เลือกสีทาบ้าน

เลือกสีทาบ้าน
เลือกสีทาบ้าน

เลือกสีทาบ้าน

เลือกสีทาบ้าน อยากทาสีห้องใหม่แต่เลือกไม่ถูกสักทีว่าจะเริ่มต้นยังไง ใช้สีไหนถึงจะเหมาะกับห้อง หรือทาออกมาแล้วสีที่เลือกเข้ากับของตกแต่งภายในห้องได้อย่างลงตัวมากที่สุด วันนี้ผู้เชี่ยวชาญจากสีดูลักซ์มีเคล็ดลับดี ๆ มาแนะนำเพื่อเป็นตัวช่วยในการเลือกสีอย่างมืออาชีพ

1. หาตัวช่วยเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
ลองพลิกดูนิตยสารหรือข้อมูลทางออนไลน์ เช่น เว็บบล็อกต่างๆ หรือ Pinterest เพื่อรวบรวมรูปภาพที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ หรืออาจเก็บรวบรวมตัวอย่างงานผ้า สีทา บ้าน และวอลล์เปเปอร์จากร้านขายอุปกรณ์ตกแต่งที่อยู่ใกล้บ้านคุณดูก็ได้ เมื่อคุณรวบรวมรูปภาพต่างๆ ในสไตล์ที่คุณชื่นชอบได้มากพอแล้ว ให้นำรูปเหล่านั้นมาเปรียบเทียบกัน เพื่อดูว่ารูปแบบในเฉดสีไหนและการจับคู่สีแบบใดที่ถูกใจคุณ จากนั้นให้ลองนำภาพทั้งหมดที่คุณเลือกมาสร้างเป็น Moodboard (มู้ดบอร์ด) ของคุณดูก็ได้ เพื่อเป็นตัวช่วยในการสร้างโทนสี และแรงบันดาลใจในการตกแต่งอย่างที่คุณต้องการ

2. ต้องการให้มีของตกแต่งอะไรบ้างอยู่ในห้องนี้
คุณต้องการพรม ผ้าม่าน เก้าอี้โซฟา หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใดบ้างเพื่อวางไว้ในห้องนี้ ถ้าของตกแต่งและของใช้เหล่านี้เป็นโทนสีกลาง ก็จะไม่ส่งผลต่อเฉดสีที่คุณจะใช้ทาตกแต่งห้องมากนัก หากเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งมีสีสดสว่างหรือสีเข้ม คุณอาจต้องใช้สีจากของตกแต่งเหล่านั้นเป็นจุดเริ่มต้นของไอเดียในการเลือกพาเลทท์สีสำหรับห้องของคุณ

3. ใช้ห้องนี้เพื่อวัตถุประสงค์ใด
กำหนดฟังก์ชันการใช้งานของห้องที่จะทาสีเพื่อที่จะตัดสินใจเลือกบรรยากาศของห้องที่คุณต้องการ คุณกำลังจะตกแต่งห้องนอนเพื่อใช้พักผ่อนอย่างเดียว หรือใช้เป็นห้องทำงานหรืออ่านหนังสือด้วย หรือห้องครัวนี้จะใช้ประกอบอาหารอย่างเดียว หรือเป็นที่รับรองแขกด้วยเช่นกัน การถามคำถามเหล่านี้ตั้งแต่เนิ่นๆ ในขั้นตอนการตกแต่งจะช่วยให้คุณสามารถจัดวางพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม และสามารถกำหนดบรรยากาศของห้องที่คุณต้องการจะสร้างสรรค์ได้

4. ห้องนี้ใช้งานช่วงเวลาใดบ่อยที่สุด
ห้องนี้จะใช้งานมากที่สุดในช่วงเช้า บ่าย เย็น หรือตลอดทั้งวัน ปริมาณแสงตามธรรมชาติที่ส่องเข้ามาในห้องจะส่งผลต่อสีที่คุณใช้ทาตกแต่งห้อง หากผนังห้องได้รับแสงแดดโดยตรงในระหว่างวัน คุณอาจต้องทาสีที่เข้มขึ้นสักนิดเพื่อป้องกันสีซีดจางเนื่องจากต้องเผชิญกับแสงแดดจ้า home

5. ห้องนี้หันหน้าไปทางทิศไหน
หากห้องของคุณหันหน้าไปทางทิศเหนือ ก็จะได้รับแสงตามธรรมชาติไม่มากนัก หากต้องการเพิ่มแสงสว่างให้กับห้องเพื่อชดเชย ควรเลือกทาสีผนังด้วยเฉดสีอ่อนโทนอบอุ่น เช่น สีฟ้าเปลือกไข่เป็ด สีเหลืองพริมโรส หรือสีชมพูหวานๆ ในทางตรงกันข้าม ถ้าห้องนี้หันไปทางทิศใต้ ก็มักจะได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ จึงอาจจะต้องทาสีโทนเย็นเพื่อช่วยปรับสมดุล ไม่ให้ห้องดูสว่างจ้าจนเกินไป

6. ห้องนี้อาศัยแหล่งที่มาของแสงจากที่ใดเป็นหลัก
เช่นเดียวกับแสงธรรมชาติ ประเภทของแสงสว่างจากหลอดไฟที่คุณเลือกใช้ในห้องก็ส่งผลอย่างมากต่อรูปลักษณ์และบรรยากาศของห้องนั้น ตัวอย่างเช่น แสงฮาโลเจนจะให้แสงสว่างสีขาวที่ชัดเจนและมักจะสะท้อนสีสันที่ดูเหมือนจริงที่สุด ในขณะที่หลอดไส้ร้อนแบบธรรมดาจะให้แสงออกสีเหลือง ซึ่งจะทำให้สีผนังในห้องมีโทนสีเหลือง ส่วนหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์จะมีลักษณะของแสงที่เย็นกว่า และลดความมีชีวิตชีวาของสีสันลง

เลือกสีทาบ้าน

เลือกสีบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

การเลือกสีทาบ้าน นอกจากจะต้องเลือกให้มีสีสวย และอยู่ได้ยาวนานแล้ว การเลือกสีทา บ้าน ควรที่จะให้ความสำคัญกับหลักฮวงจุ้ยด้วย โดยหากเลือกสีทาบ้านให้เหมาะกับปีเกิดและธาตุของตนเอง จะช่วยส่งเสริมมงคลชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัย

ตามหลักของฮวงจุ้ยเเล้วสีสันสามารถเเทนค่าของพลังในธาตุต่างๆได้ โดยธาตุทั้ง 5 ก็คือ ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุทอง ธาตุน้ำ และธาตุไม้ ซึ่งต่างก็มีเอกลักษณ์และพลังงานที่เเตกต่างกัน ทีนี้เรามาดูหลักเกณฑ์ว่าบ้านไหนควรใช้สีอะไรดี… มาดูกัน!!

1.สีมาตรฐานประจำยุคสมัย
สีแนวนี้คือสีเเนวเอิร์ธโทน สีน้ำตาล ช่วงระหว่าง 20 ปี ตั้งเเต่ พ.ศ.2547-2567 (อยู่ในยุคนี้ด้วย) ในวิชาดาวเก้ายุคคือยุคที่ 8 ทางฮวงจุ้ยถือว่าเป็นช่วงของพลังธาตุดิน และถือว่ามีพลังสูงสุด มีพลังเข้าสู่ศูนย์กลาง และเป็นสีสันถูกกับยุคนี้ เหมาะเจาะกับเรื่องโอกาสมากที่สุด สามารถนำไปทาเป็นสีทั้งภายในและภายนอกอาคาร จะทำให้มีพลังรับโชคได้อย่างรวดเร็ว หรืออาจใช้สีขาวทาเป็นสีภายใน โดยเฉพาะบ้านที่มีสมาชิกหลายคนจะดีมาก เพราะสีขาวถือเป็นสีที่เป็นศูนย์รวมพลังงาน

2.ทิศด้านหน้าและด้านหลัง
มาลองจับเข็มทิศเเยกเเยะทิศกันดูก่อน ถ้ารู้ทิศแล้ว ลุยเลย!

  • ทิศเหนือแทนด้วยธาตุน้ำ อยู่ในกลุ่มของสีฟ้า สีน้ำเงิน สีเทา และสีดำ
  • ทิศใต้เเทนด้วยธาตุไฟ อยู่ในกลุ่มสีเเดง สีชมพูเข้มหรืออ่อนก็ได้
  • ทิศตะวันออกเเทนด้วยธาตุไม้ อยู่ในกลุ่มสีเขียวหรือลายเนื้อไม้
  • ทิศตะวันตกเเทนด้วยธาตุทอง อยู่ในกลุ่มสีขาว สีออกโลหะ
  • ทิศเฉียงต่าง ๆ ทั้งสี่ทิศเเละบริเวณตรงกลางเเทนด้วยธาตุดิน

เวลาเราจะเลือกสีภายนอก ให้ใช้ประตูหน้าบ้านเป็นเกณฑ์ เเละใช้หลักพลังธาตุส่งเสริมเข้าหา เเล้วลำดับไป เช่น ไม้ส่งเสริมไฟ ไฟก่อเกิดดิน ดินเกิดทอง ทองทำให้เกิดน้ำ น้ำส่งเสริมไม้ เเล้ววนกลับเป็นวัฎจักร ส่วนสีภายใน ให้ใช้พลังที่เป็นตัวกลางเข้ามาประสาน ซึ่งควรเป็นสีโทนอ่อน เพื่อให้ความรู้สึกโปร่งสว่าง ไม่รู้สึกคับเเคบ ต่อมาเรามาดูสีมงคลประจำทิศมีดังนี้ home

  • ประตูบ้านหันหน้าทางทิศใต้
    สีภายนอก : สีครีม สีเเดง สีส้ม สีเหลือง และสีเเนวเอิร์ธโทน
    สีภายใน : สีเขียวอ่อน
  • ประตูบ้านหันหน้าทางทิศเหนือ
    สีภายนอก : สีฟ้า สีเขียว และสีเทา
    สีภายใน : สีเขียวอ่อน
  • ประตูบ้านหันหน้าทางทิศตะวันออก
    สีภายนอก : สีเขียวหรือเขียวอ่อน สีเนื้อไม้ สีชมพู และสีแดง
    สีภายใน : สีฟ้าอ่อน
  • ประตูบ้านหันหน้าทางทิศตะวันตก
    สีภายนอก : สีขาว สีฟ้า สีน้ำเงิน และสีเทา
    สีภายใน : สีฟ้าอ่อน
  • ประตูบ้านหันหน้าทางทิศเฉียงต่างๆ
    สีภายนอก : สีเหลือง สีครีม และสีขาว
    สีภายใน : สีครีมหรือสีขาว

3.บ้านหลายสี
พิจารณาจากหลักเกณฑ์ข้างต้น เเละขอให้อยู่ในวงจรต่อเนื่องของพลังงานตามธาตุ คำนึงถึงบ้านหันไปทางทิศไหน ส่วนถ้าชอบสีนี้เเต่ไม่ถูกตามหลังฮวงจุ้ย ก็สามารถพลิกเเเพลงได้ เช่น ประตูหน้าบ้านหันทางทิศใต้ ต้องทาด้วยสีเอิร์ธโทน สีน้ำตาล เเต่ถ้าเราชอบสีขาว ก็สามารถแก้ด้วยการทาสีน้ำตาล หรือสีเอิร์ธโทนที่ส่วนล่างให้เป็นธาตุดินเพื่อเชื่อมกับธาตุไฟ เเล้วค่อยทาสีขาวไว้ข้างบนอีกที

4.ดวงชะตาของเจ้าของบ้าน
เรื่องนี้ต้องตรวจดวงชะตาโดยซินเเส เช่น เจ้าของบ้านชอบธาตุดินกับไฟ ก็เลือกใช้เเนวสีครีมและสีชมพูทั้งสองสีก็ได้ นอกจากนี้เรายังนำไปประยุกต์กับหลังคาได้ด้วย เช่น ทางสีเอิร์ธโทนภายนอก แล้วหลังคาเป็นสีเเดงก็ได้
รู้เรื่องการทาสีตามหลักฮวงจุ้ยกันเเล้ว ใครธาตุไหน บ้านเราหันไปทางไหน ฯลฯ ก็เลือกสีได้เลย ส่วนใครที่กำลังสร้างบ้านหรือคิดจะเปลี่ยนสีบ้านใหม่ก็ลองนำไปศึกษาดูเป็นแนวทางได้ อย่าลืมสิ่งสำคัญต้องทำให้บ้านเราสดใสอยู่เสมอ เพราะผนังบ้านก็เปรียบเหมือนผิวพรรณของเรา หากบ้านสวยงาม มีพลังงานธรรมชาติสะสม ก็จะช่วยเรื่องผิวพรรณของเราด้วย ข้อดีเพียบขนาดนี้…อย่าลืมเอาไปปรับใช้กันล่ะ!

เลือกสีทาบ้าน

ฮวงจุ้ยสีทาบ้าน

หนึ่งในตัวช่วยตกแต่งบ้านที่นอกเหนือจากมัณฑนากรแล้ว ก็คงจะหนีไม่พ้นหลักฮวงจุ้ย ที่จะช่วยเปิดทางให้พลังงานหมุนเวียนภายในบ้านอย่างสมดุล เช่นเดียวกับวันนี้ที่gikจะมานำเสนอแนวทางการเลือกสีทาบ้านตามฮวงจุ้ยให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละห้อง เพราะถ้าหากเลือกสีทาภายในได้ถูกโฉลกแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยส่งเสริมให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเราดีขึ้น ไปดูกันค่ะว่า ฮวงจุ้ยสีทาบ้าน ที่เราควรรู้มีอะไรบ้าง home

1. ต้องรู้หน้าที่หลักของสีตามศาสตร์ฮวงจุ้ยก่อนอื่นใด
อยากจะเลือกเฉดสีทาห้องให้ถูกต้องตรงตามหลักฮวงจุ้ย เราก็ต้องรู้ซะก่อนว่าสีในทางศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้นมีความสำคัญอย่างไร เพราะสีส่งผลกระทบกับหลาย ๆ สิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ สิ่งแวดล้อมรอบข้าง รวมไปถึงอารมณ์และจิตใจของเรา โดยแต่ละโทนสีต่างก็มีพลัง ชี่ (Chi) หมุนเวียนแตกต่างกันออกไป ฉะนั้นแต่ละพื้นที่ในบ้านก็จะใช้สีไม่เหมือนกันหรือปรับสมดุลได้ด้วยเฉดสีที่แตกต่าง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้อาศัยนั่นเอง

2. สำรวจก่อนเลยว่าใครใช้ห้องนั้นบ่อยมากที่สุด
หลังจากที่เรารู้แล้วว่าเฉดสีมีอิทธิพลต่อสิ่งรอบข้างอย่างไร เราก็ต้องไปสำรวจกันต่อว่า ในแต่ละห้องหรือแต่ละพื้นที่ภายในบ้าน ใครเป็นผู้ที่ใช้งานพื้นที่เหล่านั้นบ่อยที่สุด ตัวอย่างเช่น ห้องนอนของลูกน้อยก็ต้องเป็นเด็ก ๆ ที่ใช้งานบ่อยสุด ดังนั้นควรจะใช้สีแดงในการตกแต่งผนังเป็นหลัก หากต้องการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก ๆ ส่วนสีเหลือง สีส้ม และสีเขียวน้ำทะเล เป็นสีที่ส่งพลังให้เด็กกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ อย่างมีความสุข 

3. เลือกสีสันโทนจัดจ้านให้กับห้องที่ต้องการชีวิตชีวา
ห้องหรือพื้นที่ในบ้านที่เหมาะกับสีจัด ๆ ได้แก่ ห้องกินข้าว ห้องทำงาน และโถงทางเดิน เพราะความสว่างไสวและความสดใสของสีสันเหล่านี้มีพลังงานหมุนเวียนอยู่มาก เช่น แดง ชมพูสว่าง ม่วง เหลืองสดใส หรือส้มสด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นพลังงานในตัวไปพร้อมกับการสร้างแรงบันดาลใจ ที่สำคัญยังช่วยปรับระบบการทำงานของเลือดในร่างกายที่ส่งผลต่อหัวใจอีกด้วย เรียกว่าได้เสริมทั้งโชคทั้งสุขภาพร่างกายกันเลยทีเดียว

4. อย่าคำนึงถึงแต่ความโชคดีเพียงอย่างเดียว
จากคำบอกเล่าที่เคยได้ยินกันมาทำให้เรายึดถือเองเอาว่า สีแดง เป็นสีแห่งความโชคดีมีชัย เลยเลือกที่จะใช้สีแดงทาทั้งห้องซึ่งรวมไปถึงของตกแต่งที่เป็นสีแดง จะพาให้บรรยากาศในห้องดูร้อนแรงจนไม่กล้าจะชายตามองเลยทีเดียว และยิ่งไปกว่านั้นถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบสีแดงอยู่แล้วละก็จะยิ่งส่งผลร้ายที่อาจทำลายความสุขภายในบ้านตามไปด้วย เพราะมันจะไปกระตุ้นอารมณ์ในแง่ลบในตัวเรา ดังนั้นหากจะใช้ก็ควรตกแต่งห้องด้วยสีแดงแต่พอดีไม่มากจนเกินไป

5. เฉดสีอบอุ่นสบายตาเหมาะกับห้องที่ต้องการความเงียบสงบ
แน่นอนว่าห้องนอนเป็นห้องที่ต้องการความเงียบสงบเพื่อเข้าสู่นิทราและใช้พักผ่อนเป็นหลัก ดังนั้นเราจึงควรปรับบรรยากาศด้วยการเลือกเฉดสีกลาง ๆ หรือโทนสีธรรมชาติ เช่น เขียว ฟ้า ขาวไข่มุก หรือสีแนวเอิร์ธโทนทั้งหลาย พร้อมกับหลีกเลี่ยงเลือกสีในโทนสว่างไสวและมืดครึ้มจนเกินไป เพราะจะทำให้บรรยากาศในห้องนอนไม่น่านอน หากไม่สว่างจ้าเกินไปก็จะทำให้ดูอึดอัดคับแคบจนไปรบกวนการนอนของคุณ

6. เลือกใช้สีดำไม่ผิดแค่ต้องคิดและใช้ให้ถูกวิธี
หากคุณมีรสนิยมชมชอบในการแต่งบ้านด้วยสีดำก็ไม่ผิดอะไรหรอกนะคะ แต่ในทางฮวงจุ้ยแล้วการทาสีดำในห้องนอนและห้องครัวถือว่าไม่ควรโดยเด็ดขาด เนื่องจากสีดำนั้นดูเคร่งขรึมไม่เหมาะกับการพักผ่อน ส่วนการทำครัวก็จำเป็นที่จะต้องใช้ไฟและอุปกรณ์แหลมคม หากใช้สีดำอาจทำให้ได้รับอันตรายเอาง่าย ๆ แต่หากใจมันชอบก็ต้องหาทางออกด้วยการติดตั้งไฟให้ส่องสว่างมองเห็นทุกรายละเอียดอย่างชัดเจน ตกแต่งด้วยสิ่งของสะท้อนแสง หรือภาพวาดที่ดูตัดกับสีห้องเพื่อสร้างความสมดุลในทางธรรมชาติและเพื่อความปลอดภัย บ้าน

7. คิดทบทวนให้ดีถ้าจะเลือกใช้สีขาว
สีขาว คือตัวแทนแห่งด้านสว่างที่หลายคนอาจมองว่า เป็นสีที่สบายตาแลเป็นดูธรรมชาติ แต่ในทางฮวงจุ้ยแล้วสีขาวนั้นดูสว่างจ้าและกระจายแสงมากจนเกินไป มักจะทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกไม่มั่นใจจนอาจถึงขั้นอึดอัดเลยก็เป็นได้ แต่ถ้าอยากให้ห้องดูโปร่งโล่งและสว่างนั้น แนะนำให้เลือกใช้สีขาวในเฉดสีมุก สีขาว-เทา หรือตกแต่งด้วยสิ่งของที่ดูตัดกันกับสีห้อง เพียงเท่านี้ก็จะทำให้บรรยากาศให้ห้องดูสมดุลมากขึ้นแล้วค่ะ

8. เฉดสีธรรมชาติอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสม
ถึงคราวยินดีกับคนที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านในสไตล์ธรรมชาติด้วยสีแนวเอิร์ธโทนแล้วละค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นเทรนด์ใหม่มาแรงในปีนี้แล้ว มันยังถูกโฉลกตามหลักฮวงจุ้ยกับการสร้างความสมดุลได้อีกด้วย แต่ถ้าใครที่ไม่ค่อยคลิกกับเฉดสีนี้เท่าไรก็ไม่จำเป็นต้องฝืนใจ สามารถหาของตกแต่งมาใช้แทนก็ได้ เช่น ผ้าม่านทอ ผ้าคลุมเตียงสีเอิร์ธโทน หรือจะใช้พรมขนสัตว์ เป็นต้น สีทาบ้านกับดวง

9. ทดลองทาสีก่อนตัดสินใจใช้จริง
หลังจากที่เลือกเฉดสีได้ตรงตามหลักฮวงจุ้ยตามที่ต้องการแล้ว ก็อย่าเพิ่งตัดสินใจสั่งซื้อสีนั้นตั้งแต่แรกเจอเลยทันที ให้นำมาทดลองทาบนผนังบ้านเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสประมาณ 12×12 นิ้วดูก่อน แล้วคอยสังเกตเมื่อสีสัมผัสกับแสงว่าเฉดสีเปลี่ยนไปหรือไม่ ตรงตามสเปคฮวงจุ้ยที่คาดหวังไว้ตั้งแต่แรกหรือเปล่า เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นภายหลังค่ะ

10. ของตกแต่งก็ปรับเปลี่ยนฮวงจุ้ยแทนการทาสีห้องได้
แม้การทาสีห้องตามหลักฮวงจุ้ยเป็นอีกหนึ่งทางที่จะพาเราไปพบกับเรื่องราวดี ๆ ในชีวิต แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้ เนื่องมาจากหลาย ๆ ปัจจัย ดังนั้นการเลือกใช้ของตกแต่งที่มีสีถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยสีทา บ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ไม่สะดวกทาสีห้องใหม่ ซึ่งสามารถใช้แทนการเปลี่ยนสีห้องได้เลย