หรือแม้แต่เคยรบกันตั้งแต่โบราณแม้แต่รบกัน ซึ่งคำว่าฝรั่งมีพื้นฐานมาจากคำว่า “แฟรงค์” (Frank) ซึ่งเป็นชาวยุโรปที่มีชื่อเสียงมากในสมัยโบราณ เป็นที่ร่ำลือ ซึ่งรบชนะพวกมุสลิมที่เอาชนะพวกสเปนได้ แล้วจะแผ่ไปยุโรปโดยไปทางฝรั่งเศลเพื่อเผยแผ่ศาสนาอิสลาม….แต่ต้องมาแพ้พวกแฟร้ง อันเก่งกาจ..ซะเละเทะ… จนรู้จักต่อแขกมากกว่าเผ่าอื่นชาติอื่นในยุโรป จนเป็นรากศัพท์เรียกผู้คนในยุโรปเดิมนั้น ว่า ภาษากรีก เรียก “ชาวตะวันตกตอนใน” ว่า “frangos”

  • ภาษาอาหรับ และภาษาตรุกี เรียก “ifrangi”
  • ภาษาถิ่นอาหรับอาฟริกาเหนือ เรียก “afrangui”
  • ภาษาถิ่นอาหรับ เรียก “ifranji” หรือ “franji”
  • ภาษาอาหรับ เรียก “faranji”
  • ภาษาอาหรับถิ่นอิยิปต์ เรียก “farangi”
  • ภาษาอาหรับมาตราฐาน เรียกทวีปยุโรปว่า “firanja”
  • ภาษาเปอร์เซียปัจจุบัน เรียก “farang, faranj, ferang, ferangi, feringhi”
  • ภาษาทมิฬ (อินเดียใต้) เรียก “farengi, farangi, pirangi”
  • ภาษามลยัม (อินเดียใต้) เรียก “farangi”
  • ภาษาไทย เรียก “ฝรั่ง”
  • ภาษาเขมร เรียก “barang”

เชื่อว่าในสมัยที่พวกฝรั่งเข้ามาค้าขายกับอยุธยา ทางราชสำนักอยุธยา

จะมี “แขกเปอร์เซีย” เป็นล่ามมากที่สุดครับ ซึ่งรับคำนี้มาจากพวกอาหรับอีกที ดังนั้น คนไทยก็เลยเรียกพวกยุโรป
ด้วยคำศัพท์เปอร์เซีย “ฟรังงิ” ซึ่งเพี้ยนเป็นสำเนียงไทยๆ ว่า “ฝรั่ง” เมื่อคนไทยได้ยินแขกอาหรับเรียกมาก็เรียกตาม ก็เพี้ยนมาจนเป็นคำว่า “ฝรั่ง” ไปในที่สุด ..ซึ่งฝรั่งแนะนำตัวเองและเรียกตัวเองว่า “ฟร๊องเซ่”..เราเรียกตาม เปอร์เซียกันไป เรียกฟร้องเซ่เพี้ยนกันมา จนกลายเป็น ฝรั่งเศล จนวันนี้

ทำไม “ฝรั่งเศล” ถึงเป็นที่รู้จัก มากกว่า พวกโปรตุเกส และ ฮอลันดาที่เข้ามาก่อน

ชาวฝรั่งเศสเดินทางเข้ามาเมืองไทย เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะเผยแพร่ศาสนาเป็นส่วนใหญ่ ผิดกับพวกโปรตุเกสที่เน้นการค้าขาย ไม่เน้นสานสัมพันธ์กับชาวบ้าน ภูเก็ต วิลล่า อะไรนักเหมือนฝรั่งเศสพวกฝรั่งเศส จึงเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชาาวไทยทั่วไปที่พบปะเจอ มากกว่าที่จะรู้จักพวกโปรตุเกส ซึ่งเข้าถึงชุมชนต่างๆ เป็นที่รู้จักกว้างขวางกว่า…ชาวฝรั่งเศสพวกแรก คือ สังฆราชแห่งเบริต ชื่อ เดอ ลามอต ลัมแบร์ เข้ามาถึงกรุงศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ. ๒๒๐๕ ในรัชกาลสมเด็จ พระนารายณ์มหาราชหลังจากนั้นมีชาวฝรั่งเศสเดินทางเข้ามาเมืองไทยจำนวนมากขึ้นและได้ตั้งสถานีการค้าของฝรั่งเศสขึ้นที่กรุงศรีอยุธยาเป็นครั้งแรกใน พ.ศ. ๒๒๒๓..และเผยแผ่ศาสนาไปในตัว..(และสำรวจผู้คน)

ผิดกับชนอื่นพวกโปรตุเกส ฮอลันดาที่เข้ามาค้าขายเป็นหลัก จึงไม่เป็นที่รู้จักแกชาวบ้าน พูลวิลล่า ภูเก็ต ทั่วไป นอกเสียจาก ผู้ที่ค้าขายด้วย และลูกหาบรับจ้างให้พวกโปรตุเกส ดังนั้น ชาวบ้านทั่วไปทั่วราชอาณาจักรจึงรู้จัก “ฝรั่ง” คณะที่ชอบสำรวจเดินทางไปทั่วและชอบเข้าหาชาวบ้านเพื่อเผยแผ่ชักชวนเข้าคริสตจักร…. มากกว่าที่จะรู้จัก พวกโปรตุเกสและฮอลันดานั้นเอง Phuket Villas

อ่านเพิ่มเติม การจัดสวนในบ้าน