ต้นไม้ในร่ม
ต้นไม้ในร่ม เป็นอีกหนึ่งประเภทของต้นไม้น่าสนใจสำหรับคนที่อยากมีสวนสวยในบ้าน แต่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถปลูกต้นไม้ในสนามกลางแจ้งได้อย่างที่ใจหวัง ซึ่งหลายคนก็อาจจะนึกถึงต้นไม้ในร่มขึ้นมา และหากใครสนใจอยากจัดสวนในอาคาร วันนี้เราก็ขอนำเสนอต้นไม้ในร่มหลากหลายชนิดมาให้คุณได้เลือกกัน สนใจต้นไม้ในร่มชนิดไหนจะได้หามาปลูกเติมความสดชื่นให้ บ้าน กันครับ
แนะตำต้นในปลูกในร่มไม่ง้อแดด
1. กล้วยไม้
ลักษณะทั่วไป กล้วยไม้เป็นพืชดอกที่มีสายหลากหลายสายพันธุ์ มีมากกว่า 800 สกุล และอีกกว่า 2 หมื่นชนิด ซึ่งแต่ละชนิดและสายพันธุ์ก็มีความแตกต่างทั้งสีสัน ลวดลาย กลิ่น รูปทรง และขนาดต้นรวมทั้งดอก อีกทั้งกล้วยไม้ยังเป็นพืชที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกเลยทีเดียว ซึ่งกล้วยไม้ที่นิยมปลูกในประเทศไทย
คือ กล้วยไม้แคทลียา ซึ่งมีดอกใหญ่ สีสันสวยงาม และมีกลิ่นหอม จนถูกยกให้เป็น ราชินีแห่งกล้วยไม้ โดยดอกกล้วยไม้จะมีกลีบดอกประมาณ 6 กลีบ แบ่งออกเป็น 2 ชั้น และมีเกสรอยู่ภายใน ส่วนสีสันและรูปร่างก็อาจต่างกันไปตามสายพันธุ์ อีกทั้งยังปลูกในร่มได้อีกด้วย
วิธีการปลูกและดูแลรักษา การปลูกต้นกล้วยไม้มักจะปลูกตามชนิดของกล้วยไม้ แต่ส่วนมากจะปลูกในกระถางแบบแขวน ที่มีให้เลือกปลูกตามแต่ความเหมาะสม ตั้งแต่กระถางดินเผาทรงเตี้ย, กระถางดินเผาทรงสูง, กระเช้าไม้สัก, กระเช้าพลาสติก, กระถางดินเผามีรูก้นกระถาง, ท่อนไม้ที่มีเปลือก หรือจะปลูกติดกับต้นไม้ใหญ่ไปเลยก็ได้
ส่วนการรดน้ำและการดูแล ควรรดน้ำวันละ 1 ครั้ง โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการรดน้ำกล้วยไม้คือช่วงเช้า ตั้งแต่ 06.00-09.00 น. เพราะเป็นช่วงที่รากกล้วยไม้สามารถดูดซึมน้ำได้ดีที่สุด ซึ่งคุณสามารถปลูกกล้วยไม้ในร่มได้ แต่ถ้าอยากให้ได้รับสารอาหารไวขึ้น ให้วางในจุดที่แดดส่องถึงรำไร หรือนำออกไปรับแสงอ่อน ๆ บ้างก็ยิ่งดี
2. เฟิร์นบอสตัน
ลักษณะทั่วไป เฟิร์นบอสตันเป็นพืชตระกูลเฟิร์นชนิดหนึ่ง มีใบเขียวชะอุ่มคล้ายใบมะขาม ปลายใบไม่มีแฉก เป็นพืชที่ชอบความชื้น สามารถปลูกในร่มได้สบาย ๆ นอกจากนี้เฟิร์นบอสตันยังมีคุณสมบัติช่วยดูดสารพิษ และฟอกอากาศภายในบ้านได้อีกด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งต้นไม้ในร่มยอดนิยมที่มักจะปลูกไว้ในบ้านหรือในอาคาร เพื่อเป็นไม้ประดับสวย ๆ
วิธีการปลูกและดูแลรักษา คุณสามารถปลูกเฟิร์นในที่ร่มได้สบาย ๆ แต่ควรรดน้ำให้เฟิร์นชุ่มพอดี อย่าปล่อยให้แฉะน้ำ เพราะเฟิร์นอาจเฉาตายได้ และถ้าขาดน้ำเมื่อไหร่ใบก็จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
และร่วงอย่างรวดเร็ว HOME IN PHUKET แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรให้เฟิร์นได้รับแสงแดดบ้างเป็นบางครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาใบเหลืองเฉา ส่วนการให้ปุ๋ยควรให้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักแบบละลายน้ำ โดยฉีดพ่นเป็นละอองเบา ๆ และให้ปุ๋ยเพียงเดือนละครั้งก็พอครับ
3. เดหลี
ลักษณะทั่วไป เดหลีเป็นไม้ในร่มที่ฮิตไม่น้อย เพราะมีใบสีเขียวเข้มมันวาว แถมยังให้ดอกสีขาวแกมเหลืองสวยงามคล้ายดอกหน้าวัว ลำต้นมีความสูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร นิยมปลูกในบ้าน บ้านหรู เพราะเป็นพืชที่ดูดสารพิษจำพวกแอลกอฮอล์ อาซีโตน ไตรคลอไรเอทีรีน เบนซีน และฟอร์มาลดีไฮด์ รวมทั้งช่วยฟอกอากาศได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งดอกเดหลีสามารถออกดอกได้ในอาคารแม้จะเจอเพียงแค่แสงจากหลอดไฟนีออนเท่านั้น HOME
วิธีการปลูกและดูแลรักษา ส่วนใหญ่เราจะปลูกเดหลีในกระถาง โดยใช้ดินร่วนผสมปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก และทรายหยาบผสมในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน สำหรับการรดน้ำควรหมั่นรดน้ำให้ดินชุ่มอยู่เสมอ และบำรุงด้วยปุ๋ยคอกละลายน้ำ เดือนละ 1-2 ครั้ง นอกจากนี้ควรหมั่นทำความสะอาดใบไม้เป็นประจำ ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดใบ เพื่อป้องกันแมลงกัดใบด้วยครับ HOME
4. เศรษฐีเรือนใน
ลักษณะทั่วไป เศรษฐีเรือนในเป็นไม้กอขนาดเล็ก ลักษณะใบเป็นใบเล็กเรียวสีเขียวอ่อน ๆ ตลอดใบ ตรงกลางใบไม้เป็นแถบสีขาวยาวตลอดทั้งใบเช่นกัน ความยาวของใบมีขนาดประมาณ 15-30 เซนติเมตร นิยมปลูกภายในอาคารเพราะเป็นพืชที่มีความสามารถในการดูดสารพิษ และฟอกอากาศได้ HOME
วิธีการปลูกและดูแลรักษา เศรษฐีเรือนในเป็นพืชที่ชอบดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี นิยมปลูกในกระถางขนาดเล็กแบบแขวน สามารถปลูกได้ในที่ร่ม แต่ควรให้แดดส่องถึงพอประมาณ รวมทั้งควรรดน้ำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือสังเกตหน้าดินว่าแห้งหรือไม่ก็พอ เนื่องจากต้นเศรษฐีเรือนในไม่ค่อยชอบแดดและน้ำมากนัก อีกทั้งยังสามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายมากด้วยการตัดไปปลูกใหม่
5.ต้นหมาก
ลักษณะทั่วไป จัดว่าเป็นพืชที่นิยมปลูกภายในอาคารอีกชนิดหนึ่ง ด้วยความที่มีขนาดลำต้นไม่สูงมากนัก ประมาณ 5-10 เมตร และเป็นพืชตระกูลปาล์มที่ดูแลง่าย มีความทนทาน จึงสามารถปลูกในร่มได้ ลักษณะของใบออกสีเขียวแซมเหลืองปลาย ๆ ใบมีความอ่อนพลิ้วคล้ายขนนก ดูอ่อนช้อยสวยงาม นอกจากนี้หมากเหลืองยังเป็นพืชที่คายน้ำมาก ขนาดต้นประมาณเกือบ 2 เมตร สามารถคายน้ำได้มากถึง 1 ลิตรในเวลาแค่ 1 ชั่วโมง HOME
วิธีการปลูกและดูแลรักษา เนื่องจากต้นหมากเหลืองเป็นพืชที่ดูแลง่าย จึงรดน้ำในช่วงเช้าเพียงวันละ 1 ครั้งก็พอ และพยายามอย่ารดน้ำจนดินแฉะมากเกินไปด้วย เพราะรากและใบอาจเน่าตายได้ ส่วนปุ๋ยควรให้ปุ๋ยคอกเดือนละครั้ง รวมทั้งหมั่นฉีดละอองน้ำทำความสะอาดใบบ่อย ๆ เพื่อป้องกันปัญหาแมลงกัดกินใบ ทั้งนี้ควรวางกระถางต้นหมากเหลืองไว้ตรงบริเวณที่แสงแดดส่องถึง หรือยกไปตากแดดบ้างเป็นบางครั้ง เพื่อให้ต้นไม้ได้คายน้ำ และสังเคราะห์แสงด้วยครับ HOME IN PHUKET
6. เงินไหลมา
ลักษณะทั่วไป ต้นเงินไหลมาเป็นเถาไม้เลื้อยขนาดเล็ก ลักษณะต้นจะออกกลม ๆ ดูน่ารัก ส่วนลักษณะใบจะคล้ายใบบอน มีสีเขียวอ่อนผสมสีเหลืองจาง ๆ และมีลายของใบเป็นเส้นตรงสีเงิน โคนใบเว้าลึกมองดูคล้ายรูปหัวใจ อีกทั้งด้วยชื่อและลักษณะของต้นไม้ชนิดนี้ ก็ทำให้คนนิยมปลูกเป็นไม้ประดับภายในบ้าน บ้านเดี่ยว ด้วยเช่นกัน
วิธีการปลูกและดูแลรักษา ต้นเงินไหลมาเป็นพืชที่ชอบอยู่ในที่ร่ม ต้องการเพียงแค่แสงแดดรำไร แต่ควรรดน้ำให้สม่ำเสมอ ประมาณสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เพื่อป้องกันใบแห้ง เป็นสีน้ำตาล และเหี่ยวตาย นอกจากนี้ควรให้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ปริมาณ 300-500 กรัม ต่อครั้ง โดยใส่ปุ๋ยเดือนละ 1-2 ครั้งก็พอ HOME
7. กวักมรกต
ลักษณะทั่วไป ต้นไม้ชื่อมงคลอีกชนิดหนึ่งที่นิยมปลูกในอาคารบ้าน บ้านหรู เรือน เพราะเป็นต้นไม้ในร่มที่สวยงาม แถมมีนามเป็นมงคล ลักษณะลำต้นเป็นหัวใต้ดิน แตกใบย่อยเป็นสีเขียวมรกตเฉดเข้ม ใบแข็งและเป็นมัน สื่อถึงความมั่งคั่ง และความราบรื่น ส่วนดอกเป็นช่อ มีลักษณะคล้ายดอกเดหลี คนส่วนใหญ่นิยมปลูกต้นกวักมรกตเป็นไม้ประดับภายในบ้าน เนื่องจากดูแลง่าย ไม่ค่อยพบปัญหาโรคพืช หรือแมลงมารบกวน
วิธีการปลูกและดูแลรักษา คุณสามารถปลูกต้นกวักมรกตในดินผสมแกลบ หรือดินปลูกต้นไม้สำเร็จรูปได้เลย ส่วนการรดน้ำต้นไม้ไม่ต้องรดมากนักก็ได้ เพราะไม้ชนิดนี้ไม่ชอบน้ำชุ่มเท่าไร และหากรดน้ำมากเกินไป รากมีสิทธิ์เน่าตายได้เลยทีเดียว แต่ควรให้ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอกละลายน้ำเดือนละครั้งด้วยครับ บ้าน
8. พรมกำมะหยี่ หรือพรมญี่ปุ่น
ลักษณะทั่วไป พรมกำมะหยี่ หรือชื่ออื่น ๆ คือ พรมญี่ปุ่น หูเสือ เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นอวบน้ำ ไม่ชอบแดดจัด แต่ชอบความชื้น ปลูกง่าย ความพิเศษอยู่ตรงที่ส่วนใบและดอกมีขนปกคลุมคล้ายลักษณะของพรมหรือกำมะหยี่ ส่วนปลายใบแหลมงุ้มน้อย ๆ ขอบใบหยักมน นอกจากนี้พรมกำมะหยี่ยังมีดอกเล็ก ๆ กลีบดอกมี 5 กลีบ สีสันสดใสอย่างสีขาว แดง ม่วง ชมพู ส้ม เหลือง เป็นต้น จึงเหมาะที่จะนำไปปลูกประดับความสวยงามภายในบ้าน โครงการภูวิลล่า ภูเก็ต
วิธีการปลูกและดูแลรักษา พรมกำมะหยี่เป็นพืชที่ชอบแดดรำไร เพราะหากโดนแดดจัดใบจะเล็ก แห้ง และเหลือง ชอบน้ำพอประมาณ รดน้ำพอให้ดินชื้น ๆ เป็นใช้ได้ แต่ควรให้ปุ๋ยละลายน้ำทุกสัปดาห์ สำหรับในช่วงหน้าฝนที่มีความชื้นสูงอาจต้องลดปริมาณการให้น้ำและปุ๋ยลงด้วย เพื่อป้องกันรากเน่า
อ่านเพิ่มเติม บ้านราคาไม่เกินล้าน