บ้านไม้ชั้นเดียว

บ้านไม้ชั้นเดียว

บ้านไม้ชั้นเดียว

บ้านไม้ชั้นเดียว การปลูกบ้าน หรือสร้างบ้านใหม่ส่วนใหญ่แล้ว คนมักจะนิยมสร้างบ้านเป็น บ้านไม้ กับ บ้านปูน ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ถือเป็นวัสดุพื้นฐานที่คนนิยมใช้สร้างกัน ด้วยเหตุผลหลักคือ ให้ผู้อยู่อาศัยอยู่ได้สะดวกสบาย อากาศถ่ายเท แต่ทั้งสองอย่างนี้ก็มีรูปลักษณ์คุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปที่ไม่เหมือนกัน HOME

โดยเจ้าของบ้านควรมีการศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนว่า บ้าน ที่เราจะอยู่นั้นเหมาะกับวัสดุชนิดใดมากกว่ากัน ซึ่งเราจะมีข้อเปรียบเทียบพิจารณากันว่าบ้านไม้ กับบ้านปูน มีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร โดยข้อมูลต่อไปนี้จะเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่สามารถดูไว้เป็นตัวอย่างก่อนการสร้างบ้าน บ้านเดี่ยว เพื่อประโยชน์สุดของคุณ

อย่างแรกหากพูดถึงเรื่องการถ่ายเทอากาศภายในบ้าน HOME IN PHUKET บ้านไม้จะสามารถถ่ายเทอากาศได้ดีมากกว่าบ้านปูนทั่วไป เพราะมีช่องที่ลมสามารถพัดผ่านเข้าออกได้มากกว่า บรรยากาศภายในบ้านไม้จึงมาพร้อมความรู้สึกที่สดชื่นอย่างเป็นธรรมชาติ และโปร่งสบาย ไม่อึดอัด ส่วนบ้านปูนถึงแม้จะ ไม่โปร่งสบาย เท่าบ้านไม้

แต่หากมีการจัดวางในทิศทางลมที่เหมาะสม หรือทำช่องอากาศที่มีขนาดกว้างขวางมากขึ้นก็จะช่วยให้บรรยากาศภายในบ้านปูนเย็นสบายมากยิ่งขึ้น ส่วนบ้านไม้ปัญหาที่ยังพบบ่อยคือ เกิดปัญหาเรื่องปลวกกัดกินและทำความเสียหายให้บ้านได้มากกว่าบ้านปูน แต่บ้านไม้ก็เป็นบ้านที่มาพร้อมความแข็งแรง ทนทาน และสามารถยืดหยุ่นได้มากกว่า โดยเฉพาะหากเกิดแผ่นดินไหว บ้านปูนสามารถเกิดรอยร้าวได้ง่ายกว่าบ้านไม้

สำหรับเรื่องของราคา แน่นอนว่าแบบบ้านไม้ย่อมมีราคาที่สูงมากกว่า และหากเป็นไม้ที่มีคุณภาพดีประเภทไม้เนื้อแข็งอย่างไม้สักทองก็ยิ่งมีต้นทุนด้านราคาที่สูงมากขึ้นกว่าบ้านปูน อีกทั้งการก่อสร้างบ้านไม้ยังเป็นงานที่ใช้ฝีมือแบบช่างโบราณค่อนข้างมาก จึงทำให้ราคาสูงมากกว่าบ้านปูนในปัจจุบันที่มีการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีทันสมัยต่างๆ มากมายที่ช่วยทำให้สามารถก่อสร้างได้ในเวลาอันรวดเร็วโดยไม่เปลืองค่าแรงงานมากนัก

บ้านไม้ชั้นเดียวสุดเก๋

บ้านไม้ชั้นเดียว

“ฌ เฌอ” แบบบ้านไม้สำเร็จรูป โดย Context Studio

ฌ เฌอ home บ้านสำเร็จรูปที่ถูกออกแบบในสไตล์ Back to the Roots หรือก็คือการกลับไปใช้ชีวิตคู่กับธรรมชาติ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบ้านของคนไทยที่อาศัยอยู่ร่วมกับธรรมชาติมากว่า 100 ปี ผลงานการออกแบบโดย Context Studio พัฒนาโดย Seas Concept ครับ ตัวบ้านชั้นเดียวทรงกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า

โดดเด่นด้วยการใช้งานไม้สำหรับงานโครงสร้าง ผสมผสานไปกับผนังโทนสีขาวสุดเรียบง่าย ส่วนหน้าอาคารเป็นกระจกโปร่งแสงทั้งหมด เผยให้เห็นรายละเอียดพื้นที่ใช้สอยภายในอย่างชัดเจน และเป็นการเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างภายในบ้านกับเฉลียงหน้าบ้านอีกด้วย จากหน้าบ้าน จะเป็นเฉลียงไม้ที่ยาวทอดออกมา มีต้นไม้ปลูกขึ้นบริเวณขอบเฉลียง นอกจากนี้ ผู้ออกแบบยังได้จัดวางบริบทรอบด้านให้เป็นป่าไม้สุดร่มรื่น พร้อมด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวที่หน้า บ้าน

การตกแต่งภายในจะเน้นอยู่สองอย่างก็คือ โทนสีขาวกับงานไม้ โดยผนังและฝ้าเพดานนั้นจะเป็นโทนสีขาว รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์อย่างโซฟา ผสมผสานไปกับงานไม้จากพื้น เคาน์เตอร์ครัวบิวท์อิน และระแนงไม้ที่เป็นพาร์ทิชั่นแบ่งพื้นที่ บริเวณด้านหลังเคาน์เตอร์ทำครัวเป็นกระจกโปร่งแสง

จึงทำให้สามารถมองทะลุจากภายนอกได้ ช่วยให้บรรยากาศการใช้ชีวิตภายในกลมกลืนไปกับธรรมชาติภายนอกตามคอนเซ็ปต์การออกแบบนั่นเองครับ การจัดสรรองค์ประกอบต่าง ๆ จะเน้นความโปร่งโล่งของพื้นที่เป็นหลัก จัดห้องแบบ Open Plan เชื่อมฟังก์ชันการใช้งานของห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องทานข้าวไว้ในห้องเดียวกัน บ้าน

แบบบ้านหลังนี้ประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องโถงใหญ่ (นั่งเล่น ครัว ทานอาหาร) บนพื้นที่ใช้สอย 72 ตารางเมตร

ปล. งบประมาณในการสร้างบ้านแต่ละหลังที่แตกต่างกันนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ก่อสร้าง คุณภาพหรือเกรดของวัสดุ การว่าจ้างช่างฝีมือหรือผู้รับเหมา ฯลฯ ดังนั้น ข้อมูลของบ้านหลังนี้จึงมีไว้เพื่อเป็นตัวอย่างให้ศึกษาเท่านั้น ไม่สามารถนำไปเป็นมาตรฐานในการสร้างบ้านอื่นๆ ที่มีสภาพปัจจัยที่แตกต่างกันได้

บ้านไม้ชั้นเดียว

บ้านไม้โครงเหล็ก สไตล์บ้านตากอากาศ โดย BB-Home บ้านน็อคดาวน์

บ้านน็อคดาวน์หลังนี้ก่อสร้างขึ้นที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ลักษณะเป็นบ้านยกพื้นสูง โครงสร้างภายนอกเป็นเหล็กแต่งแต้มด้วยสีดำ ตัวฐานบ้านก่ออิฐฉาบปูน ผนังกรุไม้เทียมสีเข้ม หลังคาปกคลุมด้วยทรงเพิงหมาแหงน โดดเด่นท่ามกลางสวนนอกบ้านพร้อมต้นไม้สูงใหญ่ ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวบริเวณนอกบ้าน บ้านเดี่ยว ด้านบนมีเฉลียงแนวยาวเชื่อมต่อเข้าไปยังประตูทางเข้าหน้าบ้าน มาพร้อมหลังคาโครงเหล็กยื่นออกมาป้องกันแดดและฝน อีกด้านหนึ่งเป็นระเบียงชมวิวปูพื้นไม้ขนาดพอเหมาะ จัดวางโต๊ะและเก้าอี้ไว้ เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่พักผ่อนจิบกาแฟ สูดกลิ่นอายธรรมชาติในยามเช้า แบบบ้านฟรีจากกรมโยธาธิการและผังเมือง

ในส่วนของพื้นที่ด้านใน ผนังกรุไม้ลามิเนตสีเข้ม ตัดกับพื้นสีขาวดำลายโบราณ จัดวางเฟอร์นิเจอร์ไว้ตามมุมต่างๆ พร้อมกันนี้ก็ได้ติดตั้งหน้าต่างกระจกบานใสไว้โดยรอบ ซึ่งช่วยในเรื่องของการเพิ่มแสงสว่างภายในห้องได้เป็นอย่างดี ห้องครัวตกแต่งสไตล์ร่วมสมัย ผนังและเคาน์เตอร์ครัวปูกระเบื้องเงาลายอิฐโชว์แนวสีดำ ปิดทับด้วยท็อปสีดำเงา พื้นปูกระเบื้องตรีทัชลายวินเทจ ประดับด้วยโคมไฟแขวนดีไซน์คลาสสิค โซนซักล้าง แบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็นส่วนซิงค์ โซนเปียก

และด้านในเป็นโซนแห้ง สามารถจัดวางเครื่องซักผ้าหรืออุปกรณ์ทำความสะอาดประเภทต่างๆ ได้ ห้องนอนปูพื้นไวนิลลายไม้ ผนังกรุลามิเนตสีเข้ม มาพร้อมหน้าต่างมองทิวทัศน์ภายนอกได้อย่างถนัดตา ห้องเสื้อผ้าหรือ Walk-in Closet มีขนาดกะทัดรัด แต่ก็ช่วยให้พื้นที่ใช้งานในห้องดูเป็นระเบียบ ไม่เกะกะสายตา ห้องน้ำกว้างขวาง ปูพื้นกระเบื้องลายไม้ ผนังตกแต่งด้วยลวดลายวินเทจสวยงาม นอกจากนี้ยังติดตั้งฉากกระจกเพื่อแยกระหว่างพื้นที่เปียกและแห้ง ซึ่งนอกจากจะง่ายต่อการทำความสะอาดแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี

บ้านน็อคดาวน์ขนาดกลาง ประกอบไปด้วย 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ รับแขก ห้องครัว ห้องซักล้าง และระเบียงพักผ่อนนอกบ้าน มีราคาต่อหลังอยู่ที่ 1,670,000 บาท

ปล. งบประมาณในการสร้างบ้านแต่ละหลังที่แตกต่างกันนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ก่อสร้าง คุณภาพหรือเกรดของวัสดุ การว่าจ้างช่างฝีมือหรือผู้รับเหมา ฯลฯ ดังนั้น ข้อมูลของบ้านหลังนี้จึงมีไว้เพื่อเป็นตัวอย่างให้ศึกษาเท่านั้น ไม่สามารถนำไปเป็นมาตรฐานในการสร้างบ้านอื่นๆ ที่มีสภาพปัจจัยที่แตกต่างกันได้ โครงการภูวิลล่า ภูเก็ต

ข้อดีขอเสีย ของบ้านไม้

ข้อดี

  • บ้านไม้มีความสวยงาม คลาสสิก ร่วมสมัยไม่ค่อยตกยุค
  • มีความแข็งแรง ทนทาน ว่ากันว่าบ้านไม้มีความทนต่อแรงแผ่นดินไหว
  • ง่ายต่อการรื้อถอน หรือ ปรับปรุงตกแต่งเพิ่มเติม หากจะสร้างใหม่ก็แค่รื้อของเดิมและนำกลับมาใช้ใหม่ได้
  • อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อึดอัดเวลาอยู่ภายในบ้าน
  • ให้ความรู้สึกบรรยากาศภายในบ้านเป็นธรรมชาติ สดชื่น เพราะสร้างจากไม้

ข้อเสีย

  • ไม่สามารถป้องกันสภาพอากาศ เช่น อากาศร้อน อากาศเย็น ในแต่ละฤดูได้ดีเท่าที่ควร เช่น ในหน้าร้อนบ้านไม้จะร้อนกว่าบ้านปูน ในหน้าหนาวบ้านไม้จะเย็นกว่าเพราะลมหนาวจะลอดผ่านเข้ามาภายในตัวบ้าน การแก้ไขสามารถทำได้โดยการบุผนังด้านใน แต่อาจทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
  • อาจมีพวกปลวก มด แมลง มากัดเนื้อไม้ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอยู่ตลอด
    ไม่สามารถป้องกันฝุ่น ควัน หรือกลิ่นต่างๆที่จะเข้ามาในบ้านได้ดีเท่าที่ควร
  • หากสร้างบ้านโดยไม่ใช่ไม้เนื้อแข็ง ในระยะยาวอาจส่งผลให้ไม้ขาดความแข็งแรงแตกหักได้ ปัจจุบันไม้มีราคาสูง อาจทำให้เสียงบประมาณในการสร้างบ้านเพิ่มมากขึ้น

การดูแลรักษา บ้านไม้

บ้านไม้สวย อยู่สบาย หมดปัญหาบ้านผุพัง
บ้านไม้ ถือได้ว่าเป็นบ้านที่มีความสวยงาม อบอุ่น มีอากาศถ่ายเทสะดวก โล่ง สบาย แถมยังมีความยืดหยุนสูง ง่ายแต่การซ่อมแซม รื้อถอน หากมีการต่อเติมหรือโยกย้าย ยังสามารถนำชิ้นไม้กลับมาใช้ได้ใหม่ บ้านไม้มีมาแต่สมัยโบราณ ซึ่งมีลักษณะเป็นทรงไทย มีความงดงาม แต่หลายคนมักเข้าใจว่าบ้านไม้มักมีปัญหาเยอะ ไม่แข็งแรงทนทานเหมือนบ้านประเภทอื่นๆ แถมยังเสี่ยงแต่การผุพัง ทำความสะอาดยาก และอีกมากมาย ซึ่งในปัจจุบันผู้คนหันมาปลูกบ้านปูนกันมากขึ้น บ้าน HOME IN PHUKET ไม้สวย ๆ จึงหาดูยากมาก แบบบ้าน 3 ห้องนอน

บ้านไม้ ! ไม่ได้ดูแลรักษายากอย่างที่คิด
หากมีการปลูกบ้านไม้ในปัจจุบันมีราคาค่อนข้องสูงเพราะต้องใช้ไม้ชั้นดีทั้งหลัง อย่างเช่น ไม้เนื้ออ่อน , ไม้เนื้อแข็ง , ไม้ฝ้า , ไม้บาง , ไม่ซุง เป็นต้น เพราะไม้ประเภทดังกล่าวมีความสวยงาม แข็งแรงทนทาน เหมาะแก่การปลูกบ้านไม้ พี่เข้อยากจะบอกว่าบ้านไม้ไม่ได้ดูแลรักษายากอย่างที่คิด เพียงเรารู้จักวิธีการดูแลที่ถูกต้อง วันนี้พี่เข้มาพร้อม การดูแลรักษาบ้านไม้ ให้สวย ทนทาน  เพื่อให้บ้านไม้มีอายุการใช้งานนาน สวย แข็งแรงทนทาน ไม่ผุพังไปตามธรรมชาติ

การดูแลรักษาประตู หน้าต่าง
การดูแลรักษาบ้านไม้ ควรให้ความสำคัญบริเวณ ประตู หน้าต่าง เพราะบริเวณดังกล่าวมีการใช้งานบ่อยมีการเปิด-ปิด อาจเกิดความเสียหาย หรือ ชำรุดได้ง่ายที่สุด หากมีการโดนฝนจะเกิดการเปียกชื้น เพราะฉะนั้นควรที่จะหมั่นดูแลเช็ค หากพบว่าบริเวณไม้มีบวมชื้น ให้เลื่อนบริเวณที่บวมออกไป พร้อมทั้งมีการทาน้ำมันสีย้อมไม้ทับอีกชั้น

การดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้
แน่นอนเฟอร์นิเจอร์ไม้ต้องมีการดูแลไม่ให้ออกมาโดนแดด โดนลม แถมยังอยู่ภายในบ้าน แต่ถึงอย่างไรก็ต้องได้รับการดูแล เพราะอาจจะโดนหยดน้ำ จากการทำความสะอาดบ้าน HOME IN PHUKET แห้งเป็นคราบ ทำความสะอาดยากขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วควรเลือกใช้น้ำยาเคลือบผิวไม้ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซึมเข้าเนื้อไม้

การตรวจเช็คเนื้อไม้
ควรดูแลรักษาเนื้อไม้ให้มีความแข็งแรง ทนทาน มีการใช้งานยาวนาน เพราะฉะนั้นแล้วควรตรวจเช็คเนื้อไม้ทุก ๆ 4 เดือน เพราะหากมีปลวกมาทำลายเนื้อไม้จะได้แก้ไขทัน โดยการใช้น้ำยาเคลือบเนื้อไม้ เพื่อให้อายุไม้ยาวนาน แถมยังลดปัญหาเนื้อไม่เสียหายมากขึ้น

การดูแลรักษาระเบียงบ้าน
โดยส่วนใหญ่แล้วระเบียงบ้าน หรือ ชานบ้าน เพราะบริเวณดังกล่าวมีการโดนแดด ลม ฝน มากกว่าบริเวณอื่น แถมยังทำให้เนื้อไม้ซีด ผุพัง เพราะฉะนั้นแล้วควรเลือกการทาสีน้ำมัน หรือ สีพลาสติก เพื่อเป็นการดูแลเนื้อไม้ แถมยังทำให้เนื้อไม้มีสีที่เด่นชัด สวยงาม

การดูแลรักษาพื้นบ้าน ผนังบ้าน
ถึงแม้ว่าบริเวณพื้นบ้าน ผนังบ้าน จะไม่ค่อยได้ถูกแสงแดด หรือ ลม ฝน แต่ก็เกิดความเสียหายได้เช่นกัน เพราะไม้บางชนิดไม่ทนต่อการขีดข่วน อาจทำให้พื้นบ้าน ผนังบ้านเกิดรอยได้

อ่านเพิ่มเติม แบบบ้านชั้นเดียว 3 ห้องนอน