บ้านไม้ สองชั้น

บ้านไม้ สองชั้น
บ้านไม้ สองชั้น

บ้านไม้ สองชั้น

บ้านไม้ สองชั้น หากเราต้องการเป็นเจ้าของบ้านสักหลัง นับว่าไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่จะคิดเพียงชั่ววูบแล้วตัดสินใจได้ เพราะมีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อน โดยเฉพาะบ้านหลังใหญ่ที่มีดีเทลค่อนข้างยิบย่อย บ้าน ซึ่งการที่จะได้มาซึ่งบ้านที่ตอบโจทย์เรามากที่สุดนั้น จะต้องได้ทั้งช่างฝีมือดี และสถาปนิกที่เป็นงานด้วย วันนี้ ในบ้าน ก็จะพาไปชมการสร้างบ้านของคุณ

  Agent Molder เป็นบ้านสองชั้น ที่มีการตกแต่งอย่างละเอียดและพิถีพิถัน บ้าน กลายมาเป็นบ้านสุดหรูที่ให้ครอบครัวขนาดใหญ่สามารถอาศัยอยู่ได้สบายๆ งานนี้เจ้าตัวจะมาแจกแจงรายละเอียดที่สำคัญต่างๆ ให้เพื่อนๆ ชาวเว็บได้ชมกันครับ ตามไปดูกันเลย สวัสดีครับเพื่อนๆชาว Pantip ผมเคยมา Post รีวิวงานสร้างบ้านของผมเอง

ตั้งแต่สมัยบ้านเพิ่งเริ่มสร้างเมื่อ 3 ปีก่อน (นานมากกก) บ้าน ตอนนั้นรีวิวไปได้สัก 6 เดือน บ้านก็ไปไม่ถึงไหน เลยเลิกรีวิว…เวลาผ่านมาเกือบสามปี บ้านผมก็เสร็จสักที แม้จะยังไม่ 100% แต่ก็เป็นรูปร่างเข้าอยู่ได้แล้ว เลยจะมารีวิวรวบยอดอีกครั้งครับ ไม่พูดพล่ามทำเพลง ไปดูรูปกันเลยครับ

เปิดตัวด้วยภาพบ้านที่เสร็จแล้วของผมก่อนเลยละกันครับ เรียกน้ำย่อย เรียกแขก ภาพหน้าตรง 2 นิ้วติดบัตร ที่ดิน 529 ตร.ว ตัวบ้านขนาด 590 ตร.ม. แบ่งเป็นส่วนตัวบ้านมีหลังคาคลุม 450 ตร.ม. โซนเมดและห้องโฮมเธียเตอร์ หลังคาแสลป 140 ตร.ม.

จุดเริ่มต้นของการสร้างบ้าน

ย้อนไป 5 ปีก่อน เริ่มจากอยากมีบ้านสักหลังเป็นของตัวเองหลังจากแต่งงาน ได้ตระเวนหาหมู่บ้านสร้างเสร็จในระแวกที่ทำงาน ก็ไม่เจอที่ถูกใจ ทั้งถูกใจเราและเมีย(ข้อหลังนี้สำคัญมาก) ตั้งงบไว้ที่ 10 ลบ.++ ไปเจอแบบบ้านที่ชอบ แต่ก็แพงและเนื้อที่น้อยมาก มีโครงการณ์นึงของ Casa ชื่อ Casa Legend แบบบ้านถูกใจ ราคาราวๆ 13-14 ลบ. 

 แต่ตัวโครงการณ์เขาปลูกบ้านชิดกันมากเกิน บ้านแต่ละหลัง ยืนฉี่ก็แทบชะโงกเห็นกันได้เลย เนื้อที่รอบบ้านก็แคบ เปิดประตูรั้ว เดินสามก้าวถึงตัวบ้านเลย แฟนก็ไม่ชอบ เพราะอยากได้ที่กว้างๆ ทุ่งลาเวนเดอร์ไว้หมุนตัวเล่น(ประชดเมีย) ก็เลยติดไว้ก่อน ต่อมาก็เลยคุยกับแฟนว่าจะเอาไงกันดี พอดีได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนและพี่ที่ทำงาน

ก็บอกว่าเลยตัวอำเภอไปหน่อย จะมีหมู่บ้านนึงขายที่ดินจัดสรร ให้เราสร้างบ้านเอาเอง ก็เริ่มสนใจ แต่เขาขายเป็นไร่ เลยคิดว่าต้องแพงแหงมๆ แต่ก็ลองขับรถเข้าไปดู โอ้วแม่จ้าวว นี่มันหมู่บ้านเมืองไทย คือย่านเบเวอรี่ฮิลที่อเมริกา บ้านแต่ละหลังนี่ใหญ่โต โอ่อ่ายังกะวัง เนื้อที่ 1 ไร่มันช่างใหญ่จริงๆ มีสนามกอล์ฟ เห็นวิวภูเขา สวดยวดมากๆ

หมู่บ้านนี้ขายที่ดินจัดสรร ไม่มีบ้าน ให้ปลูกเอง (คล้ายปัยญาตรงรามอินทราอ่ะ) ขายเป็นแปลง แปลงละอย่างต่ำก็ 1 ไร่ มีสนามกอล์ฟ คลับเฮาร์หรู คอนโดอีกสองหลัง ในหมู่บ้านมีแต่เจ้าของธุรกิจ และหมอทั้งนั้น ตอนแรกเลยคิดว่าคงไม่มีปัญญาแน่ๆ มาดูเอาบุญ แต่ขับๆไปเจอป้ายประกาศขายอยู่ วาละ 15,000

ก็ตกไร่ละหกล้าน ก็เริ่ม เฮ้ย ไม่แพงมากนิ ไร่หกล้าน สร้างบ้านอีก 7-8 ล้าน ก็รวมๆ 13-14 ล้าน ซึ่งพอๆ กับบ้านคาซ่าเลย แถมได้ที่ตั้ง 1 ไร่ ก็เริ่มสนใจแล้ว กลับมานั่งดูกระปุกออมสิน คงไม่พอซื้อสด แต่น่าจะกู้ได้ ก็เลยเริ่มไล่หาแปลงสวยๆในหมู่บ้านซะเลย จนสุดท้ายก็หาได้ในราคาที่ถูกมากๆเมื่อเทียบกับแปลงอื่นๆที่ขายกัน ที่มันถูกเพราะเป็นที่ดินติดคดี เจ้าของเดิมเขามีภาระหนี้สิน ทำให้ต้องเอาที่ไปจำนองสามแปลง

ดังนั้น ถ้าจะขายต้องขายสามแปลงรวด คำนวนราคาสามแปลงถ้าจะสู้ไม่ไหว ตอนแรกจะถอดใจ แต่ก็ได้เพื่อนที่ช่วยซื้อให้แปลงนึง(เพื่อนจะปลูกบ้านเหมือนกัน) และอีกแปลงคุณพ่อผมเองท่านก็ช่วยซื้อไว้ให้(แต่ซื้อในชื่อของพ่อนะครับ) สรุปก็ได้ที่ดินแล้ว เย้ ก็ทำการเคลียริ่งรังวัดกันไป เมื่อมีที่แล้วก็ต้องมีบ้านละ ในตอนแรกผมกะใช้บริการ บ.รับสร้างบ้าน แต่หาแบบตามงบที่เราตั้งไว้ ไม่เจอแบบที่ถูกใจเลย

โดยแบบที่ผม(และภรรยา) ชอบจะต้องมี  ห้องหลังคากระจก(แบบคาซา), ห้องสมุด, มี Fitness, ห้อง Home theatre, ห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งไม่มีที่ไหนเขามีกันหรอกครับ 555+ (ความต้องการสูง แต่งบต่ำ) เคยเข้าไปคุยๆก็เพิ่มโน่น ลดนี่ได้ไม่มาก เพราะพวก บ.สร้างบ้าน แบบบ้านเขา Fix มาแล้วเรื่อง Cost ในการก่อสร้าง ถ้าเราไปเปลี่ยนเรามีแต่จะต้องเพิ่มตัง

บ้านไม้ สองชั้น

พอดีผมนึกได้ว่าเพื่อนสนิทสมัยมัธยมผมเป็นสาถาปนิก เมียเขาเป็นอินทีเรีย เลยจะลองปรึกษาสักหน่อย คุยไปมา มันก็บอกว่า งั้นกรูทำให้เมิงเอง โอ้วว เพื่อนเลิฟ สรุปคือให้เพื่อนผมออกแบบบ้านควบงานอินทีเรียไปเลย ไม่ได้ทำฟรีนะครับ ร่างสัญญา จ่ายเงินจริงๆจังเลย ดีครับ แบบนี้ชอบ home

ถึงเป็นเพื่อนกันแต่เรื่องการทำงานก็ต้องมืออาชีพ จะมาทำปากเปล่าไม่ได้ แต่ราคาเพื่อนก็ลดให้เยอะอยู่ครับ โดยเบื้องต้นผมได้ร่างแบบบ้านที่ผมชอบเอง ด้วยฝีมือวาดรูประดับอนุบาล โดยแบบที่ชอบผมก็หาจากในเนตครับ ตามพวก บ.รับสร้างบ้านเนี่ยแหล่ะ และก็มีไปตระเวนดูบ้านตามโครงการณ์ต่างๆ

โดยผมต้องการบ้านขนาด 400-500 ตร.ม. ซึ่งใน กทม.บ้านระดับนี้ราคาปาไป 20-50 ล้านทั้งนั้นเลยครับ แต่ผมก็หน้าด้านไปขอเขาดูบ้านครับ และเก็บๆเอาสิ่งที่เราชอบมาออกแบบ พอเพื่อนเห็นแบบบ้าน มันก็กร๊ากเลย บอกว่า เมิงไปทำงานของเมิงเหอะ ตรงนี้กรูจัดการเอง ผมก็เลยปล่อยให้มันจัดการ โดยการที่ผมบอกความต้องการทุกอย่างลงไป

เวลาคุยกับสถาปนิกนี่เขาซักละเอียดมากนะครับ ตื่นมาทำอะไร กลับมาทำอะไรก่อนหลัง ชอบอยู่ส่วนไหนของบ้านมากกว่า โน่น นี่ นั่น เยอะมากๆ แต่ข้อดีคือได้บ้านที่ตอบสนองความต้องการของเรา ไม่ใช่เราต้องไปปรับตัวเข้ากับบ้านเหมือนซื้อบ้านโครงการณ์สร้างเสร็จ ข้อเสียคือ ตังค์ครับ 555+ การออกแบบก็ต้องมีค่าใช้จ่าย… หลังจากนั้นไม่นานแบบบ้านผมก็เสร็จ จริงๆมีการแก้กัน 2 – 3 รอบ จนลงตัวครับ

ทำแปลน 3D ออกมาให้เห็น ให้ file skp ผมมาหมุนเล่น ซูม เปิดหลังคาได้ด้วย ช่วงนั้นบ้าเห่อมาก เล่นแปลนบ้านทุกวัน ใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ทั้งแบบบ้าน แบบก่อสร้างก็เสร็จสมบูรณ์ พร้อมเอาไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างได้แล้ว ระหว่างยื่นขออนุญาตก็ถึงขั้นตอนที่สำคัญและปวดหัวสุดๆคือการหา ผรม.ครับ ผมสิง Pantip อยู่นาน

รู้เลยปัญหาอันดับหนึ่งของการสร้างบ้านคือ ผรม. ยิ่งกว่าเมียอีก เกินครึ่งทั้งใน pantip ทั้งเพื่อนๆ คนรู้จักมีปัญหากับ ผรม.ทั้งนั้น ผมได้ ผรม.ที่เป็น candidate 4 ท่านครับ จากคนรู้จัก จากที่เพื่อนสถาปนิกแนะนำ และจากเนต และใช้วิธีประมูลราคาก่อสร้าง เอาแบบบ้านไป ตี BOQ มาแล้วมาดูราคา + โหงวเฮ้งตอนไปคุย บ้าน

เลือกอยู่เกือบสองเดือน สุดท้ายก็ได้เจ้าที่คิดว่าดีที่สุดมาครับ ราคาแพงสุดในทุกเจ้าเลย แต่จากการพูดคุยต่างๆ และ BOQ ที่ให้มา ก็เลยเลือกครับ(แต่ ณ ตอนนี้ที่บ้านเสร็จแล้ว ก็พบว่าคิดผิด)